ความเคลื่อนไหวบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มกลับมาคึกคักอีกรอบ เมื่อปรากฏภาพในโซเชียลมีเดียของฝั่งกัมพูชา เผยแพร่ภาพการเคลื่อนกำลัง ทั้งกำลังทหารราบ และอาวุธหนัก หลายประเภท
กัมพูชา เจาะจงให้เห็นการเคลื่อนกำลังทหารราบเข้าสู่พื้นที่สำคัญ ทั้งบริเวณโดยรอบภูมะเขือ และบนเส้นทางขึ้นเขาพระวิหาร
รวมทั้งยังตั้งใจปล่อยภาพปืนใหญ่รุ่นใหม่ ที่เพิ่งได้รับมอบจากประเทศจีน ซึ่งเป็นปืนใหญ่อัตตาจร PCL-09 ขนาด 155 มม.ที่ติดตั้งบนรถบรรทุกหุ้มเกราะ Shaanxi SX 2150 ขับเคลื่อนระบบ 6x6
ท่าทีของฝ่ายกัมพูชา ที่ตั้งใจเปิดเผยความเคลื่อนไหวทางการทหารรอบนี้ เห็นชัดว่า จงใจให้สื่อฝ่ายไทย หยิบฉวยไปเผยแพร่ต่อ เหมือนที่เดินเกมนี้มาตลอด
ทีม IO ของกัมพูชา รู้ดีว่าบรรดาสื่อออนไลน์ ทั้งสื่ออิสระในพื้นที่จังหวัดชายแดน และสื่อหลัก ติดตามความเคลื่อนไหวแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของกัมพูชามานาน
ภาพการซ้อมรบ และการฝึกทหารที่ออกแนวตลก ขบขัน ภาพการฝึกหน่วยซีลของกัมพูชา พลร่ม และคอมมานโดของกัมพูชาก่อนวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ส่วนใหญ่เป็นแนวขาดความพร้อม ขาดความเข้มแข็งและไร้วินัย
ซึ่งก็ได้ผลในทางกว้าง…เมื่อสังคมออนไลน์ในไทย หยิบมาเผยแพร่ต่อและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกสนานถึงความล้าหลังของกองทัพกัมพูชา พร้อมกับความประมาท และประเมินความเข้มแข็งของกองทัพกัมพูชา ต่ำกว่าความเป็นจริง
ภาพของกองพัน BHQ คอมมานโด 911 และกองพันซุ่มยิง ของกัมพูชามาปรากฏในโลกออนไลน์ ไม่นาน ก่อนกัมพูชาจะเปิดฉากโจมตีไทยในเช้าของวันที่ 24 กรกฎาคม 2568
ช่วงนั้นการข่าวของกองทัพภาคที่ 2 ตรวจพบความเคลื่อนไหวผิดปกติ ทั้งการเร่งก่อสร้างบังเกอร์ เบิร์มบุคคล คูเลต และเส้นทางการขนส่ง
พร้อมๆกับรายงานข่าวการเคลื่อนพลทหารราบนับหมื่นและอาวุธหนัก รวมถึงอาวุธพิเศษ ที่เพิ่งได้รับการสนับสนุนจากจีน กระจายเข้าประชิดตลอดแนวชายแดน
หากขาดการข่าวทางลึก และขาดการยืนยันจากภาพถ่ายทางอากาศ ฝ่ายไทยอาจประเมิน และวางกำลังตั้งรับ เพื่อตรึงแนวชายแดนและวางแผนยุทธการทางอากาศ เพื่อการตอบโต้แบบเด็ดขาดไม่ทัน
เพียงแต่ปัจจัยของการเปิดฉากบุกไทยของกัมพูชารอบนั้น เป็นปริศนาสำคัญว่า ทำไม สองพ่อ-ลูกตระกูลฮุน ถึงกล้าเปิดการรบ และโจมตีไทย อันเป็นการเปิดแนวรบกึ่งๆ การทำสงครามขนาดใหญ่
เพราะกัมพูชา เปิดการโจมตีตลอดแนวชายแดน ไม่เว้นแม้กระทั่งในพื้นที่กองกำลังบูรพา ของกองทัพภาคที่ 1 และพื้นที่กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด ของกองทัพเรือ
ความพร้อมของสรรพกำลัง ทั้งกำลังทหารราบ อาวุธพิเศษที่ทันสมัย ยุทโธปกรณ์ที่มากกว่าปี 2554 หลายเท่า เพียงพอต่อการตัดสินใจของกัมพูชาหรือ เพราะอย่างน้อยกัมพูชาก็รู้ว่า แม้จะได้รับการสนับสนุนจากจีน ทั้งด้านอาวุธ เทคโนโลยี และงบประมาณ แต่จีนย่อมไม่สนับสนุนให้กัมพูชาเปิดสงครามกับไทยอย่างแน่นอน
