ชื่อวง Mirrr มาจากคำว่าฝันละเมอ พวกผมมีความฝันว่าสักวันหนึ่งจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเองจนวันนี้มันเป็นจริงแล้ว
— Mirrr
สมการรอคอยของเหล่าแฟนๆ มาตลอดเจ็ดปีกับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของสองหนุ่มวง Mirrr ศิลปินจาก What The Duck ในงาน ‘MIRRR DAYDREAMING THE 1ST CONCERT’ ที่จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา
ในช่วงเวลาก่อนเริ่มทางผู้จัดคอนเสิร์ตได้มีการแจ้งรายละเอียดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในคอนเสิร์ตนี้ว่าจะไม่ใช่งานแสดงทั่วๆ ไปแต่ผู้ชมต้องมีส่วนร่วมไปกับคอนเสิร์ตนี้ด้วย โชว์การแสดงเริ่มด้วยตัวศิลปินที่พาทุกคนเข้าสู่ห้วงความฝันโดยเปิดด้วยเพลง ‘ชาคริส [Try?]’, ‘ไม่รู้ดิ’ และ ‘เกม’ บิลด์อารมณ์ความสนุกของผู้ชมได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ในช่วงต้นยังได้เล่นเพลงฮิต ‘นิโคติน’ ตามด้วยการขึ้นชื่อ ‘Yented’ ขนาดใหญ่เต็มจอแบบที่ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว เรียกเสียงกรี๊ดดังไปทั่วทั้งฮอลล์เพราะหลายๆ คนอาจจะรอ ‘เจา Yented’ ขึ้นมาร่วมโชว์ในเพลง ‘เกม’ ที่ฟีทเจอริ่งกัน แต่วง Mirrr ก็ได้ทำการสับขาหลอกให้แขกรับเชิญมาขึ้นโชว์ในเพลง ‘คิดต่อ’ จากอัลบั้มล่าสุด ‘MAI ME’ แทน หลังจากนั้นทั้งสองวงได้ร่วมกันร้องเพลง ‘ที่รักใจเย็น’ ของ ‘Yented’ และจบโชว์ในช่วงแรกพร้อมเสียงแจ้งเตือนและข้อความเหมือนตอนก่อนเริ่มการแสดง
“หลังจากนี้ทุกคนกำลังจะเข้าสู่ความฝันที่จำเป็นต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด” ในตอนแรกก็นึกภาพไม่ค่อยออกว่าผู้ชมจะมีส่วนร่วมได้อย่างไร Immersive Concert จะออกมาในรูปแบบไหน แต่ทุกความสงสัยได้ถูกคลี่คลายหลังจากที่ผู้ชมทุกคนต้องขยับตัวย้ายตำแหน่งเพื่อเว้นพื้นที่ตรงกลางไว้ จากนั้นเวทีด้านหน้าได้ถูกยกสูงขึ้นและลอยผ่านคนดูรอบข้างมาหยุดอยู่ตรงกลางฮอลล์เพื่อเข้าสู่ช่วง Dreaming อย่างสมบูรณ์ ในพาร์ทนี้ทั้งสองได้ทำการแสดงเพลง ‘ใครสักคน’, ‘มาโซคิสม์’, ‘ย้ำคิดย้ำทำ’ และปิดพาร์ทนี้ด้วยเพลง ‘รักอย่าหลอก’
สัญญาณเตือน Dreaming ปรากฏอีกครั้ง รอบนี้คนดูต่างเข้าใจและปฏิบัติตามได้เป็นอย่างดี ผู้ชมพร้อมใจกันแหวกออกเป็นกรอบสี่เหลี่ยมก่อนที่เวทีีจะทะยานลงสู่พื้นจากด้านบน นับว่าเป็นเวทีรูปแบบที่สามของวันนี้ ในพาร์ทนี้ทั้งคู่ได้โชว์เพลง ‘กี่เหตุผล’, ‘รับปาก’ และ ‘นายแน่มาก’ ก่อนที่เวทีจะเริ่มปรับรูปแบบอีกครั้งโดยรอบนี้เวทียกสูงแค่ด้านหลังทำให้กลายเป็นสเตจรูปแบบบันไดสร้างความตื่นตะลึงให้ผู้ชมอีกครั้ง ต่อด้วยเพลง ‘เจ้าของที่’, ‘ไม่ไหวอย่าฝืน’ ก่อนจะเดินกลับสเตจหลักพร้อมกับทำการแสดงเพลง ‘นินจา’ และปิดพาร์ท Dreaming ด้วยเพลง ‘Designer’ เพลงเร็วจังหวะมันส์ๆ ของวง
VTR ปรากฏขึ้นบนจอเกี่ยวกับสมาชิกวงทั้งสองคนเพื่อเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่โชว์เดี่ยวของแต่ละคน เปิดด้วย นาว วง Mirrr ที่มาโชว์โซโล่กีต้าร์สุดมันกับเพลง ‘Glasgow Kiss’ ของ ‘John Petrucci’ ความเซอร์ไพรส์ยังไม่หมดเพราะคอนเสิร์ตครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการของชาวเมอร์รี่ที่ได้ฟังนาวร้องเพลง โดยนาวได้ร้องต่อด้วยเพลง ‘แก้มน้องนางนั้นแดงกว่าใคร’ ของ ‘เขียนไข และวานิช’ จากนั้นเป็นพาร์ทเดี่ยวของ ติโต ที่ได้นำเสนอเพลงแต่งใหม่สำหรับคอนเสิร์ตนี้ถึงสองเพลงเพื่อแทนความรักและขอบคุณต่อแฟนเพลงที่สนับสนุนตลอดมา
เราอยู่ในความฝันไปตลอดกาลไม่ได้ ช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ตคือ Awakening เริ่มด้วยเพลง ‘หนี’, ‘รอให้เธอ’ และ ‘ตลอดไปไม่มีจริง’ พร้อมเปิดตัวแขกรับเชิญคนสุดท้ายที่มาฟีทเจอริ่งในคอนเสิร์ตนี้คือ ‘เติร์ด จากวง Tilly Birds’ สร้างเสียงฮือฮาเป็นอย่างมากพร้อมโชว์พลังเสียงที่เรียกได้ว่าทำถึงสุดๆ โดยมีการทอล์กกันเล็กน้อยและได้ร้องเพลง ‘จำเก่ง’ ของ ‘F.Hero X Tilly Birds’ โดยร้องร่วมกับ ‘นาว Mirrr’
ช่วงสุดท้าย Mirrr ได้เล่นอีกหนึ่งเพลงดังจากอัลบั้มล่าสุด ‘กำแพงหัวใจ’ และปิดจบไปกับเพลง ‘ดอกไม้ไฟ’ อย่างสวยงาม โชว์ตลอดสามชั่วโมงนี้เชื่อว่าชาวเมอร์รี่ได้รับฟังกันอย่างเต็มอิ่มและจะจดจำช่วงเวลาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของทั้งแฟนๆ และวง Mirrr จริงๆ
เรื่อง: พิริยา วรวิทย์ไพศาล
