VIBE REVIEW: คอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่ดั่งคอมโบแห่งความสุข 2025 RIIZE CONCERT TOUR [RIIZING LOUD] IN BANGKOK

24 ก.ย. 2568 - 09:01

  • สิ้นสุดลงแล้วสำหรับการแสดงที่น่าประทับใจของหกหนุ่มเจ้าของยอดขายอัลบั้ม Triple Million Seller อย่าง RIIZE จากค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ SM Entertainment

  • คอนเสิร์ตครั้งนี้ของหนุ่มๆ จัดขึ้นที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 20-21 กันยายนที่ผ่านมา เพียงแค่เปิดให้จับจองบัตรเข้าชมในประเทศไทยก็จำหน่ายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่งทั้งสองวันอย่างรวดเร็ว

VIBE REVIEW: คอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่ดั่งคอมโบแห่งความสุข 2025 RIIZE CONCERT TOUR [RIIZING LOUD] IN BANGKOK

สิ้นสุดลงแล้วสำหรับการแสดงที่น่าประทับใจของหกหนุ่มเจ้าของยอดขายอัลบั้ม Triple Million Seller อย่าง RIIZE จากค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ SM Entertainment  
แน่นอนว่าคอนเสิร์ตของศิลปิน SM Entertainment จะได้ตัวผู้จัดมากฝีมือ SM True เป็นผู้ดำเนินการในประเทศไทย คอนเสิร์ตครั้งนี้ของหนุ่มๆ มีชื่อว่า 2025 RIIZE CONCERT TOUR [RIIZING LOUD] IN BANGKOK จัดขึ้นที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 20-21 กันยายนที่ผ่านมา เพียงแค่เปิดให้จับจองบัตรเข้าชมในประเทศไทยก็จำหน่ายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่งทั้งสองวันอย่างรวดเร็ว 

Spacebar VIBE ได้เป็นส่วนหนึ่งของเหล่า BRIIZE ไทยเข้าชมคอนเสิร์ตของหนุ่มๆ เช่นกันเมื่อวันที่ 21 กันยายนหรือรอบการแสดงที่สอง 

อากาศในวันอาทิตย์เรียกได้ว่าร้อนแรงไร้เงาเมฆฝนมากๆ แฟนๆ ทยอยเดินทางมายังสถานที่จัดงานกันตั้งแต่ช่วงเที่ยงและมากขึ้นในช่วงบ่าย คอนเสิร์ตรอบวันอาทิตย์เปิดประตูให้แฟนๆ เข้าสู่ภายในฮอลล์ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ทำให้แฟนๆ ต่างพากันหลบร้อนมานั่งหนาวสั่นกับแอร์แรงๆ ภายในอย่างต่อเนื่อง 

ทันทีที่นาฬิกาบอกเวลา 16.00 น. ความตรงต่อเวลาก็บังเกิดทันที หนุ่มๆ RIIZE ปรากฏใน VCR แนะนำตัวสั้นๆ พร้อมความฮึกเหิมหลังจากบิลด์อารมณ์คนทั้งฮอลล์ด้วยเสียงเอ็ฟเฟ็กต์นานกว่า 4 นาที พวกเขาเริ่มต้นช่วงเวลาแห่งความสุขในวันนั้นด้วยเพลง Ember to Solar ปลุกทุกความสนุกด้วยโชว์ที่น่าตื่นเต้น เอฟเฟ็กต์และไฟบนสเตจรวมถึงเลเซอร์ที่สร้างสีสันให้กับคอนเสิร์ตมากขึ้นหลายเท่าตัว สร้างความฮึกเหิมไปกับเพลงแรกแล้วแต่ดูเหมือนหนุ่มๆ ยังไม่สะใจเสิร์ฟต่อกับ Siren เพลงจังหวะสนุกๆ มาพร้อมท่าเต้นหนักๆ เรียกเสียงกรี๊ดไปทั้งฮอลล์จริงๆ  

