‘จิ๊กซอว์’ ตัวสุดท้าย เพื่อไทยครอบงำแบงก์ชาติ

16 ก.ค. 2568 - 03:36

  • การประกาศชื่อผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ก็ถูกเลื่อนออกไป

  • ถือว่าเป็นการขัดข้องทางเทคนิค หรือว่าพลิกโผ

  • จิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายของเพื่อไทยที่จะได้เข้าสั่งการแบงก์ชาติ

‘จิ๊กซอว์’ ตัวสุดท้าย เพื่อไทยครอบงำแบงก์ชาติ

พระสยามเทวาธิราช เป็นตราสัญลักษณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่คนในวังบางขุนพรม เคารพสักการะ และเชื่อกันว่าคอยปกป้องคุ้มครองประเทศไทย โดยพระหัตถ์ซ้ายถือพระแสงธารพระกร  และพระหัตถ์ขวาถือถุงเงิน ซึ่งสื่อถึงการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ

แต่มาถึงวันนี้บรรดาคนในวังบางขุนพรมคงต้อง ‘ขอพร’ จากพระสยามเทวาธิราช และปรับสภาพจิตใจเพื่อรับการ ‘เปลี่ยนแปลง’ ครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะเหลืออีกเพียงก้าวเดียว ทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ก็จะสามารถย่างเท้าเข้าไป‘ยึดกุม’  ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อีกหนึ่งในสถาบันการเงินที่เป็นเสาหลักของการดำเนินนโยบายการเงินของไทยได้เกือบแบบเบ็ดเสร็จ 

หลังใช้ความพยายามกดดันในหลายๆทางมากว่าสามปี นับตั้งแต่เข้ามาเป็นแกนนำในรัฐบาลในยุคของ อดีตนายกฯ ‘นิด’ เศรษฐา ทวีสิน จนมาถึง นายกฯ ‘อิ๊งค์’  แพทองธาร ชินวัตร ในช่วงโค้งสุดท้าย หลังจากที่ถูกหยุดปฎิบัติหน้าที่นายกฯจาก กรณีอื้อฉาว คลิป ‘หลาน-ลุง’

การรุกคืบเข้ามาเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงในองค์กร ตั้งแต่ประธานกรรมการ และกรรมการ จนถึงล่าสุด คือตำแหน่ง ‘ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนที่ 22’  ที่ รองนายกฯและรมว.คลัง พิชัย ชุณหวชิร เตียมเสนอชื่อ ‘เต๋’  วิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ให้ครม.พิจารณาอนุมัติ

โดยบรรจุเป็นวาระจร เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ก็เกิดอาการ‘สะดุด’ เล็กน้อย เพราะมีความเห็นว่าควรนำเสนอบรรจุเป็นวาระเพื่อพิจารณา และต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติ เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่รักษาการนายกฯ ภูมิธรรม เวชยชัย ต้องนำกราบบังคลทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง 

สุดท้ายจึงต้อง ‘ถอน’ เรื่องไปดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนนำเข้า ครม.ในสัปดาห์หน้า จนในตอนแรกทำให้หลายๆคนหวั่นว่าอาจจะกลายเป็นหนังม้วนยาว ชนิดบรรดากองเชียร์ต้องลุ้นกันตัวโก่งไปตามๆกัน

ถึงแม้ รมว.คลังพิชัย จะรีบออกมากยืนยันว่าไม่มีการ ‘พลิกโผ’  แต่จำเป็นต้องเลื่อนเพราะทำบันทึกเสนอให้สำนักเลขาคณะรัฐมนตรีบรรจุวาระไม่ทัน แต่วงในระบุว่าจะมีการปรับปรุงเอกสารนำเสนอเพื่อ ‘แต่งตัว’  ให้ภาพลักษณ์ของ วิทัย ดู ‘หล่อ’  โดยเฉพาะในเรื่องของประสบการณ์ ผลงาน และวิสัยทัศน์ เพื่อลดแรงเสียดทาน และกระแสต้าน หากจะมีการนำไปเปรียบกับคู่เทียบอย่าง ‘ดร.รุ่ง มัลลิกะมาศ’  รองผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน คู่แคนดิเดตหญิง ที่ดูจะดู ‘สวย’  กว่าในสายตาของคนในสายนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ทั้งคนในและคนนอกวังบางขุนพรม รวมทั้งคนในแวดวงการเมือง 

ต้องยอมรับว่าการชิงตำแหน่ง ผู้ว่าฯธนาคารกลางของไทยในรอบนี้ขับเคี่ยวกันค่อนข้างดุเดือดจนถึงนาทีสุดท้าย ‘วิทัย’  ต้องเผชิญแรงกดดัน และยอมรับว่าค่อนข้างเครียด เพราะถึงแม้เส้นทางการเดินเข้าสู่วังบางขุนพรหมของเขาจะมี ‘ลมใต้ปีก’  จากผู้หลักผู้ใหญ่ในปีกการเมืองของพรรคเพื่อไทย แต่ในอีกด้านก็กลายเป็น ‘จุดอ่อน’ ที่ทำให้ตกเป็นเป้าและมีแรงต้าน เนื่องจากมีคำถาม และความกังวลถึงความเป็นอิสระในการตัดสินใจในเชิงนโยบายของแบงก์ชาติในอนาคต 

