VIBE REVIEW: คอนเสิร์ตเยียวยาหัวใจ 2025 PLAVE Asia Tour [DASH: Quantum Leap] in Bangkok

ผ่านพ้นไปเรียบร้อยสำหรับคอนเสิร์ต 2025 PLAVE Asia Tour [DASH: Quantum Leap] in Bangkok ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2568 ณ UOB LIVE ศูนย์การค้า EmSphere เรียกว่าเป็นหนึ่งในคอนเสิร์ตที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังของเทคโนโลยีและความตั้งใจของศิลปินในการเชื่อมโยงกับแฟนคลับอย่างแท้จริง แม้ว่า PLAVE จะเป็นกลุ่มศิลปินเสมือนจริง (Virtual Idol) แต่การถ่ายทอดผ่านเวทีการแสดงจริงในครั้งนี้กลับให้ความรู้สึกสมบูรณ์แบบราวกับกำลังชมศิลปินที่มีตัวตนอยู่ตรงหน้า 

ต้องบอกก่อนเลยว่า PLAVE ไม่ใช่แค่กราฟิกสุดเท่ ไม่ใช่ AI แต่พวกเขาคือศิลปินตัวจริงที่สร้างสรรค์ผลงานด้วยตนเองทั้งการแต่งเพลง โปรดิวซ์ ไปจนถึงการแสดงสดที่ทำให้ทุกโชว์ดูเรียลกว่าความจริง 

แม้ว่าในช่วงเช้าของวันนั้นประเทศไทยจะเต็มไปด้วยบรรยากาศอันโศกเศร้าแห่งการสูญเสียแต่ดูเหมือนว่าคอนเสิร์ตของหนุ่มๆ วง PLAVE ในครั้งนี้จะเป็นตัวชุบชีวิตชีวาให้กับคนไทยที่ได้เข้าร่วมชมคอนเสิร์ตในวันนั้นอย่างมาก  

ตั้งแต่ก่อนเริ่มงานบรรยากาศบริเวณหน้าฮอลล์เต็มไปด้วยความคึกคักของแฟนคลับที่พร้อมใจกันสวมเสื้อผ้าโทนสุภาพ แต่ละคนมาพร้อมบง (แท่งไฟ) ติดมือมาร่วมชมคอนเสิร์ต เมื่อเข้าสู่เวลาแสดงแสงไฟในฮอลล์ค่อยๆ ดับลงก่อนที่จอ LED ขนาดใหญ่จะเริ่มฉายภาพกราฟิกเปิดตัวพร้อมเสียงดนตรีจังหวะเร่งเร้า เรียกเสียงกรี๊ดจากผู้ชมทั่วทั้งฮอลล์ได้ทันที 

การเปิดตัวของสมาชิกทั้งห้าประกอบด้วย เยจุน (Yejun), โนอา (Noah), แบมบี้ (Bamby), อึนโฮ (Eunho) และ ฮามิน (Hamin) ปรากฏผ่านเทคโนโลยีภาพเสมือนที่มีความสมจริงสูง ภาพเคลื่อนไหวลื่นไหลและการซิงโครไนซ์กับเสียงร้องและท่าเต้นมีความแม่นยำอย่างมากทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงความใส่ใจในรายละเอียดของโปรดักชันแม้ว่าจะมีบางช็อตที่ศิลปินยกแก้วดื่มน้ำแบบล่องหนก็ตาม 

ในส่วนของเซตลิสต์มีทั้งเพลงฮิตที่แฟนคลับคุ้นเคย เช่น ‘Way 4 Luv’, ‘The 6th Summer’, ‘Why?’, ‘Pump Up The Volume!’ และอีกมากมายที่ยืนระยะการแสดงไปเกือบสามชั่วโมงเต็ม การเรียงลำดับเพลงถูกวางไว้ให้สลับระหว่างจังหวะเร็วและช้าอย่างสมดุล โดยแต่ละช่วงของการแสดงถูกแบ่งออกอย่างชัดเจนผ่านการเปลี่ยนโทนแสง สี และเอฟเฟกต์บนเวที 

ช่วงเพลงช้าถูกออกแบบให้ลดระดับความเข้มของแสงลงให้เหลือเพียงโทนอบอุ่นเพื่อให้ผู้ชมได้มีเวลาซึมซับกับเสียงร้องที่มีความละเอียดและอารมณ์เพลง ในบางเพลงมีการเปิดให้แฟนๆ ร่วมร้องท่อนคอรัสซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บรรยากาศในฮอลล์อบอวลด้วยความร่วมมือระหว่างศิลปินและผู้ชมอย่างเป็นธรรมชาติ 

หนึ่งในจุดที่สร้างความประทับใจคือช่วงพูดคุยกับแฟนคลับที่ศิลปินกล่าวทักทายเป็นภาษาไทยพร้อมรอยยิ้มผ่านจอพร้อมขอบคุณแฟนชาวไทยที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด การเลือกใช้ถ้อยคำที่สุภาพและจริงใจทำให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างสายสัมพันธ์กับแฟนๆ นอกจากนี้หนุ่มๆ ยังได้เตรียมเพลงพิเศษมาฝากแฟนๆ ชาวไทยด้วยกับเพลง ดาวหางฮัลเลย์ - fellow fellow เรียกว่าร้องไปพร้อมๆ กันทั้งแฟนๆ และศิลปิน 

ช่วงท้ายคอนเสิร์ตกลับเข้าสู่โหมดพลังเต็มรูปแบบอีกครั้ง ปิดท้ายด้วยแสงไฟจังหวะเร่งและเอฟเฟกต์ภาพเต็มพื้นที่เวที เสียงแท่งไฟและเสียงร้องตามของผู้ชมสะท้อนให้เห็นถึงความสุขที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนั้นอย่างชัดเจน ก่อนที่คอนเสิร์ตจะจบลงด้วยอังกอร์สุดอบอุ่นโดยสมาชิกได้กล่าวคำขอบคุณและสัญญาว่าจะกลับมาพบแฟนคลับไทยอีกครั้งให้ได้ 

เป็นอีกหนึ่งแรงใจดีๆ ที่มาชุบชีวิตและหัวใจที่เหี่ยวเฉาในวันแห่งความโศกเศร้า หลังจากจบคอนเสิร์ตวันนั้นเราสัญญากับตัวเองเลยว่าต่อจากนี้ไปจะเป็นอีกหนึ่ง PLLI ไทยที่เฝ้ารอการกลับมาเยือนประเทศไทยของหนุ่มๆ PLAVE เสมอ