คิดว่าจะหยุดเขียนเรื่องกัมพูชาสักพัก เพื่อให้สถานการณ์นิ่งและนำพาไปสู่การที่ทั้งสองฝ่ายกลับเข้าสู่โหมดสงบ ตั้งสติ และลดดีกรีทางอารมณ์
แต่ล่าสุด…กลับยิ่งเหมือนมีความพยายามจะโหมฟืนเข้าสู่กองไฟ!
ต่างฝ่าย ต่างมีน้ำมันในมือ ที่พร้อมจะสาดลงไป เพื่อให้ไฟที่กำลังจะดับลุกโชนกลับมาใหม่อีกรอบ
ล่าสุดประเด็นทุ่นระเบิด และประเด็นการปะทะกันทางอารมณ์ของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและกัมพูชา ล้วนล่อแหลมเป็นอย่างยิ่ง
ล่อแหลมว่า ฝ่ายไหนจะควบคุมอารมณ์ได้มากกว่ากัน…
โดยเฉพาะฝ่ายไทย…ที่เสมือนหนึ่งถูกกระทำ…ที่ยังไม่นับความไม่เป็นเอกภาพของฝ่ายไทยเอง ทั้งภาครัฐ กองทัพ การเมือง มวลชน หรือแม้กระทั่งสื่อ
ภาครัฐ ตกอยู่ในสภาพประหนึ่งมวยเมาหมัด แม้จะพยายามประคองตัว หลีกเลี่ยงที่จะปะทะโดยตรงกับผู้นำกัมพูชา หันมาใช้กระบวนการทางการทูต และใช้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ที่นำโดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ผู้อำนวยการศูนย์ เป็นหน่วยหลักในการบริหารสถานการณ์
ขณะที่กองทัพ…ก็ตกอยู่ทั้งภายใต้แรงยั่วยุจากฝั่งกัมพูชา และแรงกดดันจากมวลชนในประเทศ ที่ต้องการเห็นการตอบโต้ที่เด็ดขาด
ความแรงจากทุ่นระเบิดประเภทบุคคลล่าสุดที่ทำให้กำลังพลบาดเจ็บสาหัส จนสูญเสียข้อเท้า แม้เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยครั้งในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
แต่ครั้งนี้เป็นความสูญเสียที่มาจากกับระเบิดซึ่งเพิ่งวางใหม่หมาดๆ ที่แม่ทัพกุ้ง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2เชื่อว่า ฝ่ายกัมพูชาน่าจะลักลอบเข้ามาวางหลังจากการถอนกำลังของฝ่ายไทย
แรงระเบิดครั้งนี้ ไม่เพียงทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ แต่ยังกระทบโดยตรงกับกองทัพภาคที่ 2 และเริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตรงไปยังแม่ทัพกุ้ง ขวัญใจมหาชน และลุกลามไปยังกองทัพบก พร้อมๆภาพมวลชนฝั่งกัมพูชานับร้อย ที่มีการกะเกณฑ์ขนมาจากกรุงพนมเปญเข้าสู่พื้นที่ปราสาทตาเมือน จนหวิดปะทะกับนักท่องเที่ยวฝ่ายไทย ที่วันนี้หลั่งไหลไปยังพื้นที่ปราสาทตาเมือนวันละเกือบพันคน
กองทัพวันนี้ จึงอยู่ในสภาพที่ต้องอดทนเป็นอย่างยิ่ง อดทนต่อทั้งแรงยั่วยุจากภายนอก อดทดทั้งจากแรงกดดันจากในประเทศ
นอกจากนี้ยังต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง ที่จะต้องรักษาความเป็นทหารอาชีพและรักษาสมดุล ไม่ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ที่พยายามผลักออกมาเป็นคู่ขัดแย้งกับรัฐบาล
ส่วนภาคการเมืองวันนี้บนสุญญากาศของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้การเมืองแบ่งออกเป็นแต่ละขั้วค่อนข้างชัด
ฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านนั้นชัดอยู่แล้วว่า ต่างต้องอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกัน
แต่การณ์กลับไม่เป็นเพียงแค่นั้น เมื่อฝ่ายรัฐบาลเองก็ไม่ได้เป็นเอกภาพมากนัก
เมื่อเก้าอี้หัวโต๊ะยังไม่ชัด เมื่อแกนอำนาจ ยังต้องพึ่งพิงเสียงสนับสนุนในสภาให้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ผ่านพ้นสถานการณ์ในสภา
เมื่อจำนวนมือสมาชิกในสภาสำคัญยิ่ง แรงต่อรองจากแต่ละกลุ่มจึงเสียงดังยิ่งกว่า ไม่เว้นแม้กลุ่มใกล้ตัว ที่วันนี้มั่นใจยิ่งต่อเสียงในมือของตัวเองว่า มีนัยยะสำคัญต่อการรักษาฐานเสียงของรัฐบาล
มั่นใจจนกล้าที่จะต่อรองเรื่องบางเรื่องต่อหน้านายใหญ่ในเวทีถกข้อตกลง ที่จะเตรียมนำเสนอเพื่อต่อรองมาตรการภาษีทรัมป์ จนนายใหญ่ต้องทุบโต๊ะตัดบท
