ฝันพรรคส้ม ปั้นนายกฯ สีน้ำเงินไม่ง่าย?!

7 ก.ค. 2568 - 03:02

  • นายกฯ เฉพาะกิจ เกมการเมืองยังไม่ง่าย

  • ข้อเสนอพรรคส้มถูกมองว่าเป็น ‘โลกสวย’

  • พรรคเพื่อไทยยังมีไพ่ในมือ

ฝันพรรคส้ม ปั้นนายกฯ สีน้ำเงินไม่ง่าย?!

ในแวดวงการเมือง เริ่มจินตนาการกันไปไกลมาก เรื่องข้อเสนอนายกฯ เฉพาะกิจ ของพรรคประชาชน หรือพรรคส้ม ที่พร้อมโหวตให้ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี โดยไม่ขอเป็นรัฐบาลด้วย

เพียงแต่ต้องเดินตามเงื่อนไขที่พรรคส้มขีดไว้ 1-2-3-4 และ "ยุบสภา" ภายในสิ้นปี

นักวิเคราะห์บางคน มองการเมืองแบบโลกสวย ในเมื่อพรรคใหญ่ร้อยกว่าเสียง ไม่เอาเก้าอี้รัฐมนตรีเลย ก็สามารถเอากระทรวงใหญ่ ๆ มาล่อให้พรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน ตีจากมาอยู่กับ "เสี่ยหนู-อนุทิน" ได้สบาย ๆ

โดยลืมไปว่าแม้ แพทองธาร ชินวัตร จะถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และกำลังเดินเข้าสู่หลักประหาร แต่พรรคเพื่อไทย  ยังมีไพ่อีกหลายใบในมือ ไม่ได้อยู่ในสภาพหมาตาย ที่เห็บต้องกระโดดหนี

ในทางกลับกัน หากบังเอิญมีพรรคร่วมรัฐบาลเคลิ้มไปกับข้อเสนอดังกล่าว และถอนตัวไปสนับสนุนนายกฯ เฉพาะกิจ สุดท้ายอาจถูกเพื่อไทย "ยุบสภา" ดัดหลัง คงมีสภาพไม่ต่างกับ หมาเห็นเงา ในนิทานอีสป ยอมคายก้อนเนื้อที่คาบอยู่ทิ้ง เพื่อไปเอาก้อนเนื้อที่ใหญ่กว่าในน้ำแทน

ถ้าแบบนี้ข้อเสนอโลกสวยที่ว่าคงนำมาใช้ไม่ได้

เพราะในทางการเมือง มักจะมีการหักเหลี่ยมเฉือนคมกันอยู่เสมอ ชนิดที่ถ้าข้าไม่ได้ เอ็งก็อย่าหวังว่าจะได้เลย ซึ่งเคยมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว ตอนอดีตนายกฯ บรรหาร ศิลปอาชา ถูกพรรคร่วมรัฐบาลบีบให้ลาออก เพื่อแลกกับการยกมือให้ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

แต่สุดท้ายเกมจบลงด้วยการยุบสภาแทน

ฉันใด ก็ฉันนั้น วันนี้พรรคการเมืองทั้งสองขั้ว ต่างมองข้ามชอต ซุ่มรวบรวมเสียงไว้เลือกนายกฯ คนใหม่ รอเพียงวันเวลาเหมาะสม ให้งบประมาณปี 69 ผ่านสภา และแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการประจำปีให้เสร็จก่อน ซึ่งช้าเร็วอย่างไร การโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ ต้องมีขึ้นก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคดีแพทองธาร

เพราะ ทักษิณ ชินวัตร ต่อให้ถูกตำหนิเป็นพ่อประสาอะไรก็เถอะ คงไม่ปล่อยให้ลูกสาวอยู่รอวัดดวงไปถึงตอนนั้น ขืนพลาดพลั้งจะถูกตีตรา และทำให้มีผลผูกพันกับทุกองค์กร ไม่สามารถกลับเข้าสู่การเมืองได้อีกตลอดไป

