ผ่านพ้นไปอย่างสมบูรณ์เต็มอิ่มไปด้วยรอยยิ้มและความประทับใจสำหรับ 2025 BamBam HOMETOWN Concert in Bangkok ที่จัดขึ้นใน วันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ 22-23 พฤศจิกายน 2568 ณ ธันเดอร์โดม สเตเดียม
ทีม Spacebar VIBE มีโอกาสไปร่วมชมและเก็บภาพความประทับใจในคอนเสิร์ตวันสุดท้ายก่อนเกษียณในวงการ T-POP ของ แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล กับคอนเซปต์ของคอนเสิร์ตในธีมงานวัดแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร บอกเลยว่าทำดีทำถึงอย่างมาก เข้ามาในงานเกือบคิดว่ามาผิด! เพราะทางผู้จัดฯ ได้ยกบรรยากาศของงานวัดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยสตรีทฟู้ดอร่อยๆ มารวมกัน รวมไปถึงการละเล่นปาโป่ง ปาเป้า เหมือนงานวัดทุกอย่าง นอกจากนี้ยังมีชิงช้าสวรรค์จำลองเป็นแลนด์มาร์กให้กับแฟนคลับได้เก็บภาพความประทับใจก่อนเข้าไปชมคอนเสิร์ตอีกด้วย
เข้ามาในงานบอกเลยว่างานใหญ่ไซซ์งานวัดของจริง ไม่ได้จบแค่ข้างนอกแต่ด้านในพื้นที่จัดคอนเสิร์ตก็มีเวทีใหญ่มาก ไม่ว่าจะนั่งตรงไหนก็ได้เห็นแบมแบมแบบใกล้ชิดแน่นอน ถึงเวลา 20.00 น. ไฟบนเวทีดับลงเริ่มต้นการแสดงด้วยการร่ายรำชุดใหญ่จากน้องๆ โรงเรียนจอมสุรางค์อุปถัมภ์ จ.พระนครศรีอยุธยา และโรงเรียนโยธินบูรณะ กรุงเทพมหานคร ในบทเพลง ‘นางฟ้าจำแลง’ ก่อนเปิดตัวแบมแบมด้วยเพลง ‘Angel in Disguise' ในชุดสีแดงและน้ำเงินที่เจ้าตัวบอกทีหลังว่าเป็นคนออกแบบเองโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีของธงชาติไทย
ประโยคแรกที่แบมแบมทักทายทุกคนคือ “ขอเสียงอากาเซ่หน่อยครับ” เรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นหวั่นไหว จากนั้นก็เริ่มต้นการแสดงแบบรัวๆ ตะหนูแบมของแม่ๆ ขนเพลงฮิตมาเพียบรวมถึงเพลง ‘พี่ไม่หล่อลวง’ ที่เป็นเพลงโปรดของใครหลายคนก็ได้รับเสียงร้องตามจากแฟนๆ คลอไปพร้อมกับแบมแบมดังสนั่น
จากนั้นเปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว ทั้งเวทีเปลี่ยนเป็นสีแดงสุดร้อนแรงในเพลง ‘Thank You Come Again’ ตามมาด้วย ‘Wheels Up (feat. MAYZIN)’ และ ‘Ball Like That’ ไม่ปล่อยให้แฟนๆ ได้พักเหนื่อยต่อด้วยเพลง ‘TIPPY TOE’ ที่แบมแบมวิ่งลงเวทีไปหาแฟนๆ ตามมาด้วยเพลง ‘Ribbon’ เวทีที่ว่ากว้างก็ไม่สู้แรงของเจ้าของคอนเสิร์ตวิ่งทักทายรอบเวที
