“ส้ม-น้ำเงิน” รอมชอม เร่งเครื่องแก้ไข รธน. จุดความหวังนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

17 พ.ย. 2568 - 03:48

  • บรรยากาศรอมชอมระหว่าง ปชน. และ ภท.ในคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญสัปดาห์ที่ผ่านมา

  • นับเป็นความลงตัวของฝ่ายอนุรักษ์นิยมและฝ่ายเสรีนิยมที่ปรับจูนเข้าหากันได้

  • ทำให้ความหวังการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เคยเลือนลาง กลายเป็นมีความหวังมากที่สุดอีกครั้ง

“ส้ม-น้ำเงิน” รอมชอม เร่งเครื่องแก้ไข รธน. จุดความหวังนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

“ส้ม-น้ำเงิน” เร่งเครื่องแก้ รธน.

เมื่อได้ปลาแล้ว ให้ลืมเบ็ดเสีย..

มีบางคนในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พูดเอาไว้แบบนี้ โดยเปรียบรัฐธรรมนูญ เป็นเหมือนปลา กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือต่อไปจะเรียกว่า ‘กรธ.’ เป็นเหมือนเบ็ดตกปลา ซึ่งเป็นองค์กรจัดทำรัฐธรรมนูญ ที่เพิ่งเคาะกันไปในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ไม่ว่าจะเป็น กรธ.หรือ สสร.ก็ตาม ถ้านำปลามาให้ได้ ก็ถือว่าบรรลุเป้าหมาย ไม่ต้องยึดติดกับเครื่องมือที่ใช้ว่าเป็นอะไร?

ด้วยเหตุผลที่ว่านี้กระมัง จึงทำให้เกิดบรรยากาศรอมชอมขึ้นในคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากเดิมที่มุ่งสร้างดาวกันคนละดวง ระหว่างกรรมาธิการในสัดส่วนพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย ในที่สุดก็จูนเข้าหากันได้

นับเป็นความลงตัวของฝ่ายอนุรักษ์นิยมและฝ่ายเสรีนิยมที่ปรับเข้าหากัน

ก่อนหน้านี้ หลายคนเริ่มจะหมดหวังกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้น เพราะติดขัดอุปสรรคนานัปการ แต่วันนี้เมื่อตกผลึกร่วมกันได้ โดยเฉพาะพรรคส้มกับพรรคน้ำเงินที่ทำ MOA ร่วมกันไว้

การให้มีคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 35 คน บวกกับคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชนอีก 35 คน ภายใต้สูตร 20 ต่อ 1 หรือ สส./สว.รวมกัน 20 คน หยิบได้ 1 คน โดยไม่มี สสร.

ความหวังที่เคยเลือนลาง กลายเป็นมีความหวังมากที่สุดอีกครั้ง

สัปดาห์นี้คณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะได้ข้อสรุปทั้งหมด ไม่ว่าคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ต่างๆ ของผู้เสนอตัวเป็น กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ และกรรมการรับฟังความเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชน จะมีความลดหลั่นกันอย่างไร เช่น  อายุ และการตัดสิทธิทางการเมืองจำนวนกี่ปีหรือตลอดไป เป็นต้น

เอาเป็นว่า นาทีนี้ในส่วนของเนื้อหา แทบจะลงตัวกันได้หมดแล้ว จึงวางไทม์ไลน์กันไว้หลวมๆ หลังกรรมาธิการเสียงข้างมากได้ข้อสรุปเนื้อหาทั้งหมด จะเริ่มเปิดให้ผู้เสนอคำแปรญัตติเข้าชี้แจงในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ จากนั้น สรุปรายงานเสนอประธานรัฐสภา เพื่อพิจารณาวาระ 2-3 ต่อไป

เบื้องต้นเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า พรรคภูมิใจไทย จะเสนอให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญในวันที่ 8 ธันวาคม และเมื่อพิจารณาวาระ 2 เสร็จ ก็ทิ้งไว้ 15 วัน ก่อนลงมติวาระ 3 ซึ่งจะเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปในวันที่ 12 ธันวาคม โดยจะลงมติได้ในราววันที่ 25 ธันวาคม

ขณะที่ดูจากกรอบเวลาที่เหลือ อาจไม่ต้องเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญด้วยซ้ำ หากไม่คำนึงถึงการรักษาจุดยืนตามที่รับปากกันไว้ เพราะสามารถใช้ช่วงเวลาสมัยประชุมปกติพิจารณาวาระ 2-3 ได้เสร็จทันก่อนสิ้นปี และส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านความเห็นชอบให้ประธานรัฐสภา ส่งต่อให้ครม.ไปดำเนินการออกเสียงประชามติได้ในช่วงต้นปี

ประมาณการณ์กันว่า วันที่ 5 มกราคม 2569 เรื่องจะไปถึงมือครม.ซึ่งจะมีเวลามากถึง 70 วัน หากจะให้ออกเสียงประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้น ตามกำหนดที่จะให้ยุบสภาภายในวันที่ 31 มกราคม 2569

การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เดินมาถึงจุดที่ต้องเร่งเครื่องให้เสร็จทันตามกำหนด หลังพรรคส้มกับน้ำเงินจูนกันติด ส่วนสูตร 20 หยิบ 1 จะเป็นหวยล็อคของใคร หนทางยังอีกใคร ไหนจะต้องผ่านด่านประชามติก่อน และสภาชุดใหม่โน่นที่จะเป็นคนมาหยิบ ไม่ใช่สภาชุดนี้

รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ความหวังของพรรคส้ม ได้เดินมาไกลใกล้จะแตะขอบฝันแล้ว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์