จอมทัพเฒ่าอย่างฮุนเซน ที่เชี่ยวชาญการเมืองระหว่างประเทศ และผ่านการต่อสู้ในสงครามทางการทูตมาอย่างโชกโชน ย่อมอ่านขาดว่า ทันทีที่กัมพูชาเปิดสงครามกับไทย จีนจะต้องเข้ามามีบทบาทในการยับยั้งแน่นอน
การยับยั้งของจีน ย่อมมิใช่ แค่ทำแบบปากว่า ตาขยิบ เพราะในช่วงหลังจีนกับไทยมีสายสัมพันธ์ที่ค่อนข้างแนบแน่น และลึกซึ้งกว่าสายสัมพันธ์กับกัมพูชาที่เป็นแบบกึ่งรักษาผลประโยชน์ทางด้านการทหาร
แล้วอะไร…เป็นปัจจัยให้กัมพูชากล้าเปิดเกมเสี่ยงเช่นนี้
ฮุนเซนและฮุนมาเนต จับสัญญาณความไม่พอใจของจีน และท่าทีของจีนที่เริ่มลดการสนับสนุนกัมพูชา หรือ เป็นการสนับสนุนที่เงื่อนไขพิเศษมากขึ้น จากท่าทีของจีนใน “โครงการขุดคลองฟูนันเตโช”
ช่วงนั้นจีนเริ่มไม่สบายใจและเริ่มจับตาความไม่โปร่งใสของโครงการนี้ เมื่อตรวจพบว่า เม็ดเงินที่จีนให้การสนับสนุน เมื่อเทียบกับความคืบหน้าและขนาดของโครงการ เริ่มไม่สอดคล้องกัน และเริ่มมีรายงานหนาหูว่า มีการโยกเงินออกจากโครงการนี้ไปยังบัญชีต่างประเทศของคนในตระกูลใหญ่ของกัมพูชา
จีนสนับสนุนการขุดคลองฟูนันเตโช เพื่อให้กัมพูชามีทางออกทางทะเลที่สะดวกขึ้น และสอดรับกับการพัฒนา “ฐานทัพเรือเรียม” ที่จีนต้องการเข้าไปใช้ประโยชน์ เพื่อการเทียบท่าของกองทัพเรือจีนในอนาคต
รวมทั้งเป็นฐานทัพที่จีน สามารถครองความได้เปรียบในทะเลแปซิฟิก เชื่อมโยงกับทะเลจีนใต้ และเป็นฐานทัพบนบก หรือ เมนแลนด์ เพื่อยันกับกองเรือแปซิฟิกของสหรัฐ ที่วันนี้ มีเพียงฐานทัพเรือในญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์เท่านั้นที่เป็นฐานทัพเรือใหญ่ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในส่งกำลังบำรุง หากเกิดสงคราม หรือหากสหรัฐต้องการยกพลขึ้นในบกบนแผ่นดินใหญ่ของจีน เวียดนาม กัมพูชา หรือแม้แต่ไทย
กัมพูชา หวังจะใช้ฐานทัพเรือเรียม เป็นตัวต่อรองกับจีนมาโดยตลอด จนได้รับการสนับสนุนในแทบทุกด้าน แลกกับการไม่ให้สหรัฐเข้าไปแทรกแซงหรือเข้าไปยึดครองฐานทัพเรือเรียมแห่งนี้
ขณะที่สหรัฐ ในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เพ่งมองฐานทัพเรือเรียม และเฝ้ารอจังหวะเข้าไปมีบทบาทในกัมพูชามาโดยตลอด
ช่วงจังหวะที่จีนเริ่มตั้งแง่กับกัมพูชา กรณีโครงการคลองฟูนันเตโช และเริ่มใช้มาตรการเอาจริง เอาจังกับกลุ่มสแกมเมอร์หรือกลุ่มจีนเทา โดยส่งกำลังเข้าปราบปราม และจับกุมขบวนการจีนเทา ทั้งในพม่า กัมพูชา และไทย
พ่อ-ลูก ตระกูลฮุน…จึงเริ่มเดินแผนสองทันที
ก่อนการรบจะเปิดฉากขึ้นไม่นาน ฮุนมาเนต เริ่มเดินสายและเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะชาติตะวันตก และการพบปะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐในการประชุมระดับนานาชาติหลายครั้ง
