ในขณะที่พรรคภูมิใจไทย(ภท.) เดินหน้าเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.แบบรายวัน ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคอีสาน โดยเฉพาะอีสานบ้านเฮา ซึ่งเป็นฐานที่มั่นใหญ่พรรคสีน้ำเงิน เปิดกันชนิด 3 วัน 3 คืน ก็ยังต่อแถวไม่หมดเสียที
เพราะ ภท.วันนี้ คือ แหล่งดินดำ น้ำชุ่ม และพื้นที่ปลอดภัยทางการเมืองของเหล่านักเลือกตั้ง
แต่ที่มาแบบเหนือความคาดหมายเล็ก ๆ คือ สนาม กทม.เมืองฟ้าอมร ที่พรรคภูมิใจไทย เคยได้รับบทเรียนมหาศาลจากการเลือกตั้งหนที่ผ่านมา เพราะไม่สามารถตอกเสาเข็มลงในพื้นที่เมืองหลวงได้ แถมยังมีความหลังฝังใจกับแม่ทัพ กทม.ชนิดไม่เผาผีอีกต่างหาก
ย้อนเหตุการณ์ไปในวันที่ 18 มีนาคม 2566 อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผอ.เลือกตั้ง กทม.พร้อมด้วยแกนนำพรรค ร่วมกันเปิดตัวผู้สมัคร สส.กทม.33 เขต พร้อมกับปล่อยคาราวานรถหาเสียงไปทั่วกรุง
วันนั้น "อนุทิน" ประกาศความพร้อม 100% ในการส่งบุคคลที่มีประสบการณ์มาให้คนกรุงเทพฯ เลือก โดยแต่ละคนล้วนมีความสามารถจากวงการต่าง ๆ ทั้งการศึกษา นักกฎหมาย นักธุรกิจ และตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน ที่พร้อมตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ
"พรรคภูมิใจไทย พร้อมตอกเสาเข็ม กทม.ในการดูแลพี่น้องประชาชน พร้อมผลักดันในทุกๆ ด้าน ทุกๆ นโยบาย เพื่อให้ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และถ้าเราได้ สส. จากทั่วประเทศมากพอ ผมก็พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน"
หลังส่งผู้สมัคร สส.กทม.ครบทั้ง 33 เขต "อนุทิน" พร้อมทีมงานเดินสายลงพื้นที่หาเสียง ตั้งเวทีปราศรัย โดยเฉพาะในพื้นที่เป้าหมาย เกือบจะย่ำไปทุกตรอก ทุกซอย แต่ผลเลือกตั้งออกมา ไม่สามารถตอกเสาเข็มได้แม้แต่ต้นเดียว
โดยได้คะแนนพรรคติดปลายนวมมาเพียง 77,167 คะแนน เทียบกับพรรคประชาชน ที่ชนะเลือกตั้งได้ สส.32 เขต มีคะแนนอยู่ในหลักล้านกว่า ๆ ส่วนพรรคเพื่อไทย ได้สส. 1 เขต ก็มีคะแนนพรรคเกินกว่า 6 แสนคะแนนเช่นกัน
ผลเลือกตั้งที่ออกมา น่าจะเป็นบทสรุปให้กับ ภท.ในเวลานั้นได้ว่า "หลาบแล้วเมืองหลวง" สนามกทม.คงไม่เหมาะกับพรรคการเมืองภูธรอย่างตัวเองเป็นแน่ ถึงแม้จะมีผู้สมัครตัวเด่น ๆ อยู่หลายคนก็ตาม
แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน "อนุทิน" ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 แบบส้มหล่น ทำให้เรตติ้งพุ่งกระฉูด จากที่เป็นนักการเมืองและพรรคการเมือง "เหนือโพล" ไม่เคยอยู่ในจอเรด้าโพลสำนักไหนมาก่อน กลับกลายมาโดดเด่นขึ้น
ตรงนี้กระมัง จึงมีข่าวสะพัดออกมาว่า ภท.จะกลับมาฮึดสู้ในสนามกทม.อีกรอบ โดยวางตัวให้ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีต รมว.อุตสาหกรรม มือปราบสุดซอย มาเป็นจุดขาย นำทัพเลือกตั้งสนามเมืองหลวง ล้อไปกับกระแสไม่เอาทุนเทา โดยมีกำหนดจะเปิดตัวกันในเร็ว ๆ นี้
หากเทียบตัวกันระหว่าง "บี-พุทธิพงษ์" แม่ทัพ กทม.คนก่อน กับ "ขิง-เอกนัฏ" แม่ทัพเมืองหลวงคนใหม่ คนแรกน่าจะเหนือกว่าหลายขุม เพียงแต่เวลานั้น กลิ่นอายความเป็นพรรคภูธรของ ภท.ไม่สามารถสร้างการยอมรับให้คน กทม.การปักเสาเข็มจึงไม่สำเร็จ
สำหรับครั้งนี้ แม้ตัวแม่ทัพกทม.จะไม่เด่น แต่ความเป็นพรรคสีน้ำเงินเข้มของ ภท.ในระยะหลัง คงทำให้กลบสาปกลิ่นพรรคภูธรลงไปได้บ้าง บวกกับกระแสตอบรับในตัวนายกฯ อนุทิน ที่มีเพิ่มขึ้น คงเป็นตัวช่วยได้ไม่น้อย
ด้วยเหตุนี้หรือเปล่า จึงทำให้ภูมิใจไทย เกิดอาการฮึดสู้ขอปักเสาเข็มลงในสนาม กทม. อีกคำรบ


