การเดินทางกว่า 3 เดือนของโครงการ “Writers’ Room 3 Gen Workshop” ภายใต้การขับเคลื่อนของสมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์ (TSA) ได้มาถึง โค้งสุดท้าย กับกิจกรรม Pitch Day เวทีชี้ชะตาที่เปิดโอกาสให้นักเขียนไทย 3 เจเนอเรชัน นำเสนอไอเดียต่อโปรดิวเซอร์ สถานีโทรทัศน์ และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชั้นนำ เป้าหมายไม่เพียงเพื่อเฟ้นหาพล็อตที่มีศักยภาพ แต่ยังหมายถึงการต่อยอดสู่การผลิตจริงในเชิงพาณิชย์ และเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยสู่การแข่งขันในตลาดโลก
279 พล็อต คัดเหลือ 16 โปรเจ็กต์สุดท้าย
โครงการนี้เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เปิดรับไอเดียจากนักเขียน 3 เจเนอเรชัน และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม มีผลงาน (พล็อตเรื่อง) ส่งเข้ามามากถึง 279 เรื่อง ก่อนคัดเหลือ 16 โปรเจ็กต์สุดท้าย ที่ผ่านการกลั่นกรองโดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขึ้นเวที Pitch Day ณ TK Park เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2568
คฑาหัสต์ บุษปะเกศ นายกสมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์ (TSA) กล่าวว่า ‘โครงการ Writers’ Room’ ไม่ได้เป็นเพียงการอบรม แต่คือการเชื่อมโยงนักเขียนกับโอกาสทางธุรกิจจริง TSA ต้องการเป็นตัวกลางที่ทำให้โปรเจ็กต์ที่มีศักยภาพ ได้รับการพัฒนาและต่อยอดสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ

จับคู่ “ความคิดสร้างสรรค์-ประสบการณ์-เครือข่าย”
แนวคิดหลักของโครงการนี้คือการผสานจุดแข็งของนักเขียน 3 รุ่นเข้าด้วยกัน โดย รุ่นใหม่ ที่มีความคิดสดและเชี่ยวชาญเทคโนโลยี, รุ่นกลาง ที่มีประสบการณ์สร้างงานฮิต, และ รุ่นใหญ่ ที่มีเครือข่ายกว้างขวาง แต่ขาดการต่อยอดไอเดียแปลกใหม่ การรวมกันเช่นนี้ถูกมองว่าเป็น ‘โมเดลธุรกิจสร้างสรรค์’ ที่สามารถสร้างคอนเทนต์คุณภาพ ตอบโจทย์ตลาดในประเทศ และแข่งขันกับซีรีส์ต่างชาติที่กำลังรุกหนักในตลาดสตรีมมิ่ง
พันธมิตรภาครัฐ-เอกชน ร่วมหนุนเต็มที่
โครงการ Writers’ Room 3 Gen Workshop มีพันธมิตรสำคัญเข้ามาสนับสนุน ทั้งภาครัฐอย่างกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม, THACCA, OFOS – One Family One Soft Power, TK Park และภาคเอกชนชั้นนำ ทั้ง True CJ Creation, ช่อง One31, ช่อง 3, ช่อง 7HD, GMMTV, MONOMAX ฯลฯ การที่ผู้เล่นรายใหญ่ในวงการโทรทัศน์และสตรีมมิ่งเข้าร่วมอย่างคับคั่ง สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่า ‘บทไทย’ สามารถสร้างมูลค่าเชิงธุรกิจได้จริง
โอกาสทางเศรษฐกิจ ‘Soft Power ไทย’
การจัด Pitch Day ครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นพื้นที่โชว์ไอเดียของนักเขียน แต่ยังเป็น ‘การลงทุนเชิงระบบ’ ในการยกระดับอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทย ที่มีมูลค่าตลาดรวมหลายหมื่นล้านบาท และเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการผลักดัน Soft Power ของไทยสู่เวทีโลก การมีระบบคัดเลือก พัฒนา และเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ผลิต ช่วยให้ประเทศไทยมีโอกาสสร้าง ‘Original Content’ ที่สามารถขายลิขสิทธิ์ในตลาดต่างประเทศได้ ไม่ต่างจากเกาหลีใต้ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว

บทพิสูจน์นักเขียนไทยสู่ตลาดโลก
Pitch Day ยังแสดงให้เห็นว่า หากมีการสนับสนุนอย่างเป็นระบบ นักเขียนไทยสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่น่าสนใจและแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ หลายพล็อตได้รับความสนใจจากโปรดิวเซอร์และสตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อการต่อยอดเป็นโปรเจ็กต์จริงในอนาคต
กิจกรรม Pitch Day ครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงการสร้างแรงบันดาลใจ แต่คือ การลงทุนด้านทรัพยากรมนุษย์และความคิดสร้างสรรค์ ที่จะทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงไทยเติบโตอย่างยั่งยืน และเดินหน้าไปสู่การเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ระดับโลก