คงเพราะเหตุนี้ ยังไม่ทันที่จะมีมติ ครม.แต่งตั้งออกมา ‘วิทัย’  จึงต้องออกมาพิสูจน์ตัวตนยืนยันว่า ตลอดชีวิตของการทำงานในฐานะ CEO ในหลายหน่วยงาน ซึ่งแต่ละตำแหน่งย่อมมีบทบาทแตกต่างกันไป แต่ตัวตนที่ชัดเจนของเขาที่ผ่านประสบการณ์มา ขอให้เชื่อมั่นว่าสามารถตัดสินใจได้อย่างอิสระบนหลักการที่จะยึดถือประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ปราศจากอำนาจครอบงำจากกลุ่มใด ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งจำเป็นและขอยืนยันในจุดยืนที่มั่นคงของตัวเอง 

ต้องยอมรับไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจหากในที่สุด รมว.คลัง พิชัย จะใช้ดุลยพินิจเลือกคนที่เขาคิดว่าจะทำงานกับคลังได้อย่างราบรื่นอย่าง ‘วิทัย’  ซึ่งทราบกันดีว่าถูกวางตัวและส่งให้มาสมัครโดยตรงในนาทีสุดท้าย 

โจทย์สำคัญตั้งแต่วันแรกคือ รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยต้องการได้ ผู้ว่าฯแบงก์ชาติที่พร้อมจะร่วมมือและทำงานไปในทิศทางเดียวกันกับรัฐบาล

เพราะรัฐบาลต้องการใช้นโยบายการเงินและการคลังแบบผ่อนคลายทั้งสองขา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  โดยเฉพาะการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้ต่ำ และทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัว สอดคล้องกับนโยบายการคลังที่จะอัดฉีดเม็ดเงินเข้ามาในระบบ 

ที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดีว่า ในสายตาของอดีตนายกฯเศรษฐา และทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ค่อนข้าง ‘หงุดหงิด’ และมีมุมมองในเชิงลบกับคนของแบงก์ชาติ ที่มักจะมีวิธีคิดที่แตกต่างกันกับรัฐบาล ทั้งเรื่องการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการดูแลเรื่องค่าเงินบาท ทำให้ต้องการเปลี่ยนแปลงดึงคนที่ฝ่ายการเมืองต้องการเข้าไปทำงาน 

โดยเฉพาะมือทำงานที่ไฟแรงและพร้อมถกแขนเสื้อลงไปลุยแก้ปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือน ที่ทำให้การปล่อยสินเชื่อมีปัญหา และฉุดให้เศรษฐกิจหลุดจาก ‘กับดักสภาพคล่อง’  ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

เพราะเหตุนี้ ถึงแม้ในสายตาของคนในแวดวงการเงิน และนักเศรษฐศาสตร์โดยทั่วไป ชื่อของ ‘วิทัย’  อาจจะไม่โดดเด่น และมีคำถามในเรื่องของความเชี่ยวชาญในด้านเศรษฐศาสตร์มหภาคระดับอินเตอร์ฯ แต่ในสายตาของฝ่ายการเมือง วิทัย กลับเป็น ‘จิ๊กซอว์’  ตัวสำคัญที่จะทำให้แผนยึด ‘วังบางขุนพรหม’  บรรลุเป้าหมาย หากไม่เกิดอุบัติเหตุกลางทาง

 ‘วิทัย’  คือ ตัวเลือกที่ดีเหมาะสำหรับเป็นมือทำงาน หลังจากก่อนหน้านี้ เขาเกือบจะเป็นตัวเลือกให้ไปนั่งในตำแหน่ง เอ็มดี ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่านแรงหนุนของ V2 อดีตนายกฯ ‘ปู’  ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตนายกฯอีกคน ‘นิด’  เศรษฐา ทวีสิน โดยมีพี่เลี้ยงคนสำคัญคือ ‘โต้ง’ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้ V1 สทร. อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ยอมเปิดไฟเขียวและกลายเป็น ‘เต็งหนึ่ง’ มาตั้งแต่วันแรกที่มายื่นใบสมัคร แข่งกับแคนดิเดตคนอื่นๆ ที่มี ‘โปรไฟล์’ และมี ‘ดีกรี’ ไม่ธรรมดากันทั้งนั้น

จากนี้ไปคงต้องจับตามองว่า ธปท.หรือ แบงก์ชาติ ที่เพิ่งได้รับรางวัลธนาคารกลางแห่งปี 2025 (Central Bank of The Year 2025) จาก Central Banking Publications ในฐานะที่มีผลงานโดดเด่นด้านการดำเนินนโยบายการเงิน การกำกับดูแลทางการเงิน และการบริหารจัดการองค์กรในระดับสากล จะยังคงยืนหยัดรักษาจุดแข็งขององค์กรที่ทำหน้าที่กำกับนโยบายด้านการเงิน

โดยให้ความสำคัญกับหลักการของความเป็น ‘อิสระ’ ในการกำหนดนโยบาย โดยไม่สั่นไหวไปตามแรงกดดันทางการเมืองไว้ได้อีกหรือไม่

กาลเวลาและการกระทำของ ผู้ว่าฯแบงก์ชาติคนที่ 22 จะเป็นบทพิสูจน์...

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์