แพทองธาร ชินวัตร สิ่งชำรุดทางการเมือง?!

19 ส.ค. 2568 - 03:52

  • จะรอดหรือร่วง? สังคมจับตา 21 ส.ค. นี้

  • ‘แพทองธาร’ จะไปศาลด้วยตัวเองหรือไม่

  • เพื่อไทยยังมั่นใจ เจตนานายกฯ คือปกป้องผลประโยชน์ชาติ

แพทองธาร ชินวัตร สิ่งชำรุดทางการเมือง?!

ขณะที่ยังไม่มีคำตอบแน่ชัดจากปาก แพทองธาร ชินวัตร หนึ่งในสองพยานบุคคล ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดไปไต่สวนในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ ว่าจะเดินทางไปให้ศาลไต่สวนด้วยตัวเองหรือไม่

ล่าสุด นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่ออีกครั้งในเรื่องนี้ โดยโยนให้ไปถามเจ้าตัวเอาเอง ต่างจากวันก่อนที่แบ่งรับแบ่งสู้ “ถ้าไปก็เห็นเอง” หรือคงตัดสินใจเองหากจะไปหรือไม่ไป

จากท่าทีความไม่ชัดเจนที่ว่า ทำเอาคอการเมืองเดาทางกันไปต่างๆ นานา ซึ่งมีทั้งเห็นว่าไปและไม่ไป แต่เทน้ำหนักค่อนไปทางไม่ไปมากกว่า เพราะโดยบุคคลิกเฉพาะตัวแล้ว น่าจะไม่เหมาะกับการไปยืนในคอกหน้าบัลลังก์ให้ศาลซัก

เพราะมีโอกาสพลาดพลั้งสูงและจะพลอยทำให้คำชี้แจงที่ยื่นเป็นเอกสารเสียไปด้วย

แต่ที่ทำเอาคอการเมืองเซอร์ไพรส์ไปตามๆ กัน คือ ‘ฉัตรชัย บางชวด’ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พยานบุคคลอีกปาก ยืนยันจะไปให้ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนในวันที่ 21 สิงหาคม พร้อมกับบอก ‘ต้องรอฟังในวันนั้น’ เมื่อถูกถามเตรียมคำชี้แจงอะไรไว้บ้าง

เลขาฯ ฉัตรชัย เป็นพยานบุคคลลำดับที่หนึ่งในจำนวนทั้งหมดห้าปาก ที่ทีมทนายความฝ่ายผู้ถูกร้องยื่นขอไต่สวนต่อศาล โดยให้เหตุผลในฐานะผู้ทำงานร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกเหล่าทัพ และยังเป็นบุคคลที่ทราบถึงเจตนาอันแท้จริงของผู้ถูกร้องในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน

แน่นอนว่า พยานทุกปากที่นำไปขอไต่สวนต่อศาล ผู้ถูกร้องย่อมมั่นใจว่าต้องไปให้การเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง  แต่สำหรับเลขาฯ ฉัตรชัย ที่ถูกอ้างเป็นบุคคลว่าทราบถึงเจตนาในการสนทนากับฮุน เซน นั้น ไม่ได้อยู่ในวงเตรียมการสนทนาที่โรงแรมโรสวู้ดด้วย

เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่อ้างเป็นพยานบุคคลด้วย แต่ศาลไม่อนุญาต ทั้ง อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ภุชงค์ รัตนวรรณ ข้าราชการบำนาญ พล.ท.พุฒิพงษ์ ชีพสมุทร รองเจ้ากรมพระธรรมนูญ ธนาธิป อุปัติศฤงค์ อดีตทูตไทยในหลายประเทศ ทั้งหมดก็ไม่ได้รวมอยู่ในคณะเตรียมพูดคุยด้วยเช่นกัน

จึงพออนุมานเอาได้ว่า สาเหตุที่ศาลเรียกไต่สวนเฉพาะเลขาธิการสมช.เพียงคนเดียวจากที่ขอไปห้าปาก คงเป็นเพราะเหตุผลที่ให้ไว้ "เป็นบุคคลที่ทราบถึงเจตนาในการสนทนากับฮุน เซน"