ต่อด้วยเพลงสุดไฮไลท์เพราะเอ็มวีเพลงนี้ทำให้ทีมแม่รู้แล้วว่าตะหนูแบมของแม่ๆ โตเป็นหนุ่มวัย 28 เต็มตัวกับเพลง ‘WONDERING’ แม้วันนี้ ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ นักแสดงสาวผู้เป็นนางเอก MV เพลงนี้จะไม่อยู่บนเวทีแต่แบมแบมก็ขออุ้มแดนเซอร์โชว์แทน
ถัดมาเป็นเพลงน่ารักอย่าง ‘Sour & Sweet’ แบมแบมได้เสิร์ฟความน่ารักต่อด้วยการลงมาจากเวทีใหญ่และขึ้นรถรางลายช้างไทยเคลื่อนไปหาแฟนๆ รอบคอนเสิร์ต รู้เลยว่าแบมแบมใส่ใจและตั้งใจจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้เพื่อได้มาเจอกับคนที่เขารักและรักเขาจริงๆ ไม่ว่าจะทีมแม่หรือทีมแฟน บอกเลยว่าปลื้มปริ่ม หลังจากนั้นก็เข้าสู่ช่วงพูดคุยกับแฟนๆ ต่อ
อีกอย่างที่ต้องพูดถึงในคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็คือทุกเพลงตั้งใจสอดแทรกความเป็นไทยเข้ามาไม่ว่าจะเป็นภาพสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทยบ้านเกิดของแบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุลที่เขาสุดภาคภูมิใจ
เข้าสู่ช่วงแขกคนพิเศษของคอนเสิร์ต เริ่มที่คนแรก อิ้งค์-วรันธร เปานิล ที่เปิดตัวด้วยเพลง ‘Greenlight’ ก่อนจะมอบเวทีให้นักร้องสาวกับเพลงฮิตอย่าง ‘สายตาหลอกกันไม่ได้ (Eyes Don’t Lie)’ ต่อด้วยเพลง ‘พบรัก’ และโชว์สุดเซอร์ไพรส์จากแบมแบมที่ขึ้นมาร้องเพลง ‘ลบไม่ได้ช่วยให้ลืม’ ทางด้านสาวอิ้งค์ วรันธรกล่าวว่า “นี่เป็นเวอร์ชันที่ชอบที่สุด” ทุกคนที่ได้ฟังเพลงเวอร์ชันนี้นับว่าปลดล็อคสกินหูเคลือบทองไปด้วยกันเลยทีเดียว หลังจากจบท่อนสุดท้ายทั้งคู่ได้สวมกอดกันก่อนที่ไฟในคอนเสิร์ตจะดับลงพร้อมบนจอฉายภาพเบื้องหลังของคอนเสิร์ตครั้งนี้ประกอบเพลง ‘Wings’ และเบื้องหลังอัลบั้ม ‘HOMETOWN’ ที่แบมแบมได้ไปถ่าย MV ในสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทยเพื่อให้แฟนคลับทุกคนได้ชมผลงานที่ดีที่สุดและไม่ว่าจะอยู่ ‘ทีมแม่’ หรือ ‘ทีมแฟน’ ก็ภูมิใจสุดๆ ที่ได้เห็นการเติบโตไปอีกขั้นหนึ่งของหนุ่มแบมแบม
ไฟเวทีเปิดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับการปรากฏตัวของแบมแบมในลุคเสื้อแขนกุดโชว์กล้ามแขนสุดล่ำ เขาได้ขึ้นโชว์เพลง ‘Let's Dance’ แม้ชุดจะออลแบล็กแต่ยังมีความวิบวับเล่นแสงของชุดสมกับความเป็นแบมแบมจริงๆ
ตามด้วยโชว์สเต็ปกับแดนเซอร์สาวสวยกันต่อในเพลง ‘Subliminal’ และตามมาติดๆ ด้วยเพลงสนุกๆ ‘Dancing By Myself (feat. TIMETHAI)’ พร้อมเปิดตัวแขกรับเชิญคนที่สอง ธามไท แพลงศิลป์
