รีวิว ‘เสือ’ ภาพยนตร์แอคชันแห่งปี 2025 บู๊ก็ได้ ตลกก็ดี จริงจังก็งดงาม

23 ต.ค. 2568 - 09:00

  • รีวิว ‘เสือ’ ภาพยนตร์แอคชันแห่งปี 2025 บอกเล่าเรื่องราวผ่าน 4 เสือจากจักรวาลขุนพันธ์ทั้งเสือใบ เสือดำ เสือฝ้าย และเสือมเหศวร

รีวิว ‘เสือ’ ภาพยนตร์แอคชันแห่งปี 2025 บู๊ก็ได้ ตลกก็ดี จริงจังก็งดงาม

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์ที่ออกมาให้คอหนังได้ดูได้ชมกันช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2025 กับ ‘เสือ’ จักรวาลภาคแยกที่ไม่มีเนื้อเรื่องส่วนใดเกี่ยวข้องกับ ‘ขุนพันธ์’ แม้แต่น้อยโดยการนำทัพของ 4 เสือประกอบไปด้วยเสือฝ้าย เสือดำ เสือใบ และเสือมเหศวร กับการทำภารกิจล้มล้างผู้นำที่คิดจะครอบครองอำนาจทุกสิ่ง งานนี้จะสนุกสุดมันส์เร้าใจขนาดไหนเราจะมารีวิวให้อ่านกันครับ 

เริ่มแรกที่ตัวภาพยนตร์อย่างที่หลายคนทราบนี่คือการรวมตัวของกลุ่มวายร้ายในจักรวาลขุนพันธ์ซึ่งความพิเศษของภาพยนตร์เรื่องนี้ถ้าให้เปรียบง่ายๆ ก็คือเหมือนจับกลุ่มตัวร้ายมาทำภารกิจที่ดีงามอะไรประมาณนั้น หากจะเทียบก็คงเหมือน Guardian of the Galaxy หรือ Suicide Squad ก็ว่าได้ ตัวภาพยนตร์ถูกเล่าเรื่องในบริบทของประเทศไทยในอุดมคติสู่การล้างบางเหล่าเสือเพื่อความเป็นใหญ่ของผู้มีอิทธิพล อธิบายง่ายๆ ก็คือการนำเรื่องราวของการเมืองการปกครองอันเลวร้ายไปสู่การรวมตัวกันสู้ของเหล่าเสือทั้งสี่แบบซื่อๆ ตรงๆ เล่าแบบตรงไปตรงมาไม่ซับซ้อนแต่กลับกลายเป็นสนุกกว่าที่คิด  

โดยเฉพาะในเรื่องของฉากบู๊แอคชันที่ยังคงเป็นลายเซ็น์และเอกลักษณ์ของผู้กำกับฯ ก้องเกียรติ โขมศิริ ยิ่งซีนที่เป็นการถ่ายแบบลองเทคนั้นในโรงภาพยนตร์รอบสื่อฯ เรียกเสียงปรบมือดังสนั่นกันเลยทีเดียว ถือว่าทุกครั้งที่มีฉากแอคชันภาพยนตร์เรื่องนี้ยิ่งสร้างเอกลักษณ์ความเฉพาะตัวให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก 

พาร์ทของกลุ่มนักแสดงนำสำหรับเคมีของความเป็นเสือชุดนี้ต้องบอกว่าทั้งสี่เสือต่างโดดเด่นและมีเสน่ห์เฉพาะตัวในแบบที่มากพอจะทำให้คนดูหลงรักได้ไม่ยาก โดยเฉพาะการแสดงของเสือดำคือ โตโน่ ภาคินที่เหนือความคาดหมายพอสมควร สำหรับการแสดงครั้งนี้เขาสามารถเรียกเสียงหัวเราะพร้อมรอยยิ้มจากผู้ชมได้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งจับเข้าคู่กับเป้ อารักษ์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคู่เสือที่เคมีงดงามในการดูภาพยนตร์เรื่องนี้เลยก็ว่าได้ อีกฝั่งคือเวียร์ ศุกลวัฒน์ กับ มาริโอ้ เมาเร่อถือว่าทำได้ตามมาตรฐานไม่หวือหวาแต่คมทุกฉากที่พูดออกมาสำหรับการเป็นเสือฝ้ายและเสือมเหศวร อีกคนที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยคือท็อป ทศพล ตัวร้ายที่ออกมาเชือดเฉือนบทกับเหล่าเสือทั้งสี่ถือว่าทำได้ดี นิ่งๆ แต่เอาอยู่ทุกฉากที่ออกมาเช่นกัน  

โดยรวม ‘เสือ’ เป็นภาพยนตร์ที่เน้นแอคชัน เดินหน้า ล่ามัน ฟีลถอดความเป็นจริงออกไปโดยแทนที่ด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยจินตนาการ   แล้วคุณจะสนุกไปกับมันได้อย่างง่ายดาย หากเปรียบเป็นอาหารก็จัดอยู่ในโหมดกินง่ายย่อยง่ายไม่มีพิษไม่มีภัย คาดเดาได้ไม่ยากว่านี่จะเป็นภาพยนตร์ 100 ล้านเรื่องต่อไปอย่างแน่นอน  

ฉะนั้นแล้วหากใครที่กำลังรู้สึกว่าชีวิตช่วงนี้มีเรื่องเครียดเรื่องหนักสมองอยู่ ขอแนะนำภาพยนตร์เรื่องนี้ที่จะพาจินตนาการคุณไปพบกับฉากแอคชันอันเร้าใจ ยิ่งดูในโรงภาพยนตร์ยิ่งอิน สรุปง่ายๆ คือ ‘เสือ’ ทำให้ภาพของความว่าซินีม่ากลับมาชัดเจนอีกครั้งในวงการภาพยนตร์ไทยปีนี้  

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์