วันนี้รัฐบาลเสียงข้างน้อยของ อนุทิน ชาญวีรกูล เข้ามาบริหารประเทศได้ครบหนึ่งเดือน หลังแถลงนโยบายไปในวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา และประชุม ครม.นัดแรกกันในค่ำคืนนั้น เพื่อให้ทันใช้งบปี 68 ที่ค้างอยู่หลายหมื่นล้านบาท
จากนั้น รัฐบาลที่มีเวลาสั้น ๆ แค่ 4 เดือน ก็เร่งผลิตผลงาน โดยเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ซึ่งมีความเหนือกว่านายกฯ คนที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่งไปในทุกๆ ด้าน ทำให้ได้รับเสียงตอบรับออกมาเป็นอย่างดี จนดูเหมือนเวลาที่มีจะน้อยไปด้วยซ้ำ
แต่หลายคนก็มองว่าน่าจะกำลังพอดี เพราะหากอยู่นานไปกว่านี้ อาจจะเกิดความรู้สึกเบื่อขึ้นมาได้ ดังนั้น เวลา 4 เดือน จึงไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ไม่ทันได้เบื่อและยังไม่ทันได้หายคิดถึงด้วยซ้ำ
ทว่าโบราณว่า คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต
แค่ยังไม่ทันได้ผ่านเดือนแรก รัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่แบกความคาดหวังไว้สูง ก็เริ่มออกอาการแกว่ง ๆ เสียทรงไปบ้าง เมื่อเจอมรสุมลูกใหญ่เข้าหลายลูก ทั้งเสียท่ากัมพูชา ปัญหาสแกมเมอร์ ไปจนถึงประเด็นใหม่แร่หายาก "แรร์เอิร์ธ"
ก่อนเดินทางไปร่วมประชุมเอเปก ที่เกาหลีใต้ นายกฯ อนุทิน พยายามสื่อสารแบบเก็บทุกเม็ดทุกดอก โดยเฉพาะประเด็นการเจรจาปัญหากัมพูชา รับรองไทยไม่เสียเปรียบแน่
"เท่าที่พอจำความได้ ไม่เคยเสียเปรียบใคร คนถึงไม่ชอบหลายคน" นายกฯ พูดทิ้งท้ายไว้ก่อนบินไปเกาหลีใต้
แต่อีกสองเรื่องใหญ่ยังเป็นคำถามที่รอคำตอบ โดยเฉพาะปัญหาสแกมเมอร์ที่มีคนในรัฐบาลถูกกล่าวหาเข้าไปพัวพันด้วย รังสิมันต์ โรม มือปราบสแกมเมอร์สีส้ม ยังคงเดินหน้าคาดคั้นจะเอาคำตอบจากนายกฯ อนุทินให้ได้
“ถ้านายกรัฐมนตรีไม่ได้หูหนวกตาบอด ก็คิดว่าท่านเอง ควรเอาสิ่งที่ฝ่ายค้านพยายามนำเสนอ เอาสิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบันนำเสนอไปแก้ปัญหา ผมว่าเป็นประโยชน์ที่สุด ส่วนผมยินดีให้ความร่วมมือนายกฯถ้านายกฯ จะเชิญผมไปพูด หรือให้ข้อมูล ในคณะกรรมการที่ท่านตั้งผมยินดีอยู่แล้ว"
"ประชาชนจะเชื่อได้อย่างไร เพราะตราบใดที่คนระดับรองนายกรัฐมนตรี ยังมีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์อยู่"
รังสิมันต์ ย้ำว่า ไม่จำเป็นต้องเชิญนักการเมือง ช. จริง ๆ ตนคิดว่าจับเลยก็ได้ เชื่อว่าหน่วยงานรัฐมีข้อมูลอยู่แล้ว เยอะด้วย แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมไม่มีการดำเนินการในการเอาผิด ตอนนี้หลายตัวละครสามารถดำเนินการได้ทันที ที่ตนแปลกใจคือ มีผลประโยชน์ได้เสียอะไรกัน ทำไมถึงไม่ยอมดำเนินการ
"ประเด็นสำคัญคือ เรามีข้อมูลและมีเยอะด้วย ไม่ใช่รู้แค่ว่าฝั่งโน้นเขาเป็นใคร ไม่ใช่แค่รู้ว่าต่างชาติมีใครบ้าง แต่รู้แม้กระทั่งนักการเมืองไทยที่อยู่ในประเทศไทยเข้าไปเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์อย่างไรบ้าง ทำไมถึงไม่ดำเนินการไม่จัดการ”
รังสิมันต์ สำทับว่า มีนักการเมืองมากกว่า 7 คน ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ และกำลังจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการฟอกเงินระดับโลก
บางประเด็นอาจจะเป็นเรื่องเก่า แต่กำลังสร้างความโกลาหลให้กับรัฐบาลสีน้ำเงิน เพราะตัวอักษรย่อต่างๆ ที่พัวพันแกงค์สแกมเมอร์ เริ่มออกมาปรากฎตัวให้สังคมได้เห็นชัดมากขึ้นว่า มีไผเป็นไผบ้าง
ขณะที่อีกเรื่อง ปมการลงนามเอ็มโอยูแร่หายากกับสหรัฐอเมริกา ธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นคนในพรรครัฐบาลด้วยกัน ไปยื่นเรื่องถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบการลงนามดังกล่าว เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ เปิดช่องให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงไทย และมีผลต่อการเลือกข้างในท่ามกลางความขัดแย้งข้องมหาอำนาจหรือไม่
หลายเรื่องข้างต้น กำลังนำรัฐบาลพรรคสีน้ำเงิน ที่พยายามขี่กระแสชาตินิยม เพื่อให้ตัวเองได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกตามแผน 4+4 ทำท่าจะกลายเป็นบูมเมอแรง ถูกกระแสชาตินิยมตีกลับ ส่งผลร้ายต่อรัฐบาลเสียเอง
วันนี้ แม้นายกฯ อนุทิน กำลังโกอินเตอร์ กระทบไหล่ผู้นำโลก โดดเด่นอยู่ในเวทีเอเปก แต่หากไม่สามารถสร้างความกระจ่างกับสังคมเรื่องการยัดไส้แร่แรร์เอิร์ธ และก้าวออกจากหล่มสแกมเมอร์ได้ เวลา 4 เดือน มันอาจจะนานเกินไปสำหรับนายกฯ ส้มหล่น และรัฐบาลสีน้ำเงินอมเทา