ในช่วงพูดคุยของคู่นี้เรียกเสียงฮาได้เป็นอย่างมาก ต่างคนต่างอำกันสนุกสนาน แบมแบมโชว์ความแสบให้อากาเซ่ช่วยกันตั้งชื่อให้กับกลุ่มแฟนคลับของธามไทว่า ‘ธามมี่’ ก่อนจะจับธามไทถอดเสื้อสูทออกเพื่อโชว์กล้ามที่ปั้นมาอย่างดี จากนั้นก็ได้มอบเวทีให้กับธามไทโชว์ลีลาทั้งร้องทั้งเต้นในเพลงที่ร้องตามกันได้อย่าง ‘เปิดใจไม่เปิดตัว’ ต่อด้วยเพลง ‘TOAST TO ME’ ที่ธามไทไม่ค่อยได้ร้องที่ไหนและอยากให้ทุกคนลองฟัง ต่อด้วยโชว์สุดฮอตปรอทแตกในเพลง ‘HIT ME UP’ ที่มีแบมแบมมาร่วมร้องและเต้นด้วย
หมดพาร์ทธามไทแบมแบมได้หยิบเอาเพลงฮิตของวง GOT7 อย่างเพลง ‘PYTHON’ มาโชว์ด้วย เรียกว่าถูกใจอากาเซ่สุดๆ แค่ดนตรีขึ้นมาก็กรี๊ดกันสนั่นสเตเดียมแล้วก่อนจะต่อด้วยเพลง ‘Air’
และช่วงของแขกรับเชิญคนสุดท้ายก็มาถึงในเพลง ‘More Than Friend (feat. Jeff Satur)’ พร้อมกับการปรากฏตัวของ เจฟ ซาเตอร์ แขกรับเชิญคนพิเศษอีกคนหนึ่งของตะหนูแบมที่วันนี้เดินทางมาจากกาญจนบุรี ซึ่งแบมแบมก็ขอยกเวทีให้ชั่วคราวเพื่อให้พี่เจฟของแบมได้โชว์เพลงฮิตอย่าง ‘dum dum’ และ ‘Black Tie’ ต่อด้วยเพลง ‘ซ่อน(ไม่)หา’ ที่ปกติก็เพราะและมีคนชอบมากมายอยู่แล้วแต่พอมีเวอร์ชันที่แบมแบมมาร่วมร้องด้วยทำให้แฟนๆ หลงใหลเข้าไปอีกเพราะเสียงของทั้งคู่เข้ากันสุดๆ
และแล้วก็เดินทางมาถึงช่วงเวลาที่ไม่อยากให้มาถึงนั่นคือช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ต แบมแบมปิดจบความงดงามของคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยเพลงภาษาเกาหลี ‘Under the Sky’ ก่อนจะบอกกับแฟนคลับทุกคนว่าแฟนๆ ทำให้เขารู้สึกถึงคำว่า ‘HOMETOWN’ จริงๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนถ้ามีแฟนคลับอยู่เขาจะรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน อัลบั้มนี้ถือเป็นการขอบคุณที่ทุกคนดูแลเขามาตลอด 11 ปี และเจ้าตัวบอกว่าหลังจากนี้คงคิดถึงอัลบั้ม ‘HOMETOWN’ ที่เป็นอัลบั้ม T-POP ที่ทุกคนภูมิใจแน่นอน
ปิดท้ายด้วยการสัญญาว่าแบมแบมจะเป็นคนไทยที่ทำให้ทุกคนภาคภูมิใจในความเป็นศิลปินชาวไทย และจะนำความเป็นไทยไปโชว์ให้ทั่วโลกได้ดูได้เห็นและจะทำให้ทุกคนเห็นว่าการรักแบมแบม และ GOT7 จะทำให้อากาเซ่รู้สึกว่ารักคนไม่ผิดอย่างแน่นอน
เขายังได้ขอบคุณอากาเซ่ทุกคนที่ร่วมทำโปรเจกต์ให้เขาโดยการแปรอักษรเป็นโลโก้และชื่อของแบมแบม ส่วนอากาบงได้เปลี่ยนสีกลายเป็นทะเลดาว เป็นภาพที่ทำให้แบมแบมและทุกคนประทับใจจนต้องขอถ่ายเก็บภาพไว้ นับว่าเป็นฉากสุดท้ายของคอนเสิร์ตที่จะอยู่ในความทรงจำของแบมแบมและอากาเซ่ตลอดไปจนกว่าจะพบกันใหม่
เรื่อง: อัญพัชร์ เลิศเดชคณาสิทธิ์


