VIBE REVIEW: คอนเสิร์ตสุดลึกลับที่พาทุกคนดำดิ่งไปกับโชว์สุดมันส์จากศิลปินผู้ไม่เปิดเผยตัวตนใน ‘natori ASIA TOUR 2025 in Bangkok’

14 พ.ย. 2568 - 08:00

  • รีวิวคอนเสิร์ต ‘natori ASIA TOUR 2025 in Bangkok’ คอนเสิร์ตที่แม้ไม่เห็นหน้าของผู้แสดงแต่แฝงไปด้วยความสนุกจนหยดสุดท้าย

VIBE REVIEW: คอนเสิร์ตสุดลึกลับที่พาทุกคนดำดิ่งไปกับโชว์สุดมันส์จากศิลปินผู้ไม่เปิดเผยตัวตนใน  ‘natori ASIA TOUR 2025 in Bangkok’

จบลงไปแล้วเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ ยูเนียนฮอลล์ ศูนย์การค้ายูเนียนมอลล์ กับการแสดงของศิลปินหนุ่มสุดลึกลับ natori ในคอนเสิร์ต ‘natori ASIA TOUR 2025 in Bangkok’  

เมื่อพูดถึง natori ศิลปินหนุ่มสุดลึกลับที่ไม่เคยมีใครได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเขาการมาแสดงคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยแบบสดๆ ทำให้ผู้เข้าชมทั้งหมดให้ความสนใจและตื่นเต้นกับการแสดงของชายหนุ่มปริศนา แม้จะปกปิดใบหน้าแต่ความสนุกเกินร้อย 

ในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยพลัง เสียงดนตรี และแสงสีสุดละเมียดละไมได้รับการถ่ายทอดผ่านโชว์ของศิลปินหนุ่มลึกลับมากเสน่ห์  natori ที่พาผู้ชมดำดิ่งไปในโลกของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ ทุกองค์ประกอบของคอนเสิร์ตถูกออกแบบให้สะท้อนคาแรกเตอร์ของเขาไม่ว่าจะเป็นแสงไฟที่พุ่งทะลุเวที กราฟิกบนจอ LED ขนาดใหญ่ที่ขับอารมณ์ของแต่ละเพลงออกมาอย่างทรงพลัง หรือเสียงดนตรีจากวงไลฟ์แบนด์ที่ช่วยเนรมิตบทเพลงให้มีชีวิตมากกว่าที่เคยได้ยินจากสตูดิโอ 

ตั้งแต่เปิดโชว์ natori ได้แสดงความเท่ในแบบของตัวเอง เริ่มต้นด้วยกราฟิกทักทายแฟนๆ ที่ขึ้นมาบนจอในรูปแบบแชตพิมพ์คุย ก่อนที่ตัวอักษรประหลาดจะค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นโลโก้ธีมของเขา ต่อด้วยเพลงเปิด “Saru shibai” ที่พาผู้ชมหลุดเข้าไปในค่ำคืนอันวุ่นวายของผู้คนราวกับอยู่ในละครลิง เสียงดนตรีหนักแน่นทว่าลื่นไหลถูกผสานเข้ากับน้ำเสียงของ natori ที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างเฉียบคม ทั้งร้องทั้งเคลื่อนไหว ทุกอย่างเต็มไปด้วยพลังที่ควบคุมเวทีได้อยู่หมัด 

เมื่อเสียงสุดท้ายของเพลงแรกจางลงเขาได้พาผู้ชมหนีหายไปอีกฝั่งของอุโมงค์ด้วยเพลง ““What is ahead of the tunnel?” ที่อัดแน่นด้วยความรู้สึกและเมโลดี้อันลุ่มลึก ก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์ไปสู่ “Propose” เพลงจังหวะสนุกที่มาพร้อมความขี้เล่นแต่น่าค้นหาในเนื้อหาจนทุกคนยิ้มและโยกหัวตามโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเข้าสู่ “DRESSING ROOM” ห้องแต่งตัวสีชมพูที่ถูกเนรมิตขึ้นด้วยแสงและกราฟิกที่แม่นยำกับธีมเพลงอย่างน่าประทับใจ 

เสียงของเขาแทรกขึ้นมาว่า “Very Jump Very Dance Very Sing” แม้จะไม่ใช่ชื่อเพลงแต่กลายเป็นพลังใจให้ทุกคนลุกขึ้นมาเต้นไปพร้อมกัน natori ยังมีโมเมนต์เอ็นเตอร์เทนแฟนๆ อย่างอบอุ่นทั้งการพูดคุยด้วยสามภาษา—ญี่ปุ่น อังกฤษ และไทยที่เขาพูดได้เล็กน้อย ทั้ง “สวัสดีครับ” “น่ารักจัง” และ “ชอบกินข้าวมันไก่ครับ” สร้างเสียงเชียร์ดังสนั่นจนเจ้าตัวถึงกับหัวเราะบอกว่าดังจนแทบไม่ได้ยินเสียงในหูอินเอียร์เลย 

และเมื่ออินโทรของเพลงฮิตตลอดกาล “Overdose” ดังขึ้นเสียงกรี๊ดก็แทบกลบทุกอย่างบนเวที ผู้ชมต่างร้องตามกันสุดเสียง ก่อนต่อด้วย “IN_MY_HEAD” เพลงที่ระเบิดความมันส์ออกมาอย่างเต็มพลัง ท่วงทำนองเท่และคมราวกับคำประกาศของศิลปินว่า “เต้นอย่างไรก็ได้ ขอแค่เต้นอย่างบ้าคลั่ง” 

โชว์จบลงอย่างงดงามด้วย “Absolute zero” เพลงเปิดของอนิเมะชื่อดัง Wind Breaker ที่ระเบิดพลังร็อกแบบไร้ขีดจำกัด เสียงตีกลอง เสียงเบสและเสียงร้องของ natori พาผู้ชมกระโดดและโบกมือไม่หยุด แม้จะเหนื่อยแต่ไม่มีใครอยากให้มันจบลง เขากล่าวขอบคุณแฟนๆ ด้วยรอยยิ้มก่อนที่บนจอ LCD จะปรากฏคำว่า “ขอบคุณครับ” เป็นภาษาไทย และเมื่อผู้ชมเดินออกจากฮอลล์ก็พบโปสการ์ดที่มีลายมือเขียนคำเดียวกันไว้อย่างน่ารัก 

ทุกช่วงเวลาของคอนเสิร์ตนี้เหมือนการเดินทางผ่านอารมณ์ที่หลากหลาย ทั้งสนุก เศร้า เหงา และอบอุ่นในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญมันคือคืนที่ natori ได้พิสูจน์ว่าเขาไม่ใช่แค่ศิลปินผู้มีเสียงเป็นเอกลักษณ์แต่ยังเป็นนักเล่าเรื่องบนเวทีที่สามารถสะกดใจทุกคนให้หลงใหลไปกับโลกของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยที่ไม่ต้องเห็นตัวตนของเขา 

เรื่อง: วรกร บุญเกื้อ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์