EP.ที่ผ่านมา ทิ้งท้ายไว้สำหรับทีมนักสังเคราะห์แสงสร้างคลอโรฟิล ที่วันนี้กำลังอาศัยสถานการณ์เร่งสร้างวีรบุรุษ ไม่สนแม้ไฟสงครามจะโหมลามท่วมชายแดน
วันนี้นักสังเคราะห์แสงหลายวงการ ยังดาหน้ากันออกมาพยายามแสดงความเห็น ผิดบ้าง ถูกบ้าง ไม่สนแม้บางความเห็น อาจส่งผลถึงการโหมไฟสงคราม โหมความขัดแย้งให้ยิ่งลุกลามบานปลายมากขึ้น
ทางหนึ่ง สร้างทั้งแสง ทางหนึ่งก็หวังสร้างอำนาจ ทำได้ทุกอย่าง ขอเพียงมีบทบาท และไม่ตกกระแสในเกมความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชารอบนี้
เป็นความพยายามที่จะวางบทบาท และเสนอความเห็น ทั้งที่มี ศบ.ทก. เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่นี้อย่างชัดเจน และเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจเต็ม
ผบ.ปู พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และแม่ทัพกุ้ง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ก็ยืนยันเสมอว่า บทบาทของกองทัพ ดำเนินตามนโยบายและพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งของ ศบ.ทก.เพื่อให้ทุกภารกิจสอดคล้อง สอดรับ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ถูกตั้งขึ้นภายภารกิจตรงตัวตามชื่อศูนย์ คือ บริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
โครงสร้าง ศบ.ทก. มีทั้งผู้อำนวยการศูนย์ มีทั้งผู้อำนวยการศูนย์ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ และรองผู้อำนวยการที่มาจากเลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ และปลัดกระทรวงหลัก พร้อมคณะกรรมการอีก 27 คน ที่มาจากทั้งทหาร ตำรวจ ตัวแทนด้านกฎหมาย ตัวแทนด้านการทูต และตัวแทนจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง
ศบ.ทก.มีหน้าที่และอำนาจถึง 10 ข้อ และหนึ่งในนั้น คือ มีหน้าที่นำข้อมูลเผยแพร่ผ่านช่องทางทางการ เพื่อลดความสับสน ภายใต้การสร้างพื้นที่แห่ง “ความเข้าใจ” ไม่ใช่ “ความขัดแย้ง”
ล่าสุด มีการแต่งตั้ง พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ เป็นโฆษก ศบ.ทก. เพื่อทำหน้าที่ในการสื่อสารข้อมูลจาก ศบ.ทก.โดยตรง ข้อมูลอันเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบการกลั่นกรองจากคณะกรรมการ ศบ.ทก.แล้ว
ข้อมูลแม้ไม่เร็วดั่งใจสื่อและมวลชน ดั่งที่ พล.อ.ณัฐพล พยายามอธิบาย แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สถานการณ์ที่ก้ำกึ่ง และหมิ่นเหม่จะพัฒนาไปสู่การปะทะกัน ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นแหล่งข้อมูลเดียว น่าจะเป็นข้อมูลที่สำคัญ และน่าเชื่อถือที่สุด
ข้อมูลจากการแถลงของ ศบ.ทก.จึงเป็นข้อมูลที่ควรมีน้ำหนัก ควรเชื่อ มากกว่าข้อมูลที่มาจากบรรดาโฆษกสังเคราะห์แสง หรือ โฆษกคลอโรฟิล รวมทั้งจากบรรดากูรูที่เกือบจะรู้ หรือกูรูอวดรู้ ที่นั่งสังเคราะห์แสงกันไปวันๆ
สงครามข้อมูลที่ล้วนแล้วแต่เข้าทางกัมพูชา เข้าทางคนตระกูลฮุน ที่รู้ทางว่า หากอยากสร้างกระแสให้เกิดความปั่นป่วนในไทย ก็แค่ปล่อยข้อมูล ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เพราะเพียงชั่วพริบตา ข้อมูลนั้นก็จะถูกเคี้ยว ถูกย่อย และถูกเผยแพร่โดยทีมงานนักสังเคราะห์แสงทันที