ส่วนการเมืองระดับภูมิภาคในจังหวัดสงขลา การปะทะคารมผ่านสื่อระหว่าง มท.3 เดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยกับ ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว ส.ส.สงขลาพรรคกล้าธรรม ก็ยังเป็นประเด็นร้าวเล็กๆ ที่มีเดิมพันสำคัญระหว่างทั้ง 2 กลุ่ม ในศึกช่วงชิงเก้าอี้ ส.ส.สงขลา สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า
ชนนพัฒฐ์ เป็นดั่งขุนพลภาคใต้ของพรรคกล้าธรรม ขณะที่ เดชอิศม์ ก็มีเดิมพันสำคัญที่จะต้องรักษาฐานในสงขลาให้ได้ครบทุกเขต รวมทั้งช่วงชิงเก้าอี้ ส.ส.เขต 4 ซึ่งเดิมเป็นของพรรคประชาธิปัตย์มาจากชนนพัฒฐ์ให้ได้
แม้ระฆังเลือกตั้งยังไม่เกิด…แต่พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันก็ตั้งท่าจะห้ำหั่นกันแล้ว
แค่เอกภาพของฝั่งรัฐบาล เพื่อจะแก้ปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก็เหมือนจะยิ่งสั่นคลอน
ความไม่เป็นเอกภาพของฝ่ายไทย เมื่อส่องกล้องกลับไปยังฝั่งกัมพูชา กลับยิ่งเห็นการผนึกกำลังกันแทบทุกส่วน
กัมพูชาที่อยู่ในระหว่างการใช้นโยบายสร้างชาติ ผนึกกำลังมวลชนกับฝ่ายรัฐบาล และกองทัพได้อย่างเหนียวแน่น มวลชนฝ่ายกัมพูชาเดินหน้าสนับสนุนท่าทีรัฐบาล และพร้อมหนุนกองทัพในทุกมิติ
หันกล้องกลับมายังมวลชนฝ่ายไทย วันนี้แม้พร้อมใจที่จะต่อต้านกัมพูชา แต่ด้านหนึ่งก็เลือกที่จะชูกองทัพและต่อต้านรัฐบาล นัยยะของการเคลื่อนไหวกลับพบร่องรอยความพยายามผลักกองทัพให้ออกห่างรัฐบาล
บางกลุ่ม บางความเห็น มีสัญญาณของการตอกลิ่มแห่งความขัดแย้งลงไปด้วย
บ้างก็เสียงเรียกร้องให้กองทัพใช้กำลังกับฝ่ายกัมพูชา
บ้างก็เสนอความเห็นถึงกับให้สร้างกำแพงกั้นกลางระหว่าง 2 ประเทศ
ขณะที่มวลชนฝ่ายกัมพูชา ขับเคลื่อนอย่างมีกลยุทธ์ สอดรับกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาล และสอดรับกับท่าทียั่วยุของกองทัพ
มวลชนฝ่ายไทย…กลับมีความพยายามของบางกลุ่มเข้ามาขับเคลื่อนด้วยอารมณ์
วิกฤติชายแดนไทย - กัมพูชารอบนี้ จึงเห็นชัดยิ่งว่า หากเราไม่เป็นเอกภาพ ก็ยากจะรับมือเล่ห์เหลี่ยม และการเดินแต้มคูทางการเมืองของฝั่งฮุน เซนได้
แม้กระทั่งสงครามสื่อ กัมพูชาก็จัดระบบการนำเสนอได้เป็นเนื้อเดียว
จริงอยู่สื่อกัมพูชา อาจเป็นของฝ่ายรัฐบาล และส่วนใหญ่อยู่ในมือของคนตระกูลฮุน แต่แม้กระทั่งสื่อของฝ่ายค้านกัมพูชาที่อยู่ต่างประเทศ ก็มิได้นำเสนอแตกต่างไปจากสื่อรัฐบาลกัมพูชา จะมีที่แตกต่างบ้างก็คือ การเพิ่มข้อมูลของฮุน เซน ต่อการอยู่เบื้องหลังธุรกิจสีเทาในกัมพูชาเท่านั้น
ขณะที่สื่อไทยวันนี้ ด้วยจำนวนของสื่อ ที่มีทั้งสื่อบนแพลตฟอร์มหลัก สื่อบนแพลตฟอร์มโซเชียล และความเป็นอิสระของสื่อไทย เนื้อหาจึงเต็มไปด้วยความหลากหลาย และเต็มไปด้วยสีสัน
สงครามไทย-กัมพูชายังไม่เกิด แต่วันนี้หากควบคุมกันไม่ดี ความไม่เป็นเอกภาพของฝ่ายไทย อาจส่งผลให้ความเปราะบางบนแนวชายแดนปะทุขึ้น จนเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว และลุกลามจนควบคุมไม่อยู่
รบกันมันง่าย…แต่รบยังไงไม่ให้สูญเสีย และทำยังไงที่จะชนะโดยไม่ต้องรบโดยเฉพาะจะทำยังไงให้สามารถควบคุมอำนาจและผลประโยชน์
ควบคุมการหาแสง หรือควบคุมความพยายามในการสังเคราะห์คลอโรฟิลของใครบางคนให้เห็นแก่ประโยชน์ชาติ มากกว่าประโยชน์ส่วนตน อันนี้น่าจะสำคัญมากกว่า
ประการสำคัญ เมื่อฤดูกาลโยกย้ายนายทหารกำลังใกล้เข้ามา ตำแหน่ง ‘แม่ทัพภาคที่ 2’ซึ่งกำลังหอมหวน ก็ล้วนอยู่บนสมการของการสร้างคลอโรฟิล เพื่อให้ตัวเองอยู่ในสปอตไลท์ด้วยเช่นกัน
EP.หน้า…ค่อยมาว่ากันเรื่องนี้