คำว่า ‘ต้องรอฟังในวันนั้น’ ของเลขาฯ ฉัตรชัย จึงน่าสนใจยิ่งว่าจะส่งผลบวกหรือลบต่อคดีถอดถอนนายกฯ แพทองธาร ในครั้งนี้อย่างไร

ในขณะที่คนในพรรคเพื่อไทย ยังคงประสานเสียงเชื่อในเจตนาดีของแพทองธาร ที่พูดเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง และรักษาชีวิตของคนไทยในกัมพูชาเอาไว้ จึงทำให้มั่นใจว่าจะได้รับความยุติธรรมจากการตัดสินของศาล

วิสุทธิ์ ไชยณรุณ หนึ่งในแกนนำพรรคเพื่อไทยลำดับต้นๆ ออกมาย้ำแบบซ้ำๆ หลายครั้ง ถึงความมั่นใจที่ว่านั้น

“ยืนยันไม่มีใครหวั่นไหว​ ทุกคนกำลังใจดีหมด​ และเชื่อมั่นว่าสิ่งที่นายกฯ พูดเป็นการรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมืองและสิ่งที่นายกฯพูดคือการประวิงเวลา เพื่อรักษาชีวิตของคนไทยในกัมพูชา​ ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ จึงเชื่อว่าจะได้รับความยุติธรรมแน่นอน​”

วิสุทธิ์ มั่นใจถึงขนาดไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ คนใหม่ “ยืนยันว่าไม่มี วันนี้ พรุ่งนี้ ก็ยังยืนยัน” โดยให้ใครก็ตามที่รออยู่ รอไปก่อน “รอไปสมัยหน้า สมัยนี้คุณไม่มีโอกาสแล้ว”

หรือแม้แต่ที่มีการวิเคราะห์กันไปไกลว่า ไม่ว่าจะรอดหรือไม่รอด แต่นายกฯ แพทองธารก็อยู่ยากนั้น วิสุทธิ์กลับมองสวนเหล่านักวิเคราะห์ว่า “ไม่ยากหรอก ให้ผ่านวันที่ 29 สิงหาคมนี้ไปก่อน ทำไมต้องยาก หากไม่ผิดจะไปกลัวอะไร”

ไม่แน่ใจว่า เป็นการพูดที่แสดงถึงความมั่่นใจจริงๆ หรือปากกล้าขาสั่นกันแน่ เพราะเวลานี้สองพ่อลูก ‘แพทองธาร-ทักษิณ’ ต่างลดเพดานการเคลื่อนไหวลงแบบมีนัยสำคัญ

โดยผู้เป็นบิดาปรากฎแต่ชื่อบนหน้าสื่อ ผ่านการบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ส่วนแพทองธาร ปรากฎกาย แต่ปิดวาจา เลี่ยงให้สัมภาษณ์สื่อ มีสื่อสารผ่านทางไอจีบ้าง

แต่ข้อความที่โพสต์วนๆ อยู่กับเรื่องคำสอน เรื่องสติ กำลังใจ ‘ความชอบ-ชัง’ อารมณ์เหมือนปลงๆ

เอาเป็นว่า ความเชื่อของคนในพรรคเพื่อไทย จะพร้อมใจกันเชื่อด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่สำหรับแพทองธาร นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สอง และผู้นำอายุน้อยที่สุดของไทย ผ่านมาถึงวันนี้สังคมไทยได้ประจักษ์ชัดแล้วว่า ด้วยความเยาวัย ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์เท่าที่มี

เธอไม่มีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง กับการต้องมาแบกรับภาระงานบริหารบ้านเมือง ไม่ว่าจะในยามปกติหรือไม่ปกติก็ตาม

พรุ่งนี้ ต่อให้แพทองธารพ้นบ่วง อยู่รอดปลอดภัยจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ก็คงกลับมาอีกไม่ได้ เพราะเธอเสมือนเป็นสิ่งชำรุดทางการเมืองไปแล้ว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์