แต่สงครามข้อมูลจากฝั่งตระกูลฮุนวันนี้ ยังไม่ระอุเท่าสงครามข้อมูลภายใน สงครามข้อมูลที่มีการปูทาง อันมีเป้าหมายอยู่ที่เก้าอี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ตำแหน่งสำคัญที่จะว่างลงในเดือนตุลาคมนี้ จากการเกษียณอายุราชการของแม่ทัพกุ้ง
สงครามนี้มีความพยายามเป็นระยะ ที่จะสร้างกระแส และกดดันการตัดสินใจของ ผบ.ปู พล.อ.พนา และแม่ทัพกุ้ง ที่จะเสนอรายชื่อนายทหารที่จะดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่
เพราะรายชื่อที่ถูกเสนอ หากไม่ใช่รายชื่อที่ถูกปูทาง สร้างภาพไว้ก่อนหน้านี้ กระแสสังคม จะกดดันและตั้งคำถามต่อพล.อ.พนา และพล.ท.บุญสิน ทันทีว่า ทำไมไม่เลือกนายทหารที่เหมาะสมและมีบทบาทด้านชายแดนไทย – กัมพูชามาโดยตลอดขึ้นมารับตำแหน่งนี้
ความในใจของนายทหารนักสู้ ต่อท่าทีของรัฐบาล กองทัพ และแม่ทัพที่ล่าช้า ไม่ดุดัน ไม่ตอบโต้ฝ่ายกัมพูชา ความอึดอัดของกำลังพล ที่ไม่สบายใจกับการวางตัวของรัฐบาลต่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา
ข้อมูลการรื้อรั้วกั้นทางเข้า-ออกปราสาทตาเมือน ที่ถูกปล่อยภาพว่า เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทั้งที่ล่าสุดข้อมูลเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ถูกรื้อในช่วงรัฐบาลรักษาการที่มี ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี และถูกรื้อโดยคำสั่งของนายทหารในพื้นที่ ไม่ได้รื้อโดยคำสั่งรัฐบาล
ทั้งหมดล้วนเป็นข้อมูลที่ถูกปล่อยออกมาเพื่อปูทางและสร้างความชอบธรรม ที่จะเรียกร้องให้การเสนอชื่อ แม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ เป็นไปตามรายชื่อที่ถูกเอ่ยอ้างถึงความเก่งกาจ ความชำนาญพื้นที่ และมีความเป็นนักรบ
หากรายชื่อออกมาเป็นอย่างอื่น นั่นหมายถึง คนทำงาน คนเก่ง และคนที่เหมาะสม ก็จะกลายเป็นคนที่ถูกกลั่นแกล้ง ถูกรังแก ทันที
นอกจากนี้หากแม่ทัพกุ้งเสนอชื่อแคนดิเดตคนใดคนหนึ่งจากรุ่นเดียวกัน คือ เตรียมทหาร26 (ตท.26) ที่วันนี้จ่ออยู่ถึง 2 คน และ ผบ.ปู ลงนามเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกลาโหม ทั้งผบ.ปูและแม่ทัพกุ้ง ก็เลี่ยงยากที่จะถูกกล่าวหาว่า เล่นพรรค เล่นพวก และผูกขาดตำแหน่งแม่ทัพไว้ที่รุ่น 26 เพราะที่ผ่านมา อดีตแม่ทัพคนก่อน พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ และแม่ทัพกุ้ง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นนายทหารจากรุ่น ตท.26 ทั้งสิ้น
เกมปูทาง สร้างข้อมูล เพื่อกดดันทั้ง ผบ.ปูและแม่ทัพกุ้ง จึงปรากฏขึ้นเป็นระยะๆ และต่อเนื่อง รวมทั้งยังคงปรากฏขึ้นทั้งที่สถานการณ์ชายแดนนับวันก็ยิ่งร้อนระอุ นับวันยิ่งหมิ่นเหม่จะเกิดสงคราม
กดดันทั้งที่รู้ว่า นายทหารที่ทำงานตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชามาตลอด และปัจจุบันก็ยังก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่…เป็นใคร
หรืออีกนัยยะหนึ่ง ก็คือ กดดันเพราะไม่รู้ว่า ระหว่าง “นักรบตัวจริงและนักรบพีอาร์”…ใครกันแน่ที่เหมาะสมกับตำแหน่ง ‘แม่ทัพภาคที่ 2’
ใครกันแน่ คือ ตัวจริงที่เดินเท้าเฝ้าชายแดน และนอนกอดปืนร่วมกับลูกน้อง
EP.หน้าจะมาขยายความประวัติและเส้นทางการรับราชการของ 3 แคนดิเดตแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ และคนไหนกันแน่ ที่อยู่ในพื้นที่ช่วงสงครามเขาพระวิหารเวลานั้น