ความเคลื่อนไหวที่เพจท้องถิ่นในจังหวัดอุบลราชธานี รายงานการเคลื่อนกำลังของฝ่ายกัมพูชา โดยอ้างอิงข้อมูลจากโซเชียลมีเดียของคนกัมพูชา และท่าทีของฝ่ายกัมพูชา โดยเฉพาะพ่อ-ลูกตระกูลฮุนสมเด็จฮุน เซน และพล.อ.ฮุน มาเนต ที่เงียบผิดปกติ เริ่มเป็นสัญญาณที่ส่อเค้าว่า อาจจะเป็นคลื่นลมในทะเล ที่เงียบสงบก่อนเกิดพายุใหญ่
เหลืออีกเพียง 7 วัน ก็จะครบหนึ่งเดือนของการหยุดยิง ระหว่างฝ่ายไทยและกัมพูชา หากนับจากห้วงเวลาหลังเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 จนถึงล่าสุด วันที่ 20 สิงหาคม 2568
ตลอดกว่า 20 วัน เหตุการณ์บริเวณแนวชายแดนระหว่างทั้งสองประเทศ ส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมการปรับพื้นที่ กิจกรรมการตรวจเยี่ยม และเข้ามาสังเกตการณ์ของทั้งตัวแทนประเทศต่างๆ รวมทั้งตัวแทนของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ที่ตั้งขึ้นภายใต้กรอบ GBC
แม้จะมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง ระหว่างทหารในพื้นที่ เมื่อฝ่ายหนึ่ง ฝ่ายใด นำคณะผู้สังเกตการณ์ เข้าไปเก็บข้อมูลและรับทราบข้อเท็จจริง แต่ก็ไม่ปรากฏการปะทะกันด้วยกำลัง
มีเพียงฝ่ายไทยที่เหยียบกับระเบิด ซึ่งฝ่ายกัมพูชาลักลอบวางไว้ 2 ครั้ง เป็นเหตุให้ทหารไทยต้องเสียขาไปถึง 2 นาย และไทยได้ทำหนังสือประท้วงไปยังกัมพูชา และได้ทำรายงานไปยังคณะผู้แทนต่างประเทศแล้ว
สถานการณ์โดยรวมของทั้ง 2 ประเทศ ดูเหมือนไม่น่าจะพัฒนาไปสู่การใช้กำลังระหว่างกันอีก เพราะฝ่ายกัมพูชาที่สูญเสียอย่างหนัก โดยคาดว่าจะเสียกำลังพลไปมากกว่า 3 พันนาย ไม่น่าจะปรับกำลังใหม่ เพื่อพร้อมรบได้ในระยะสั้น
ขณะที่ฝ่ายไทย แม้พร้อมเต็มอัตรา ที่จะเปิดฉากการรบได้อีก แต่รัฐบาลและกองทัพ ก็พยายามยึดหลักอดทนและอดกลั้นอย่างเต็มที่ เพื่อใช้เวทีการเจรจา ทั้งในระดับ GBC JBC และRBC ในการหาทางออกจากความขัดแย้ง
แต่เมื่อมีรายงานการเคลื่อนกำลังพลของฝ่ายกัมพูชา แม้ยังไม่มีรายงานว่า เป็นการปรับกำลังเพื่อหมุนเวียน หรือทดแทนกำลังชุดเดิมให้กลับไปพัก หรือเป็นการส่งกำลังเสริมชุดใหม่เพื่อเติมในพื้นที่
แต่การเคลื่อนย้ายกำลังขนาดใหญ่…ก็สร้างสถานการณ์ตึงเครียดในบริเวณแนวชายแดนขึ้นมาทันที
หากเป็นการผลัดเปลี่ยนกำลัง ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะตลอดการรบทั้ง 5 วัน ฝ่ายกัมพูชาสูญเสียอย่างหนัก การนำกำลังทดแทนเข้ามาในพื้นที่ ก็เป็นสิทธิ์ที่กัมพูชาทำได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องไม่ละเมิดข้อตกลงทั้ง 13 ข้อ ที่ได้ร่วมลงนามกันมาแล้วในที่ประชุม GBC ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
