ซักฟอกรัฐบาล แค่ลีลาฝ่ายค้ำ-ฝ่ายแค้น

4 พ.ย. 2568 - 03:36

  • การเดินเกมในสภาเต็มไปด้วยความระแวดระวัง

  • ต่างฝ่ายต่างมีจุดยืนและแรงกดดันทางการเมือง

  • การเมืองไทยจึงอยู่ในจุดเปราะบางที่ทุกฝ่ายต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบ

ซักฟอกรัฐบาล แค่ลีลาฝ่ายค้ำ-ฝ่ายแค้น

ในสภาตอนนี้ที่มีกันสามฝ่าย คือ รัฐบาล ฝ่ายค้ำและฝ่ายแค้น ซึ่งสองฝ่ายหลังความจริงก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านด้วยกัน เพียงแต่ยังมีอารมณ์ตกค้างจากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จึงทำให้อีกพรรคประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระ

อันเป็นเหตุทำให้การทำหน้าที่ของฝ่ายตรวจสอบดูขาด ๆ เกิน ๆ เพราะต่างก็มีจุดยืนของตัวเอง จนนำไปสู่การประดิษฐ์คำกล่าวหากันไปมาเรื่องของฝ่ายค้ำ-ฝ่ายแค้น

แต่ไม่ว่าจะขุ่นเคืองกันขนาดไหน ก็มีภารกิจที่ต้องทำร่วมกัน ทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อยู่ในวาระ 2 และการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งแต่ละพรรคต่างมีเสียงมากพอยื่นญัตติเองได้ หากไม่หวังผลไกลถึงขั้นคว่ำรัฐบาล

หรือเกรงต้องตกเป็นจำเลยในสนามเลือกตั้ง หากยื่นซักฟอกแล้วรัฐบาลชิงยุบสภาหนี ทำให้การแก้รัฐธรรมนูญสะดุด

ดังนั้น ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา จะได้เห็นแกนนำของสองพรรค "เพื่อไทย-ประชาชน" ปรึกษาหารือกันผ่านหน้าสื่อ โดยประธานสส.เพื่อไทย วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ให้รอฟังผลการหารือจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์ หากจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่ก็แสดงอาการปากแข็งไม่กลัวการยุบสภา "ถ้ายุบสภาเมื่อไหร่ เราก็พร้อมเลือกตั้ง ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย"

ในขณะที่ อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่า ในพรรคยังมีความเห็นเป็นสองทาง โดยกลุ่มหนึ่งเห็นควรให้ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมหน้า ส่วนอีกกลุ่มเห็นควรปล่อยให้เป็นไปตามไทม์ไลน์ของฝ่ายค้ำและรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อพิสูจน์ว่าแท้จริงแล้วดีลดังกล่าว มิได้นำพาประโยชน์ใด ๆ มาสู่ประเทศชาติและประชาชน

"รัฐบาลกำลังเผชิญกับปัญหาสแกมเมอร์ ทุนเทา ทุนดำข้ามชาติ ความมั่นคงชายแดน จะเป็นจุดเปราะบางรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่ประชาชนจับตามอง และอาจเป็นจุดตายรัฐบาล" อนุสรณ์ว่าไว้

ล่าสุดฟังจากท่าที สรวงศ์ เทียนทอง แกนนำเพื่่อไทยอีกคน ดูเหมือนจะแบ่งรับแบ่งสู้ โดยยอมรับว่า มีการพูดคุยกันเบื้องต้น และคณะยุทธศาสตร์ของพรรคก็คุยกันอยู่ อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ไปกระทบต่อกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราต้องคำนึงถึงไทม์ไลน์ต่าง ๆ ด้วย แต่เรื่องนี้ตนเคยพูดหลายครั้งแล้วว่า พยานหลักฐานต่าง ๆ ต้องพร้อมที่จะอภิปราย

"อย่างที่บอกว่าเราต้องคำนึงถึงอะไรหลาย ๆ อย่าง เช่น เรื่องของไทม์ไลน์ พยานหลักฐานที่เราจะเอาผิดกับคนที่เราจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ทั้งนี้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หน้าพรรคเพื่อไทย กับนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ก็มีการพูดคุยกันอยู่"

ด้านพรรคประชาชน ศิริกัญญา ตันสกุล ตอบคำถามสื่อไว้กว้าง ๆ ว่า ขณะนี้รวบรวมข้อมูลกันอยู่ จะมีข้อมูลเป็นรายคนและคงจะเก็บข้อมูลในช่วงปิดสมัยประชุม เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจว่าจะมีการยื่นอภิปรายในสมัยประชุมหน้าหรือไม่

ฟังจากสุ้มเสียงของ "ไหม-ศิริกัญญา" ดูเหมือนจะยังมีความห่วงใยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อยู่ในวาระ 2 ซึ่งยังหาจุดลงตัวเรื่องโมเดล สสร.ยังไม่ได้ แม้จะกำหนดกรอบการพิจารณาเอาไว้แล้ว ให้ทุกอย่างจบในวันที่ 15 พฤศจิกายน เพื่อไปลงมติวาระ 3 เอาฤกษ์เอาชัยกันในวันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคมนี้

นั่นคือ ให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญรองรับวาระ 2-3 ตั้งแต่กลางเดือนนี้เป็นต้นไป

ประธานรัฐสภา วันมูหะมัดนอร์ มะทา ก็ดูจะมีความกังวลอยู่ไม่น้อยเรื่องปัญหาทางการเมืองในขณะนี้ ที่อาจทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ทันผ่านการพิจารณา หากรัฐบาลตัดสินใจยุบสภาเสียก่อน

"ผมไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอายุของรัฐบาลได้ แต่ในเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อยากฝากถึงเพื่อนสมาชิกทั้งสส. และสว.ให้พยายามทำความเข้าใจกัน และลดเงื่อนไขต่าง ๆ ที่อาจเป็นอุปสรรคลง"

ประธานฯ วันมูหะมัดนอร์ ฝากเอาไว้ เนื่องจากเห็นว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นเพียงการแก้วิธีแก้ เพื่อเปิดทางให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มีความยึดโยงกับประชาชน มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนขึ้นเท่านั้น

สรุปเรื่องแก้รัฐธรรมนูญที่อยู่ในข้อตกลง MOA ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชนในวันก่อน วันนี้จึงเป็นทั้งเงื่อนไขและตัวประกันการเมืองไปพร้อมกัน

แต่การจะยื่นไม่ยื่นซักฟอกรัฐบาลของฝ่ายค้าน คงทำได้แค่ร่ายรำโชว์ เพราะถึงเวลารัฐบาลคงไม่อยู่รอให้จับขึ้นขาหยั่งหรอก

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์