ประเมินท่าที ‘อนุทิน’ ส่งสัญญาณยุบสภาเร็ว

5 พ.ย. 2568 - 02:43

  • กระแส “ยุบสภาก่อนกำหนด” เริ่มชัดเจนขึ้น

  • มีสัญญาณเร่งรัดจากหลายสมการทางการเมือง

  • พรรคการเมืองและกลุ่มทุนทางการเมืองที่ต่างเริ่มวางหมากรับศึกเลือกตั้งใหญ่

ประเมินท่าที ‘อนุทิน’ ส่งสัญญาณยุบสภาเร็ว

พลันที่นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ตอบคำถามนักข่าวแบบห้วน ๆ ถึงไทม์ไลน์การยุบสภายังเหมือนเดิมหรือไม่ว่า "ไม่ยืนยัน ไม่มีอะไรต้องยืนยัน" เท่ากับเป็นการยืนยันถึงกระแสข่าวการยุบสภาก่อนกำหนดให้มีความแจ่มชัดขึ้น

ขณะที่วันเดียวกัน ได้เห็นอีกหลาย ๆ สัญญาณ ทั้งในส่วนของการประชุมครม.ที่มีมติเห็นชอบให้ประเทศไทยเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการโมโต จีพี ประจำปี 2570-2574 รวม 5 ปี ในกรอบวงเงินงบประมาณค่าใช้จ่าย จำนวน 3,997.86 ล้านบาท

"โมโต จีพี" เคยมีปัญหาในช่วงที่พรรคภูมิใจไทย หลุดออกจากรัฐบาลไปเป็นฝ่ายค้าน ต้องลุ้นอยู่นานเรื่องรัฐบาลจะยอมควักเงินต่อสัญญาให้หรือไม่?

ตอนนี้ถือว่า เรียบร้อยเขากระโดงไปแล้ว และน่าจะจัดอยู่ในกลุ่มเร่งด่วน ที่ต้องจัดการก่อนยุบสภาถัดมาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ยังเคาะกันไม่ลงประเด็นโมเดล สสร.จะให้พบกันครึ่งทางที่ตรงไหน ระหว่างให้ประชาชนเข้าคูหาเลือกกันมาแล้วให้สภาเลือกอีกครั้ง กับเปิดสมัครเข้ามาเองแล้วให้สภาเลือก

ล่าสุด ภราดร ปริศนานันทกุล กมธ.จากพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า สูตรผสมจากสองร่าง "ประชาชน-ภูมิใจไทย" อยู่ระหว่างเจรจากันด้วยเหตุผล ซึ่งเชื่อว่าสุดท้ายจะพูดคุยกันได้ พร้อมมองข้ามชอตไปถึงการลงมติวาระ 3 รอไว้แล้ว

"หากจะเปิดสมัยวิสามัญก็สามารถทำได้ แต่ไม่ใช่เดือนพฤศจิกายน คงเป็นช่วงเดือนธันวาคม ก่อนเปิดสมัยประชุมสามัญวันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งอาจจะเป็นวันที่ 8-10 ธันวาคม เพื่อลงมติในวาระสาม"

การล็อกวันลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ของภราดร น่าจะเป็นอีกสัญญาณหนึ่ง ที่บ่งบอกถึงการจบสิ้นภารกิจตามข้อตกลงใน MOA เพราะไม่ว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน ก็ย่อมไม่มีเหตุผลที่จะให้สภาชุดนี้อยู่ต่อ

ที่สำคัญเป็นการยื่นขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ก่อนหน้าเปิดประชุมสมัยสามัญเพียงสองวัน จึงน่าจะมีเหตุผลอื่นที่มากกว่าต้องการใช้ฤกษ์ "วันรัฐธรรมนูญ" 10 ธันวาคม ลงมติในวาระสามเพียงอย่างเดียว

อีกสัญญาณ มีการตรวจสอบกันให้วุ่นจากอดีตผู้ชุมนุมที่รอการปลดพันธนาการจากร่าง พ.ร.บ.เสริมสร้างสังคมสันติสุข หรือกฎหมายนิรโทษกรรม ที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรไปอยู่ในมือของวุฒิสภา จะทันได้คลอดออกมาก่อนยุบสภาหรือไม่?

เพราะหากยุบสภาก่อน เวลาแห่งการรอคอยก็ต้องทอดยาวออกไป และต้องไปออกแรงลุ้นให้รัฐบาลชุดใหม่หลังเลือกตั้ง นำร่างกฎหมายที่ค้างอยู่มายืนยันให้สภาเดินหน้าพิจารณาต่อ ซึ่งไม่รู้คดีที่อยู่ในศาลสูงจะตัดสินก่อนหรือเปล่า

สุดท้าย สัญญาณจากกลุ่มนักการเมืองจมูกมด มีการเคลื่อนไหวรับเลือกตั้งกันคึกคัก เริ่มจากพรรคเพื่อไทย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าป้ายแดง เตรียมปล่อยแคมเปญชุด "สร้างโอกาส ล้างหนี้ มีกิน" ออกสู่ตลาดการเมือง

เทียบกับแคมเปญก่อน "มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี" ไม่รู้อย่างไหนจะโดนใจกว่า

ส่วนอีกกลุ่ม "เพื่อนเฉลิมชัย" เฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีสส.ในสังกัด จำนวน 11 คน ได้ขึ้นป้ายศูนย์ประสานงาน เพื่อนเฉลิมชัย พร้อมเปิดที่ทำการ ยินดีต้อนรับสู่ "ครอบครัวเฉลิมชัย" ตัดหน้าก่อนพรรคประชาธิปัตย์ เปิดแคมเปญหาเสียงทั่วประเทศ 1 วัน

"เสี่ยต่อ-เฉลิมชัย" ที่ลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเหตุแห่งปัญหาสุขภาพ จะพาสส. ในสังกัด 11 คน เข้าไปอยู่ในชายคาพรรคกล้าธรรม ร่วมอุดมการณ์ทางการเมืองกับ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า

ทั้งหมดที่ว่ามา เกิดขึ้นในวันเดียวพร้อมกัน ไม่ใช่มาฆบูชาทางการเมืองก็เหมือนใช่ เพราะเป็นเรื่องของคนการเมือง ที่น่าจะได้รับสัญญาณมาเหมือน ๆ กัน คือ การยุบสภาและการเลือกตั้งที่จะมาเร็วก่อนกำหนด

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์