สัญญาณจาก ‘นายกฯ อนุทิน’ “ยุบสภา 12 ธันวาคม” มีอะไรหรือไม่? หรือเพียงแค่การเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด

25 พ.ย. 2568 - 03:45

  • สัญญาณเรื่องการยุบสภาจาก นายกรัฐมนตรี ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’

  • ให้รอฟังจากทำเนียบรัฐบาลหรือสภาในวันที่ 12 ธันวาคม นี้ มีอะไรหรือไม่?

  • หรือ "ยุบสภา" วันที่ 12 ธันวาคม เป็นแค่การเตรียมพร้อมขั้นสูงสุดเท่านั้น

สัญญาณจาก ‘นายกฯ อนุทิน’ “ยุบสภา 12 ธันวาคม” มีอะไรหรือไม่? หรือเพียงแค่การเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด

หลังที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาล รับสัญญาณจาก อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้รอฟังสัญญาณจากทำเนียบรัฐบาลหรือสภาในวันที่ 12 ธันวาคม ว่าอาจมีอะไรหรือไม่?

คำพูดข้างต้นของนายกฯ หนู ถูกนำไปถอดรหัสมอสทันทีว่า คือสัญญาณ "ยุบสภา" ตามที่ได้ประกาศไว้ล่วงหน้าไม่กี่วันก่อน พร้อมยุบสภาทันทีในวันเดียวกับการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ วันที่ 12 ธันวาคม ถ้าถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ประมาณว่ายื่นวันไหนก็ยุบวันนั้น แถมยกร่างพระราชกฤษฎีการอเอาไว้อีกต่างหาก

ถัดมายังมีข่าวสะพัดเรื่องสัญญาณที่สองตามมา คือ ให้แต่ละกระทรวงเร่งเสนอโครงการเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในวันอังคารที่ 9 ธันวาคม ซึ่งเป็น ครม.เต็มรูปนัดสุดท้ายก่อนถึงวันที่ 12 ธันวาคม

แม้รัฐมนตรีหลายคนจะออกมาประสานเสียงปฏิเสธ แต่ฟังน้ำเสียงไม่ค่อยจะแข็งแรงนัก สุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บอกไว้สั้นๆ ในเบื้องต้นว่า เรื่องนี้ตนไม่มั่นใจและไม่ได้ดูเรื่องงบประมาณ ก่อนจะตั้งหลักได้และปฏิเสธว่า "ไม่มี ไม่ได้บอก ไม่ได้คุยกันเรื่องงบประมาณ"

ขณะที่ เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกฯ และรมว.คลัง ตั้งหลักมาดีหน่อย ปฏิเสธนำก่อนเลยว่า "ยัง วันนี้ทุกอย่างยังเป็นไปตามปกติ ยังไม่มีการสั่งการดังกล่าว"

ส่วนนายกฯ หนู ยังมากไปด้วยลีลาแบบคงเส้นคงวา ก่อนเข้าประชุมครม.เศรษฐกิจ ตอบคำถามเรื่องโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 จะทันก่อนยุบสภาหรือไม่ว่า "ก็พยายาม" แต่พอถูกถามเรื่องส่งสัญญาณเร่งเสนอโครงการเข้าครม.ก่อน 9 ธันวาคม กลับชี้ไปที่ "เอกนิติ" แทน ก่อนบอกว่า "ขอประชุมก่อนแล้วค่อยแถลง"

แต่หลังการประชุมครม.เศรษฐกิจ พอถูกถามอีกครั้ง นายกฯ หนู อุทานว่า "อ้าว ถามเรื่องการเมือง นึกว่าถามเรื่องงาน" ทว่าคำตอบน่าจะอยู่ที่ สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกรัฐบาล ที่บอกว่า "โครงการคนละครึ่ง เฟส 2 อยู่ระหว่างการพิจารณางบที่จะนำมาใช้ แต่ยังบอกไม่ได้จะได้วงเงินคนละเท่าไร คิดว่าน่าจะทันเสนอเข้าครม.ก่อนวันที่ 12 ธ.ค.นี้"

จากคำพูดของโฆษกฯ สิริพงศ์ ไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย ก็พอเดาออกว่า ทันเสนอเข้าครม.ก่อนวันที่ 12 ธันวาคม ก็คือต้องนำเข้าครม.ภายในวันอังคารที่ 9 ธันวาคม ก่อนวันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญของการเมืองนั่นแหล่ะ

อีกสัญญาณการเมืองที่น่าจะนำไปต่อภาพได้ คือ การนัดหมายเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสส.พรรคกล้าธรรม ในวันที่ 2 ธันวาคม ที่ไบเทค บางนา ซึ่งเปิดแบบใหญ่โตสมเป็นรุ่นใหญ่ไฟกระพริบ เพราะเป็นการมาชุมนุมของบ้านใหญ่ ที่ล้วนแต่ระดับมังกร ซ่อนพยัคฆ์กันทั้งนั้น

ทั้งหมดไม่ใช่การจัดฉากละครทางการเมือง แต่เป็นการเตรียมพร้อมขั้นสูงสุดเอาไว้ ในกรณีที่พรรคเพื่อไทย ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 ก็จะชิงลงมือยุบสภาก่อน แต่ถ้าไม่ยื่นก็อยู่กันยาวไปถึงวันที่ 31 มกราคมปีหน้า

แต่ที่ต้องเตรียมพร้อมเอาไว้ ก็เนื่องจากประเมินสภาพภายในเพื่อไทยชั่วโมงนี้ ขาดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน กุมสภาพกันไม่ได้ เสมือนเรือที่ขาดหางเสือ หรือไม่ต่างกับจวด BM 21 เขมร ที่กำหนดเป้าหมายไม่ได้ ดังนั้น อะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้

รัฐบาลสีน้ำเงิน จึงต้องสั่งเตรียมพร้อมเผื่อเอาไว้

ทั้งๆ ที่หากลัดนิ้วนับหัวดูแล้ว ยังมีอีกหลายคนที่จะออกจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเอาเข้าจริงอาจมีสส.เข้าชื่อกันไม่ถึง 100 คนด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน

พร้อมทั้งอยู่และไป อยู่ก็ได้ไปก็ได้ อารมณ์นั้น

ฟังมาว่าเพื่อให้สมจริงจะให้ครม.มีมติเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ รองรับการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 2 ที่กมธ.จะพิจารณาเสร็จและส่งให้ประธานรัฐสภากันในสัปดาห์นี้

เท่ากับเป็นการย้ำให้โลกรู้ไว้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะได้ไม่ต้องมาโทษรัฐบาล

สุดท้ายในงานดินเนอร์ ทอล์ค ค่ำคืนที่ผ่านมา นายกฯ หนู ย้ำอีกครั้งเรื่องยุบสภา แต่ถ้ายุบก่อนหลายอย่างจะไม่ได้ทำ หนึ่งในนั้นคือ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งหากทำทันจะได้ไม่ต้องมานั่งเถียงกันอีกเรื่องรัฐธรรมนูญมาจากคณะรัฐประหาร

ขณะที่พรรคส้ม ก็ส่งบันไดให้เพื่อไทยหาทางลงเรื่องชะลอยื่นซักฟอกรัฐบาลไปแล้ว "ยุบสภา" วันที่ 12 ธันวาคม จึงเป็นแค่การเตรียมพร้อมขั้นสูงสุดเท่านั้นเอง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์