ส่วนชื่อ ชัยเกษม นิติสิริ จะมีตำหนิเรื่องมาตรา 112 จนเป็นเหตุให้พรรคร่วมรัฐบาลนำมาเป็นเงื่อนไข ไม่เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น นาทีนี้น่าจะเลยจุดนั้นไปแล้ว เพราะขนาดพรรคส้ม ยังแบะท่าไปสนับสนุนภูมิใจไทย ที่เป็นพรรคสีน้ำเงินได้

การเมืองไทยวันนี้ ถือว่าได้ผ่านการผสมแบบข้ามขั้ว ข้ามสายพันธุ์ จนมาอยู่ในข้องเดียวกัน ศีลเสมอกัน ไม่มีใครดีเด่ไปกว่าใครอีกแแล้ว ดังนั้น ถ้าผลประโยชน์ลงตัว ทุกกอย่างก็สามารถอธิบายได้หมด

แต่เงื่อนไขของพรรคส้มต่างหาก ที่เป็นโจทย์หินของพรรคสีน้ำเงิน ยากจะทำตามได้ เพราะภารกิจสำคัญสุดให้เข้ามาเพื่อยุบสภาภายในสิ้นปี  แถมยังมีเรื่องตั้งสสร.จัดทำรัฐธรรรมนูญฉบับใหม่ ที่ต้องผ่านการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เสียก่อน

เวลาที่เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่งปี ต่อให้พระอินทร์ตัวเขียว ๆ ลงมาเนรมิตให้ยังไม่ทันเลย

การยื่นข้อเสนอผ่าทางตันการเมืองของพรรคส้ม จึงเป็นเพียงการสร้างเงื่อนไขให้ตัวเองดูดี ไม่ใช่แผ่นเสียงตกร่องเรื่องยุบสภาอย่างเดียว และอีกด้านยังตรึงพรรคร่วมรัฐบาลไว้กับพรรคเพื่อไทย ไม่ให้แตกแถวไปไหน

เพราะเงื่อนไขที่โยนออกมานั้น ในชีวิตจริงไม่สามารถทำไม่ได้

ส่วนใครที่ไปทำให้ "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เคลิ้มว่ายังเป็นแคนดิเดทนายกฯ ได้อยู่ เพราะคำว่าสส.ร้อยละ 5 นับตั้งแต่วันที่ กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งนั้น ให้ไปอ่านรัฐธรรมนูญ มาตรา 159 ซ้ำหลาย ๆ  รอบหน่อย เพราะมีคำว่า "ของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร"

ขีดเส้นใต้หนาๆ ตรงคำว่า "เท่าที่มีอยู่" เอาไว้จะได้เบิกเนตรดวงตาเห็นธรรม

ส่วนที่บางคนยังหลงกอดมาตรา 272 เอาไว้อยู่ว่า รัฐธรรมนูญเปิดช่องให้เลือกนายกฯ จากคนนอกได้ โดยใช้มติไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 หรือจำนวน 500 เสียง ของที่ประชุมร่วมสองสภานั้น มาตรานี้อยู่ในบทเฉพาะกาล ได้สิ้นสภาพไปแล้วหลังพ้น 5 ปีแรก นับจากวันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ คือในปี 2566

มีเพียงมาตรา 5 เท่านั้น ที่จะนำมาผ่าทางตันการเมืองได้ ในกรณีที่ไม่มีบทบัญญัติใดรองรับไว้ ให้ยึดตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

โปรดได้ทราบกันตามนี้ว่า ฝันพรรคส้ม ที่จะปั้นนายกฯ สีน้ำเงินนั้นไม่ง่าย ตราบที่หมายังไม่ตาย เห็บคงไม่กระโดดหนี เว้นเสียแต่จะเป็นหมาเห็นเงาในนิทานอีสปเท่านั้นแหล่ะ?!

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์