นักแสดงตลกและพิธีกรชื่อดัง จิมมี่ คิมเมล ทำเรตติ้งทีวีสูงสุดในรอบทศวรรษ เมื่อกลับมาออกอากาศในวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากถูกบริษัทดีสนีย์ระงับรายการเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐบาลทรัมป์
ดีสนี่ย์เปิดเผยว่ามีผู้ชมมากกว่า 6 ล้านคนรับชมรายการ จิมมี่ คิมเมล ไลฟ์ ในคืนที่กลับมาออกอากาศ แม้ว่ารายการยังคงไม่สามารถเข้าถึงผู้ชมได้เกือบหนึ่งในสี่ของครัวเรือนอเมริกัน เนื่องจากการคว่ำบาตรจากบริษัทที่เป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น
เรตติ้งเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า
ตัวเลขการรับชมครั้งนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับเฉลี่ยตลอดซีซั่น 2024/2025 ที่อยู่ที่ 1.42 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีผู้ติดตามชมช่วง monologue บนโซเชียลมีเดียอีก 26 ล้านคน ทำให้เป็นผลงานที่ดีที่สุดของรายการในรอบ 10 ปี
เหตุการณ์ที่นำไปสู่การระงับรายการเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลขู่ว่าจะเพิกถอนใบอนุญาตออกอากาศของเครือข่าย ABC ซึ่งเป็นของดีสนีย์ อ้างว่าเป็นผลจากความคิดเห็นที่คิมเมลแสดงหลังเหตุการณ์การลอบสังหาร ชาร์ลี เคิร์กนักกิจกรรมฝ่ายขวา
การต่อสู้เพื่อเสรีภาพการแสดงออก
คิมเมล กลับมาโจมตีการเซ็นเซอร์อย่างรุนแรงในช่วง monologue โดยกล่าวว่า การที่รัฐบาลขู่ให้นักแสดงตลกที่ประธานาธิบดีไม่ชอบต้องเงียบ นั่นเป็นสิ่งที่ต่อต้านค่านิยมอเมริกัน
เขายังเสริมว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้ชัดเจนมากว่าต้องการเห็นผมและคนงานหลายร้อยคนที่ทำงานที่นี่ถูกไล่ออก ผู้นำของเรากลับชื่นชมยินดีที่เห็นชาวอเมริกันสูญเสียงานเพียงเพราะทนมุขตลกไม่ได้
ทรัมป์โต้กลับ แต่ย้อนแย้งตัวเอง
ทรัมป์ ซึ่งมักจะร้องเรียนเกี่ยวกับการรายงานข่าวในแง่ลบและมักโจมตี คิมเมลรวมทั้งนักแสดงตลกคนอื่นๆ ได้แสดงความยินดีเมื่อรายการถูกระงับ โดยเรียกว่า ข่าวดีสำหรับอเมริกา
ก่อนรายการกลับมาออกอากาศทรัมป์ บอกกับนักข่าวว่า คิมเมลไม่มีความสามารถ... ไม่มีเรตติ้ง ซึ่งคิมเมลตอบกลับอย่างเสียดสีในคืนวันอังคารว่า ‘คืนนี้มีแล้วล่ะ’ พร้อมเสริมว่า เขาพยายามยกเลิกผมอีกแล้ว แต่กลับบังคับให้คนหลายล้านคนมาดูรายการ มันย้อนแย้งอย่างมาก