หายไปจากเวทีทันทีที่ไฟในฮอลล์ดับลง เข้าสู่พาร์ทบิลด์แฟนคลับด้วยไฟเลเซอร์และเสียงเพลงอีกครั้งก่อนไปสนุกกันต่อกับเพลง Odyssey ที่หนุ่มๆ ได้เปลี่ยนจากไวร์เลสมาเป็นไมโครโฟนคัสตอม ยืนร้องอยู่ตรงสเตจกลางที่ยกขึ้นด้วยระบบไฮโดรลิก ถึงจะไม่ได้มีการเต้นอะไรมากมายในเพลงนี้แต่จังหวะของเพลงก็ยังสนุกและเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ไหนๆ ก็ยืนร้องแล้วหนุ่มๆ ก็ขอเพิ่มลูกเล่นในเพลง Combo กับผ้าบางสีขาวสองผืนที่ห้อยระย้าลงมาที่สเตจรองเป็นแบ็กกราวนด์ให้หนุ่มๆ ในระหว่างยืนร้องที่สเตจรอง 

แวะทักทายแฟนๆ ที่มาพบกับพวกเขาในคอนเสิร์ตวันสุดท้าย มีการเทสต์เสียงกรี๊ดที่ไม่มีตกจากแฟนๆ พร้อมบอกว่าจะรอฟังเสียงกรี๊ดที่มากไปด้วยเอเนอร์จีแบบนี้ไปจนถึงเพลงสุดท้ายก่อนจะสร้างเสียงกรี๊ดไม่พักกับการเปลี่ยนแจ็คเก็ตกลางเวที และในช่วงแนะนำตัวหนุ่มๆ แต่ละคนได้พูดถึงเอเนอร์จีของแฟนๆ ที่ส่งต่อไปยังพวกเขาอย่างล้นหลามจนเข้าไมค์ทะลุอินเอียร์ของศิลปินเลยทีเดียว 

จบทอล์กแรกไปหนุ่มๆ ได้จัดเต็มโชว์อีกสามเพลงให้แฟนๆ ใจเต้นแรงไปกับจังหวะสนุกๆ ที่แฟนๆ พากันร้องตามอย่างเพลง Memories ซึ่งเป็นเพลงพรีเดบิวต์ของพวกเขาก่อนจะต่อด้วย Be My Next เพลงจังหวะสนุกๆ ก่อนปิดท้ายพาร์ทนี้ด้วยอีกหนึ่งเพลงในจังหวะชวนเต้นกับเพลง Lucky 

ทันทีที่เพลงจบลงหนุ่มๆ ก็หายตัวเข้าไปหลังเวทีทันที ปล่อยให้หน้าจอ LED ปรากฎ VCR แรกในระหว่างที่พวกเขาได้พักหายใจหายคอ เปลี่ยนเสื้อผ้า ซับหน้าซับตา เพื่อขึ้นมาทำการแสดงเพลง Midnight Mirage เพลงช้าฟังสบายหูกับโชว์ที่ปรากฏตัวบนขั้นบันได ก่อนจะเข้าสู่บทเพลงที่ทำเอาทุกคนคลั่งกับพร็อพและซีนแสดงที่บอกเลยว่าเล่นกับใจสาววายทำเอาตายเรียบไปทั้งฮอลล์กับโซฟาและเตียงนอนในการแสดงเพลง Hug เพลงรีเมกจากรุ่นพี่ในค่าย TVXQ! ทำสาววายฟินจนสมองไหลถึงพื้นกันถ้วนทั่ว หนุ่มๆ ได้พาเข้าสู่เพลงจังหวะสนุกๆ อีกครั้งกับเพลง Love 119 ที่แฟนๆ ทั้งฮอลล์ช่วยกันร้องจนเสียงดังสนั่นฮอลล์เลยทีเดียว