หน้าฉาก…ดูประหนึ่งว่า เป็นการเดินสายเพื่อฟ้องต่างชาติ ถึงท่าทีคุกคามของฝ่ายไทย ทั้งการเตรียมการใช้กำลัง และการเอาเปรียบในเรื่องเขตแดน
แต่หลังฉาก…การพูดคุยระหว่างฝ่ายกัมพูชา และเจ้าหน้าทึ่ระดับสูงของฝ่ายสหรัฐ ลงลึกลงไปถึงการใช้ฐานทัพเรือเรียม เพื่อแลกกับการที่สหรัฐต้องยืนข้างกัมพูชา หากเกิดการสู้รบระหว่างกัมพูชาและไทย
การเจรจาจะลงลึกในรายละเอียดเพียงใด…ไม่มีใครรู้
ก่อนที่ท้ายที่สุด…กัมพูชาก็กล้าเปิดฉากเข้าถล่มไทยตลอดแนวชายแดนในเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568
อันเป็นการเปิดฉากการรบ…ที่เขียนบท “กำหนดวันหยุดยิงไว้ล่วงหน้า”
อันเป็นการเปิดฉากการรบ…ที่เขียนบท “พระเอก” เขียนบท “กรรมการห้ามทัพ” และกำหนดตัวละครล่วงหน้า เอาไว้อย่างเรียบร้อย
ทรัมป์ - อันวาร์ – ฮุน มาเนต ค่อยๆ เริ่มเปิดตัวลงมาในบทละครเรื่องนี้อย่างลงตัว ทั้งเงื่อนเวลา สถานที่ และเงื่อนไขการเจรจา
เงื่อนเวลาการพูดคุย การประชุมระหว่างไทย-กัมพูชา ที่มีอันวาร์ อิบบราฮิม เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ย จนถึงข้อตกลงที่มีเงื่อนเวลาการปฏิบัติ นับจากวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 จนล่าสุดเกือบ 4 เดือน
อันเป็น 4 เดือน…ที่เหมือนฝ่ายไทยจะได้เปรียบ
อันเป็น 4 เดือน…ที่ยังคงมีท่าทีกระทบ กระทั่งกันตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะการที่กัมพูชาเปลี่ยนมาใช้มวลชนเป็นหัวหอก และเปลี่ยนแนวรบจากฝั่งกองทัพภาคที่ 2 ลงไป สร้างเงื่อนไขความขัดแย้งในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 และพื้นที่จันทบุรี-ตราด
นอกจาก 4 เดือน ที่ว่ามาแล้ว…ยังเป็น 4 เดือนที่ตรงกับกำหนดการส่งมอบอาวุธหนักที่กัมพูชามีข้อตกลงกับจีนในหลายประเภท
ปืนใหญ่อัตตาจร บนรถบรรทุกจำนวนมาก ที่ปรากฏในภาพวันเคลื่อนย้ายกำลัง สร้างความประหลาดใจให้กับฝ่ายความมั่นคงของไทย เพราะในการรบ 5 วัน กัมพูชาไม่ได้ใช้ปืนใหญ่ที่ปรากฏในภาพ จึงเป็นอันชัดเจนแล้วว่า เป็นอาวุธที่กัมพูชา เพิ่งได้รับมาหลังวันที่ 28 กรกฎาคม
ทั้งหมดยังไม่นับรวมข่าวลือ เรื่องการรับขีปนาวุธที่มีพิสัยยิงไกลกว่า 200 กิโลเมตร เข้ามาเพิ่มเมื่อเดือนสิงหาคม
ยังไม่นับรวมเทคโนโลยีการรบสมัยใหม่ ที่มีนักรบไซเบอร์ นับ 10 คน ที่จบการศึกษาจาก MIT : Massachusetts Institute of Technology เข้าไปเป็นทีมสนับสนุน
ข่าวลือ…ข้อตกลงสหรัฐและกัมพูชา อันเป็นข้อตกลงที่สร้างความไม่สบายใจให้กับจีน ส่อเค้าจะเป็นข่าวจริง
ใคร…อยู่เบื้องหลังการจุดไฟสงครามรอบนี้
ใคร…กำลังเร่งให้มีสงครามรอบใหม่
อะไร คือ เงื่อนไขสำคัญ และเป็นตัวเร่งไฟสงครามรอบนี้
อะไร คือ ความเชื่อมโยงระหว่าง ทรัมป์ – อันวาร์ - ฮุน มาเนต
EP.หน้ามาว่ากันต่อ


