Deep SPACE ทักษิณ ชินวัตร ฝังรากลึกในแวดวงการเมืองมายาวนาน วางรากฐาน ความมั่นคง สืบทอดอำนาจ แม้จะผ่านการเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง เขาก็กลับมาได้ทุกครั้ง แต่เหตุล่าสุดระบอบทักษิณ ถึงกับล่มสลายในมือของลูกสาวในช่วงเวลาสั้น ๆ ทั้งหมดเกิดขึ้นจากความย่ามใจของทักษิณทั้งสิ้น ติดตามในDeep SPACE..ลึกกว่าที่รู้
ในขณะที่พรรคเพื่อไทย กำลังวิ่งพล่านรวบรวมเสียงสส.แข่งกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อให้ตัวเองได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง โดยไม่ได้สำนึกหรือคำนึงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ้านเมืองในห้วงเวลาเกือบสองปีที่ผ่านมา ว่าจะต้องแสดง‘ความรับผิดชอบ’ อย่างไรบ้าง
แต่กลับ ‘ดิ้น’ รักษาอำนาจเอาไว้ต่อ พาบ้านเมืองวิกฤตถลำลึกเข้าไปอีก มิได้นำพาต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้ความเป็นรัฐมนตรีของ แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลง เพราะฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง คำนึงถึงประโยชน์ตัวเองมากกว่าผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง
พรุ่งนี้ ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายรวบรวมเสียงข้างมากได้ ใครจะ‘เพ้อ’ ใครจะ‘ฝัน’กลางวันคงได้เห็นกัน
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงวิธีคิดของคนชื่อ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ทั้งความเป็นนักสู้ มีความมั่นใจในตัวเองสูง และมักจะตัดสินใจช้าไปก้าวหนึ่งเสมอ สุดท้ายทำให้โอกาสกลายเป็นวิกฤต แทนที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
ครั้งนี้ก็เหมือนกันที่ตัดสินใจ ‘พลาด’ เพราะมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง จนทำให้ลูกสาวแท้ๆ ต้องถูกฝังในทางการเมืองตกอยู่ในชะตากรรมที่ไม่ต่างกับตัวเอง และผู้เป็นน้องสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ยังเป็นสัมภเวสีอยู่ในต่างแดน
ความเป็นนักสู้ของทักษิณ ผ่านการพิสูจน์ให้เห็นมาแล้ว นับตั้งแต่ถูกรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และได้กลับมาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศอีกหลายครั้ง ไม่เพียงคำพูดที่ว่าจะต่อสู้ไม่ว่าจะอยู่ในนรกหรือสวรรค์ เท่านั้น
ทักษิณ ผู้เคยล้มลุกคลุกคลานในทางธุรกิจ ต้องวิ่งแลกเช็กมาต่อลมหายใจ เพราะทำอะไรก็เจ๊งหมด ไม่ว่าธุรกิจหนัง คอนโดมิเนี่ยม ชีวิตเกือบสิ้นเนื้อประดาตัว ชนิดที่เหลือกางเกงในตัวเดียว แต่สุดท้ายก็กลับมาผงาด กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของประเทศได้
ทักษิณ ได้ผันตัวเองเข้าสู่การเมืองครั้งแรกปี 2537 ในตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ สังกัดพรรคพลังธรรม ก่อนมาตั้งพรรคไทยรักไทย ในปี 2541 และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 ของประเทศไทยในปี 2544 ซึ่งใช้เวลาเพียง 7 ปีเท่านั้น
ต่อมาทักษิณ ยังสร้างปรากฎการณ์ปั้นนายกรัฐมนตรี มารับไม้ต่อจากตัวเองอีกหลายคนทั้ง สมัคร สุนทรเวช, สมชาย วงศ์สวัสดิ์, ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, เศรษฐา ทวีสิน, แพทองธาร ชินวัตร ส่วนจะมีคนต่อไปอีกหรือไม่ยังต้องลุ้นกัน
แต่ในระหว่างทางตลอดเวลา 24 ปีที่ผ่านมา เพราะความ ‘มั่นใจ’ ของทักษิณ ทำให้หลายครั้งที่ต้องก้าวพลาด และตัดสินใจช้าไปก้าวหนึ่งอยู่เสมอ ตัวอย่างจากการปฏิเสธข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองต่างๆ จนถูกบอยคอตไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง และเจอข้อหา ‘พรรคใหญ่จ้างพรรคเล็ก’ ถูกยุบพรรคในเวลาต่อมา
เวลานั้นกว่าทักษิณจะยอม ‘ลดตัว’ ลงมาจับเข่าคุยกับพรรคเล็กพรรคน้อยทั้งหลายเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็สายเกินเพล เพราะพรรคการเมืองหลักต่างพร้อมใจกันประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมไปแล้ว
เที่ยวนี้ก็อีกเหมือนกัน หลังได้โอกาสกลับคืนสู่ประเทศไทยด้วย‘ดีลสุดพิเศษ’ ปิดฉากการใช้ชีวิตในต่างแดนนาน 17 ปีลง ทักษิณได้พลิกโอกาสเป็นวิกฤตให้ตัวเองอีกครั้ง ทั้งในนามของ ‘สทร.’และเสมียนประเทศ จนมาถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดของชีวิต คือ การให้ลูกสาวเดินหน้าเข้าสู่ลานประหารของศาลรัฐธรรมนูญ
เพราะมีความมั่นใจในตัวเองสูงว่าลูกสาวจะรอด?!
สุดท้ายผลปรากฎออกมาอย่างที่เห็น มติ 5:4 รอดไม่เข้าข่ายความผิดขาดความซื่อสัตย์สุจริต ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) จริง แต่ยังมีมติ 6:3 ตามมา มีความผิดฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงใน (5) มาตราเดียวกัน ทำให้ลูกสาวกลายเป็น‘ซากศพ’ทางการเมือง ถูกศาลรัฐธรรมนูญ‘เสียบหัวประจาน’
ความสำเร็จ ความล้มเหลวของทักษิณ ในทางธุรกิจกับการเมืองกลับหัวกลับหางกัน ในทางธุรกิจเริ่มต้นจากศูนย์และล้มลุกคลุกคลานจนแทบจะเหลือกางเกงในตัวเดียว แต่ในทางการเมืองเริ่มที่ความสำเร็จ จนเติบใหญ่รุ่งโรจน์ในเวลาต่อมา และจมดิ่งจนกางเกงในก็แแทบจะไม่เหลือติดตัว
ทั้งหลายทั้งปวง เพราะอัศวินคลื่นลูกที่สามในอดีต มีความทรนงเชื่อมั่นในตัวเองสูง แม้พลาดแล้วพลาดอีกแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะนับจากวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เป็นต้นมา แต่ก็ไม่ได้สำเหนียกทบทวนตัวเอง ยังคงหลงอยู่กับภาพความสำเร็จของความเป็น‘ทักษิโณมิกส์’ในอดีต
ลืมไปว่าเวลาผ่านมา 24 ปี โลกได้ก้าวผ่านยุค 5 จี เข้าสู่ยุค AI แล้ว ความที่มั่นใจในตัวเองแบบแกะไม่ออกของทักษิณ จึงกลายเป็นความพ่ายแพ้ต่อตัวเองในที่สุด.