ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก “ณพ ณรงค์เดช -กอแก้ว บุญยะจินดา” คนละ 2 ปีไม่รอลงอาญา ฐานร่วมใช้เอกสารปลอมโอนหุ้น WEH
วันนี้ (11 พฤศจิกายน 2568) ศาลอาญารัชดาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่ นายเกษม ณรงค์เดช ผู้ก่อตั้งกลุ่ม KPN และอดีตผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท วินด์ เอนเนอยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องคุณหญิงกอแก้ว บุญยะจินดา ภรรยาอดีตอธิบดีกรมตำรวจ และนายณพ ณรงค์เดช ลูกเขย ไฮโซชื่อดัง ในข้อหาร่วมกันใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม เพื่อโอนหุ้น WEH มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท
ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก คุณหญิงกอแก้ว บุญยะจินดา และ นายณพ ณรงค์เดช คนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา หลังพิจารณาพยานหลักฐานเพิ่มเติมแล้วพบว่า มีการใช้เอกสารปลอมลายเซ็นของนายเกษม ในการโอนหุ้นดังกล่าวไปยังบริษัทในฮ่องกงจริง ถือเป็นการกระทำที่เจตนาแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
ก่อนหน้านี้ คดีดังกล่าวเคยถูกศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องไปเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2568 แต่ฝ่ายโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์ ศาลจึงพิจารณาพยานหลักฐานเพิ่มเติมและกลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยเห็นว่าคำให้การของโจทก์และหลักฐานทางเอกสารมีน้ำหนักเพียงพอ ยืนยันการปลอมแปลงลายมือชื่อเกิดขึ้นจริง
คดีนี้ถือเป็นคดีในครอบครัวที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับตระกูลนักธุรกิจใหญ่ ‘ณรงค์เดช’ และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงถึงกว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นหุ้นในบริษัทพลังงานลมชั้นนำของประเทศ
ภายหลังคำพิพากษา นายกรณ์ ณรงค์เดช บุตรชายคนเล็กของนายเกษม ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำตาคลอว่า
“วันนี้ครอบครัวเราต้องกราบขอบพระคุณศาลและขบวนการยุติธรรม ที่ได้มอบความเป็นธรรมให้กับคุณพ่อและครอบครัว สิ่งที่อยากทำที่สุดในตอนนี้คือกลับไปกราบเท้าคุณพ่อ คุณพ่อจะพูดเสมอว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว และวันนี้ความจริงได้ปรากฏแล้ว”
ทั้งนี้ คำพิพากษาดังกล่าวยังอาจมีการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป หากคู่ความยื่นฎีกาต่อศาลฎีกา แต่ในเบื้องต้น คำตัดสินของศาลอุทธรณ์ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อวงการธุรกิจ-ตลาดทุน เนื่องจากคดีนี้เกี่ยวพันกับหุ้นของบริษัทพลังงานขนาดใหญ่ และมีมูลค่าความเสียหายระดับหลายหมื่นล้านบาท