จบไปสี่เพลงรวดก็แวะพูดคุยกับแฟนๆ ในทอล์กที่สองถึงเพลงต่างๆ รวมถึงสอนให้แฟนๆ ช่วยกันร้องในท่อนหนึ่งที่อยากฟังมากๆ ในเพลง Show Me Love ก่อนจะต่อด้วยเพลง 9 Days ที่ในท่อนฮุคแฟนๆ พร้อมใจช่วยกันร้องส่วนท่อนแรปแฟนๆ ก็ช่วยกรี๊ด ปิดพาร์ทนี้ด้วยเพลง Show Me Love กับท่อนที่หนุ่มๆ ได้สอนไปในช่วงทอล์กและเคยบอกกับสื่อมวลชนในงานแถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ว่าอยากฟังแฟนๆ ร้องเพลงนี้ไปด้วยกันและแฟนๆ ก็ไม่ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด 

ผ่านไปครึ่งทางแล้วสำหรับการแสดงในคอนเสิร์ตนี้ LED ได้ปรากฏคลิป VCR ที่สองเพื่อให้หนุ่มๆ ได้ไปเปลี่ยนชุดซับหน้าและดื่มน้ำอีกครั้งก่อนจะออกมาทำการแสดงต่อในเพลง Honestly เพลงจังหวะเซ็กซี่เบาๆ ที่มาพร้อมพร็อพตู้กระจกยักษ์ สลัดเสื้อคลุมตัวนอกออกก่อนไปต่อด้วยเพลง Talk Saxy อีกหนึ่งเพลงแมสที่แฟนๆ ช่วยกันส่งเสียงร้องเปลี่ยนฮอลล์คอนเสิร์ตเป็นห้องคาราโอเกะยักษ์ที่จุคนได้นับหมื่น ต่อด้วยเพลง Impossible ที่ต้องบอกเลยว่าตะลึงกับเสียงแฟนชานจ์ของแฟนๆ ในเพลงนี้เป็นอย่างมากเพราะแฟนๆ พร้อมใจกันร้องแฟนชานจ์ทั้งดังและพร้อมเพรียงสุดๆ 

ไปกันต่อกับทอล์กที่สาม ก่อนจะพูดคุยกันหนุ่มๆ ได้แสดงความห่วงใยถึงแฟนๆ ในโซนยืนเพราะดูเหมือนจะมีแฟนๆ ที่ยืนไม่ไหวและขอให้ทุกคนในโซนนั้นถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพื่อความปลอดภัยของทุกคน เข้าสู่การแสดงกันต่อกับเพลงเท่ๆ อีกสองเพลงสำหรับการแสดงพาร์ทนี้ก็คือเพลง Monster เพลงฮิตของพี่ๆ วง EXO ที่ดูเหมือนว่าจะมี EXO-L ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วย เพราะมีเสียงร้องเพลงนี้จากกลุ่มแฟนๆ ดังมากๆ และเพลง Bag Bad Back เพลงเท่ๆ ของหนุ่มๆ RIIZE ที่แฟนๆ ช่วยกันส่งเสียงร้องกระหึ่มไปทั้งฮอลล์ไม่แพ้เพลงของรุ่นพี่ EXO เลย  

LED ปรากฏคลิป VCR สุดท้ายให้หนุ่มๆ พักเหนื่อยและดับความร้อนแรงในฮอลล์ลง จากนั้นไปสนุกกันต่อกับเพลงเดบิวต์ของพวกเขา Get a Guitar เปิดด้วยโซโล่เบสจากแอนตันและโซโล่กีต้าร์จากวอนบิน เรียกว่าฟินสุดๆ ต่อด้วยอีกเพลงที่เน้นจังหวะหนักๆ อย่าง Boom Boom Bass และปิดท้ายด้วยเพลง Fly Up นับว่าเป็นสามเพลงที่หนักมากๆ ทั้งจังหวะเพลงและท่าเต้นที่ขนาดเราที่นั่งดูเฉยๆ ยังเหนื่อยแทน 

จบสามเพลงแมสของหนุ่มๆ ก็เข้าสู่ช่วงทอล์กแกล้งๆ สุดท้ายซึ่งหนุ่มๆ ได้พูดถึงบรรยากาศในฮอลล์ที่สุดร้อนแรงพร้อมเสียงหอบหายใจแรงๆ ให้รู้กันไปเลยว่าเหนื่อยมากๆ กับโชว์สนุกๆ ที่ผ่านมา ก่อนจะเติมเอเนอร์จีด้วยยาดมจากแฟนคลับคนหนึ่งที่อยู่ในโซนบัตรยืน จากนั้นหนุ่มๆ ได้ปิดการแสดงก่อนเข้าพาร์ทอังกอร์ด้วย Another Life เพลงที่หนุ่มๆ อยากให้ทุกคนสนุกไปด้วยกันแบบเต็มที่เพราะเป็นเพลงที่มีความหมายสำหรับพวกเขามากๆ 

