Roblox แพลตฟอร์มเกมออนไลน์มูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ที่มีผู้เล่นหลักเป็นเด็กและเยาวชนกำลังเผชิญกับแรงกดดันครั้งใหญ่จากสังคม หลังเกิดกรณีล่วงละเมิดเด็กผ่านเกมหลายครั้งในสหรัฐอเมริกาซึ่งสะท้อนถึงความท้าทายในการปกป้องเด็กในยุคดิจิทัล
ปัจจุบัน Roblox เป็นอีกหนึ่งเกมที่เป็นที่นิยมในเด็กไทยจำนวนมาก ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 6–15 ปีโดยเฉพาะเด็กประถมและมัธยมต้นซึ่งเป็นช่วงวัยที่กำลังเรียนรู้และชื่นชอบการเล่นเกมแบบสร้างสรรค์
คดีสะเทือนใจที่จุดชนวนความตื่นตัว
หนึ่งในคดีที่ได้รับความสนใจมากที่สุดเกิดขึ้นในรัฐจอร์เจียเมื่อแม่คนหนึ่งดำเนินการฟ้องบริษัท Roblox ในนามของลูกชายวัย 9 ขวบหลังถูกล่อลวงผ่านเกมให้ส่งภาพลามกให้เพื่อนร่วมโรงเรียน โดยคนร้ายใช้เวลาหลายเดือนในการสร้างความไว้วางใจผ่านการสื่อสารในเกม ส่งผลกระทบทางจิตใจรุนแรงจนลูกชายต้องย้ายโรงเรียน
อีกคดีที่สะเทือนใจยิ่งกว่าเกิดขึ้นในรัฐไอโอวา เด็กหญิงวัย 13 ปีถูกล่อลวงผ่าน Roblox นำไปสู่การถูกลักพาตัวและโดนข่มขืน คนร้ายใช้แพลตฟอร์มในการสร้างความสัมพันธ์ก่อนพาเด็กออกจากบ้านย่าในเมือง West Des Moines และเดินทางข้ามรัฐเพื่อทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เนื้อหาเกมที่ไม่เหมาะสมและการเคลื่อนไหวของชุมชน
นอกจากการสื่อสารส่วนตัวที่เป็นช่องทางล่อลวงแล้วยังพบเกมที่มีเนื้อหาอ้างอิงถึงบุคคลในคดีอื้อฉาวทางเพศ เช่น “Survive Diddy” และ “Escape to Epstein Island” ซึ่งแม้จะถูกลบออกแล้วแต่ก็สะท้อนถึงช่องโหว่ในการควบคุมเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม
ท่ามกลางวิกฤตนี้ชุมชนผู้เล่นบางส่วนได้ลุกขึ้นดำเนินการด้วยตนเอง เช่น YouTuber ชื่อ Schlep ที่สวมบทบาทเป็นเด็กเพื่อล่อผู้ต้องสงสัยและเปิดโปงพฤติกรรมผ่านวิดีโอ YouTube ส่งผลให้มีการจับกุมผู้กระทำผิด 6 รายและช่วยเหลือเด็กไว้ได้หลายคน
อย่างไรก็ตาม Roblox กลับออกคำสั่งแบน Schlep โดยอ้างว่าผิดกฎละเมิดนโยบายความปลอดภัยของแพลตฟอร์มแม้จะยอมรับว่าเจตนาของเขาคือการปกป้องเด็กก็ตาม
การประท้วงและความร่วมมือจากบุคคลในวงการสื่อ
การแบน Schlep จุดชนวนให้เกิดการประท้วงภายในเกม ผู้เล่นหลายร้อยคนรวมตัวกันใช้แฮชแท็ก #FreeSchlep เพื่อแสดงพลังของชุมชนในการเรียกร้องความปลอดภัยให้กับเด็ก
เรื่องราวยิ่งร้อนแรงขึ้นเมื่อ Chris Hansen อดีตผู้ประกาศข่าวจากรายการ “To Catch a Predator” ประกาศร่วมมือกับ Schlep เพื่อสืบสวนการแสวงหาประโยชน์จากเด็กบน Roblox ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้พิทักษ์ความยุติธรรม
ความพยายามของ Roblox และคำถามที่ยังไร้คำตอบ
เพื่อรับมือกับปัญหา Roblox ได้เปิดตัวระบบ AI ชื่อ “Sentinel” ที่สามารถวิเคราะห์ข้อความกว่า 6 พันล้านข้อความต่อวันใน 28 ภาษาเพื่อค้นหาแพทเทิร์นการสื่อสารที่น่าสงสัยโดยไม่พึ่งพาแค่คำหลัก
บริษัทระบุว่า Sentinel ส่งรายงานกว่า 1,200 ครั้งไปยัง National Center for Missing and Exploited Children ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 และได้เปิดซอร์สโค้ดให้แพลตฟอร์มอื่นนำไปใช้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามตัวเลขการรายงานของ Roblox ในปี 2024 อยู่ที่ 24,522 ครั้งซึ่งต่ำกว่าหลายแพลตฟอร์ม เช่น Facebook (8.5 ล้านครั้ง), TikTok (1.3 ล้านครั้ง) และ Discord (กว่า 240,000 ครั้ง) ทำให้เกิดคำถามว่า Roblox ตรวจสอบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมอย่างเพียงพอหรือไม่
ช่องโหว่ข้ามแพลตฟอร์มและแรงกดดันต่อผู้บริหาร
คดีในรัฐอลาบามาเผยให้เห็นว่าคนร้ายเริ่มเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มอื่น เช่น Discord เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับโดยเริ่มต้นติดต่อผ่าน Roblox ก่อนย้ายไปสื่อสารเชิงล่วงละเมิดบนแพลตฟอร์มอื่น
คำร้องออนไลน์เรียกร้องให้ David Baszucki ผู้เป็นถึง CEO ของ Roblox ลาออกโดยได้รับการสนับสนุนกว่า 100,000 ลายเซ็น จากข้อกล่าวหาว่าบริษัทละเลยการกำจัดภัยคุกคามและพึ่งพาระบบอัตโนมัติที่ลงโทษผู้เล่นบริสุทธิ์มากกว่าผู้กระทำผิดจริง
Matt Kaufman หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของ Roblox ชี้แจงว่ากลุ่มผู้พิทักษ์ความยุติธรรมเริ่มต้นจากการรายงานปัญหา แต่ต่อมาใช้วิธีแอบอ้างเป็นเด็กเพื่อเชื่อมต่อกับผู้ใหญ่ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย
ใครควรเป็นผู้กำหนดขอบเขตการปกป้องเด็ก?
วิกฤตครั้งนี้ไม่ได้เป็นแค่ปัญหาเฉพาะของ Roblox แต่ยังสะท้อนถึงความท้าทายที่ซับซ้อนในการปกป้องเด็กในยุคที่แพลตฟอร์มออนไลน์กลายเป็นสนามเด็กเล่นหลัก
คำถามที่ยังไร้คำตอบคือเราจะสร้างสมดุลระหว่างอิสรภาพในการสื่อสารกับการป้องกันภัยคุกคามได้อย่างไร และใครควรเป็นผู้กำหนดขอบเขตของการปกป้องเด็กในโลกออนไลน์ บริษัทเอกชน ชุมชนผู้ใช้ หรือหน่วยงานรัฐ?