แต่หากเป็นการเสริมกำลังเข้ามาใหม่ โดยเฉพาะที่มีรายงานว่า เป็นกองพัน BHQ อันเป็นหน่วยรบที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของกัมพูชา เข้ามาประชิดชายแดนไทย ก็จะถือว่า เป็นการสร้างความกดดันและมีท่าทีคุกคามต่อฝ่ายไทย อันสุ่มเสี่ยงต่อการฝ่าฝืนข้อตกลงหยุดยิง ที่ได้ร่วมลงนามกันไว้
มีรายงานอีกว่า การเคลื่อนกำลังของกัมพูชารอบนี้ เป็นความเคลื่อนไหวทางการทหารที่ พล.อ.ฮุน มาเนตจำต้องมีความเคลื่อนไหวอย่างใด อย่างหนึ่ง เพื่อสร้างความฮึกเหิม ให้กับทั้งกองทัพกัมพูชา และคนกัมพูชา
เพราะความพ่ายแพ้ในสมรภูมิ 5 วัน และสูญเสียทหารจำนวนมาก โดยที่ยังไม่สามารถนำศพทหารส่งคืนกลับให้กับครอบครัวได้ทั้งหมด สั่นคลอนความเชื่อมั่นของคนกัมพูชา และกำลังพลกัมพูชาที่มีต่อตระกูลฮุนโดยเฉพาะ พล.อ.ฮุน มาเนต ในฐานะผู้นำกัมพูชา
การเรียกคืนศรัทธากลับคืน เป็นประเด็นสำคัญที่สมเด็จฮุน เซน และพล.อ.ฮุน มาเนต จำต้องทำอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะถูกฝ่ายตรงข้าม ที่นำโดย สม รังสี ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในต่างประเทศจะขยายผล และขยายแผลให้เป็นเรื่องใหญ่
เพราะหาก ’ตระกูลฮุน‘ เพลี่ยงพล้ำ ขณะที่ท่าทีของประเทศยักษ์ใหญ่ ทั้งจีนและรัสเซียที่เคยหนุนหลัง เริ่มทบทวนความช่วยเหลือ และการสนับสนุนทางการทหารให้กับกัมพูชา หลังจากเห็นว่า กัมพูชากำลังมีแนวโน้มที่จะเอนเอียงไปทางสหรัฐ
โอกาสที่อำนาจทางการเมืองของ ตระกูลฮุน จะถูกสั่นคลอน ก็ไม่ได้หมายความว่า…เป็นไปไม่ได้
ฮุน เซน เคยเล่นหมากการเมือง ยืมอำนาจทางการทหารของจีน มาล้มรัฐบาลเฮงสัมริน ที่มีเวียดนามหนุนหลัง
ฮุน เซน เคยอิงอำนาจจีนและรัสเซีย ยึดอำนาจจากรัฐบาลของเจ้านโรดม รณฤทธิ์ ทั้งที่พรรคการเมืองของเจ้านโรดม รณฤทธิ์ ที่ร่วมกับ สม รังสี ชนะการเลือกตั้ง
ฮุน เซน เคยสร้างกองกำลังส่วนตัว BHQ ที่แข็งแกร่ง โดยการสนับสนุนทั้งครูฝึก และอาวุธพิเศษจากทั้งจีนและรัสเซีย รวมทั้งได้รับการสนับสนุนครูฝีกจากหน่วยรบพิเศษอินโดนีเซีย Kopassus เข้าไปเป็นครูฝึกให้กับหน่วยรบพิเศษ 911 หน่วยรบหมวกแดงของกัมพูชา
เมื่อฮุน เซน เคยเล่นหมากการเมืองแบบนี้ ฮุน เซน ย่อมรู้ดีว่า ทันทีที่เขาหมดประโยชน์ หรือทันทีที่ตระกูลฮุน ไม่สามารถสานประโยชน์ร่วมกับชาติมหาอำนาจเหล่านี้ได้อีกต่อไป ก็ไม่ยากและเป็นไปได้ ที่ ฮุน เซน จะถูกดัดหลังจากชาติมหาอำนาจ เพื่อสร้างผู้นำ และสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในกัมพูชาเช่นกัน
การเปลี่ยนเกมให้ ฮุน มาเนต ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับสหรัฐ ในฐานะนักเรียนนายร้อยเวสต์ปอยต์ ดึงสหรัฐเข้ามามีบทบาทในกัมพูชา หรือมีบทบาทในแผ่นดินอินโดจีนอีกครั้ง เป็นเกมที่สุ่มเสี่ยงเป็นอย่างยิ่ง