ไฟในฮอลล์ดับลงเข้าสู่ช่วงอังกอร์ แฟนๆ พากันเล่นเวฟแท่งไฟพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย สวยงามมากๆ ก่อนที่จอจะปรากฏภาพของแฟนๆ พร้อมโปรเจ็กต์ Light Box เขียนว่า “น้องข้าวรักนะ” เป็นภาษาเกาหลีแบบคาราโอเกะและโปรเจ็กต์คาราโอเกะยักษ์กับเพลง “The End of the Day" ต้องบอกว่า BRIIZE ไทยร้องเพลงเพราะจริงๆ 

ทันทีที่เพลงจบหนุ่มๆ ได้ปรากฏตัวบนเวทีอีกครั้งกับเพลง The End of the Day เพลงเดียวกับที่แฟนๆ ร้องนั่นเอง แน่นอนว่าแฟนๆ ร้องได้เลยพร้อมใจกันร้องไปพร้อมๆ กับหนุ่มๆ ทำให้เพลงนี้เพราะขึ้นหลายเท่าตัวเลยทีเดียว นอกจากจะเป็นเพลงที่ร้องร่วมกันแล้วแฟนๆ ยังมีอีกหนึ่งโปรเจ็กต์น่ารักๆ กับการชูป้ายแบนเนอร์ที่เขียนว่า “บินให้สูงไปเลย BRIIZE จะคอยพยุงปีกของ RIIZE เอง”  

หนุ่มๆ แวะพูดคุยกับแฟนๆ ในช่วงทอล์กสุดท้ายจริงๆ พวกเขาได้พูดถึงโปรเจ็กต์ Light Box ที่แฟนๆ โซนชั้นบนทำให้พร้อมขอให้โยกไปพร้อมๆ กันเพื่อพิสูจน์ว่าแฟนๆ ถืออยู่จริงๆ พวกเขาได้พูดความในใจของตัวเองที่มีต่อคอนเสิร์ตครั้งนี้และยังย้ำด้วยว่าจะกลับมาหาแฟนๆ ชาวไทยอีกครั้งในฮอลล์คอนเสิร์ตที่ใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอน  

หนุ่มๆ ได้ร้องเพลงที่บอกว่าเป็นเพลงสุดท้ายของวันนี้ด้วยเพลง One Kiss พร้อมเดินทักทายแฟนๆ ไปทั่วทั้งสเตจ และเพลงแถมคือ Inside My Love ในเพลงนี้แฟนๆ ก็มีอีกหนึ่งโปรเจ็กต์น่าเอ็นดูกับที่คาดผมรูปคาแรกเตอร์น้องข้าวทั้งหกบนเรือสำราญ ก่อนจะถ่ายภาพร่วมกับแฟนๆ และขอเสียงปรบมือให้ทีมแดนเซอร์ ถือว่าจบการแสดงในครั้งนี้ที่ประเทศไทยไปอย่างสมบูรณ์แบบสุดประทับใจ  

เป็นอีกหนึ่งคอนเสิร์ตที่สนุกและคิดว่าหากหนุ่มๆ มาเยือนครั้งหน้าต้องมีเราเป็นหนึ่งในผู้ชมอย่างแน่นอน เป็นคอนเสิร์ตที่จัดเต็มทุกการแสดงอีกทั้งยังขนพร็อพมาโชว์แบบจัดเต็มและที่สัมผัสได้มากที่สุดคือความรักของหนุ่มๆ ทั้งหกที่มีต่อเหล่า BRIIZE ชาวไทย เรียกได้ว่าเป็นศิลปินและแฟนคลับที่น่ารักมากๆ จริงๆ 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์