รัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ยังมีความหวัง?

22 ก.ค. 2568 - 02:33

  • แก้ ม.256 ใช้เวลา 6 เดือน

  • ทำประชามติ 3–5 เดือน เลือก ส.ส.ร. อีก 6 เดือน

  • หากเริ่มประชามติได้ สภาชุดหน้าก็เดินต่อได้ทันที

รัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ยังมีความหวัง?

ไม่ว่าใครจะรอให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ก็ตาม แต่ไทม์ไลน์ที่วางกันไว้เดิมว่าจะทำอะไร ในช่วงไหนบ้าง มันได้กลายเป็นปราสาททรายต้องคลื่นไปแล้ว หลังการแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติสะดุด ถูกแช่แข็งไว้นานกว่า 180 วัน

ทว่าหลังสภาผู้แทนราษฎรนำร่างเดิมของ พ.ร.บ.ประชามติ มายืนยันประกาศใช้เป็นกฎหมาย ทำให้ความหวังริบหรี่ที่จะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของใครบางคนกลับคืนมาอีกครั้ง 

จนทำให้ ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต้องไปตอบกระทู้ถามสว.เรื่องความคืบหน้าของการแก้ไขรัฐธรรมนูญในที่ประชุมวุฒิสภา เมื่อวันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ชูศักดิ์ ชี้แจงเหตุผลที่คณะรัฐมนตรี ยังไม่ผลีผลามเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อสภา เพราะมีความไม่แน่นอนเรื่องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ถึงจำนวนครั้งในการทำประชามติ จึงเสนอ ครม.ว่ายังไม่ควรเสนอร่างแก้ไขฉบับของ ครม.หากเสนอไปแล้วทำไม่ได้ ครม.จะเสียหาย

"ขณะนี้มีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระรัฐสภา 2 ฉบับ คือ ฉบับพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน" 

ชูศักดิ์ ย้ำว่า รัฐบาลแน่วแน่แก้รัฐธรรมนูญ แต่ต้องรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ หากมีคำวินิจฉัยให้ทำประชามติ 2 ครั้ง ร่างแก้ไขเพิ่มเติมที่ค้างอยู่ 2 ฉบับ ก็เดินต่อไปได้ เมื่อถามศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ควรรอคำตอบก่อน หากตัดสินใจเลย เท่ากับต้องทำประชามติ 3 ครั้ง แต่ละครั้งใช้งบ 3 พันล้านบาท 

"ความตั้งใจของรัฐบาล ไม่อยากไม่ให้สำเร็จ เพราะแม้จะผ่านวาระ 3 แล้ว อาจมีคนยื่นศาลรัฐธรรมนูญ หากอยากทำให้สำเร็จ ต้องตัดอุปสรรคที่ไม่มั่นใจ ให้แน่ใจถึงจะเดินได้"

ชูศักดิ์ คำนวณไทม์ไลน์การแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ให้ที่ประชุมวุฒิสภาฟังว่า ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน เสร็จแล้วต้องถามประชามติ ใช้เวลา 3-5 เดือน ทำความเข้าใจประชาชน หลังจากประชามติเสร็จแล้ว จึงเข้าสู่การเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ใช้เวลา 6 เดือน

"ดูแล้วยากจะทำให้สำเร็จภายใต้รัฐบาลชุดนี้ ได้ปวารณาว่าหากมีข้อยุติในหลายประเด็น จะเดินหน้าต่อ ขอให้ตั้ง ส.ส.ร.ไว้ เพื่อร่างรัฐธรรมนูญต่อไปตามไทม์ไลน์ อาจมีปัญหาที่ทำให้สำเร็จไม่บริบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์"

แม้ชูศักดิ์ มือกฎหมายรัฐบาล จะตั้งเป้าไว้สูงลิ่วถึงขั้นได้ ส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งต่างจากประธานวิปรัฐบาล วิสุทธิ์ ไชยณรุณ คนพรรคเดียวกัน ที่เชื่อว่าจากสถานการณ์ขณะนี้คงไม่ทันถึงการตั้ง ส.ส.ร.

"ตั้งเป้าว่า ขอให้มีการทำประชามติครั้งแรกให้ได้ก่อน เพื่อให้สภาชุดหน้าเดินหน้าต่อ แต่สุดท้ายขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตอบมาก่อนว่า ต้องทำประชามติจำนวนกี่ครั้ง เพื่อจะได้เดินหน้าได้"

เช่นเดียวกับ นิกร จำนง หนึ่งในคณะทำงานศึกษาเรื่องการทำประชามติ ที่ปลุกปั้นเรื่องการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มาตั้งแต่แรก ก็ขอรอให้มีคำตอบจากศาลรัฐธรรมนูญก่อน ส่วนเรื่องอื่น ๆ ไม่มีอะไรต้องยุ่งยาก แม้แต่คำถามประชามติ ก็ยึดตามที่ครม.มีมติไว้ได้เลย

"ปัญหาร่วมที่เห็นนาทีนี้คือ ต้องตกผลึกร่วมกันว่า สมควรต้องมีรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อปฏิรูปปการเมืองอีกครั้ง"

นิกร ไม่ได้คาดหวังสูงว่าต้องมีส.ส.ร.ทันสภาชุดนี้ เพียงแต่ขอให้มีคำตอบจากศาลรัฐธรรมนูญเรื่องทำประชามติกี่ครั้ง จากนั้น เมื่อกฎหมายประชามติมีผลบังคับใช้ ก็ให้ครม.มีมติและกกต.รับไปดำเนินการในกรอบเวลา 90-120 วัน

เพียงเท่านี้ ทุกอย่างก็สามารถรันต่อไปได้ ไม่ว่าจะมีสภาอยู่หรือไม่ก็ตาม

ความหวังเรื่องการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงยังคงมีอยู่ เพียงแต่ขอให้เริ่มต้นนับหนึ่งที่การทำประชามติก่อน ส่วนที่เหลือค่อยกลับมาว่ากันต่อในสภาชุดหน้า

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์