สุ่มเสี่ยง…ที่จะเผชิญหน้ากับทั้งจีน รัสเซีย รวมกระทั่งเวียดนาม ชาติที่เอาชนะสหรัฐมาแล้วในสงครามอินโดจีน
วันนี้ พ่อ-ลูกตระกูลฮุน กำลังไม่มีทางเลือก ที่จะต้องเร่งฟื้นความศรัทธาของคนกัมพูชาและกองทัพกัมพูชากลับขึ้นมาใหม่
ทางหนึ่ง ที่เร็วที่สุด คือ เสี่ยงที่จะเปิดศึกกับไทยอีกรอบ โดนทุ่มกำลังที่ยังเหลือ โจมตีเข้าใส่ฐานที่มั่นจุดใด จุดหนึ่งของฝ่ายไทย โดยไม่เปิดแนวรบตลอดแนว เหมือนสมรภูมิ 5 วันที่ผ่านมา เพราะเห็นแล้วว่า สรรพกำลังทั้งหมดของกัมพูชา ไม่พร้อมที่จะรบกับไทยแบบตลอดแนวรบ
ท่าทีของกัมพูชา จึงต้องจับตาความเคลื่อนไหวว่า จุดไหนที่กัมพูชาเลือกจะเข้าตี เพื่อยึดพื้นที่คืน อันเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี ซึ่งจะเป็นการรบที่เร็วที่สุด หนักที่สุด เพื่อเข้าไปยึดพื้นที่ และเร่งขอเจรจาหยุดยิงรอบใหม่ทันทีที่ยึดคืนพื้นที่ที่ต้องการได้
ฮุน เซน และฮุน มาเนต รู้ดีว่า การรบระยะประชิด โดยไม่เปิดโอกาสให้ไทยใช้กำลังทางอากาศ และใช้ปืนใหญ่ยิงสนับสนุน
การเข้าตีประชิดตัวด้วยกำลังทหารราบ การดวลกันด้วย กองทัพโดรน การยิงทำลายฐานที่มั่นระยะสั้นด้วยปืน ค. และการดวลกันด้วยพลซุ่มยิงระหว่างกัน คือ แนวทางที่ฝ่ายกัมพูชาจะสู้กับกำลังของฝ่ายไทยได้
การทยอยเสริมกำลัง BHQ และหน่วยรบพิเศษ 911 เข้าไปในพื้นที่ชายแดน การข่าวของฝ่ายไทยจึงต้องเร่งติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะครั้งนี้ จะไม่มีการเปิดแนบรบตลอดแนวอย่างแน่นอน
ฮุน มาเนต แค่ต้องการชนวนอย่างใด อย่างหนึ่ง ใช้อ้างเหตุที่จะเข้าโจมตีไทย เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบบนเวทีโลก และเรียกศรัทธาจากคนกัมพูชากลับมา
การระมัดระวังความเคลื่อนไหวบริเวณแนวชายแดน ความละเอียดอ่อนของการปฏิบัติ นับจากนี้ยิ่งต้องเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันการหลงเหลี่ยม เข้าทางการเปิดแนบรบรอบใหม่ของพ่อลูกตระกูลฮุน
เว้นไว้แต่…เราเองก็เตรียมความพร้อมไว้อยู่แล้ว เพื่อขอคืนปราสาทตาควายที่ยังเหลืออยู่ รอเพียงกัมพูชาเปิดก่อน เพื่อไม่ให้เป็นพี่ใหญ่รังแกเด็ก
ส่วนเตรียมความพร้อมหน่วยไหนไว้บ้าง…ถึงจะรู้อยู่เต็มอก ก็เป็นมารยาททางความมั่นคงที่ต้องอุบไว้ก่อน
“น้องๆนักข่าวรุ่นใหม่ ก็อย่าสนุกกับข้อมูลความเคลื่อนไหวทางการทหาร ที่รู้แล้วรีบรายงานออกมา เพราะทุกความเคลื่อนไหวของหน่วยทหาร เมื่อหลุดรอดออกไป เท่ากับชีวิตของกำลังพลฝ่ายเราทั้งสิ้น”
ท่าทีของกัมพูชาทั้งหมด…ถ้าเป็นแบบที่วิเคราะห์ไว้จริง
…ก็นับถอยหลัง…รอสัญญาณการเปิดแนวปะทะรอบใหม่ได้เลยพี่น้อง