ททท. เปิด Amazing 5-Economy กลยุทธ์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจท่องเที่ยว
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สิ่งที่นักท่องเที่ยวมองหาเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ คือ “คุณค่าจากการท่องเที่ยว” ที่ส่งผ่านทางวัฒนธรรม ความปลอดภัย ประสบการณ์ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตในยุคดิจิทัลเทรนด์เหล่านี้ทำให้ทิศทาง “Value over Volume” ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ แต่กลายเป็นการตอบสนองพฤติกรรมใหม่ที่เปลี่ยนไปของนักเดินทางทั่วโลก นี่คือเหตุผลที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเชื่อว่าโมเดล “Amazing 5-Economy” คือ “โครงสร้างใหม่” ที่พาไทยสู่ Premium Destination และส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยว
5-Economy ประกอบไปด้วย Wellness Economy เมื่อสุขภาพกลายเป็นความต้องการพื้นฐาน นักเดินทางทั่วโลกจึงให้ความสำคัญกับสถานที่ที่ดูแลทั้งกายและใจ ไทยมีต้นทุนด้านการแพทย์ สปา และธรรมชาติทำให้ไทยสามารถก้าวสู่การเป็น Medical & Wellness Hub ของเอเชียได้
Subculture Economy คือโอกาสที่ไทยจะใช้เสน่ห์ไทยและกิจกรรม สร้างแรงดึงดูดใหม่ให้กับ Next-gen Travelers ที่เลือกจุดหมายปลายทางจากวัฒนธรรมร่วมสมัย ที่ทำให้เมือง “มีชีวิต” มากกว่าแค่ภาพแลนด์มาร์ก ไม่ว่าจะเป็นดนตรี ศิลปะ แฟชั่น หรือคอมมูนิตี้สร้างสรรค์
Night Economy พฤติกรรมการใช้ชีวิตยามค่ำคืนเติบโตขึ้นทั่วโลก นักท่องเที่ยวต้องการพื้นที่ปลอดภัย สนุก และแตกต่าง ส่งผลโดยตรงต่อ “ชั่วโมงเศรษฐกิจ” ของเมือง การพัฒนา Night Economy จึงเป็นการต่อยอดศักยภาพที่ไทยมีอยู่แล้วให้ตอบโจทย์ในทุกมิติ
Tax-free Economy การช้อปปิ้งกลายเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยว ประสบการณ์ปลอดภาษีกลายเป็นตัวเลือกสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว การเร่งพัฒนา Tax-free Ecosystem จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงให้ลงทุนในไทย Prompt Pay Economy ในปัจจุบันเรากำลังเข้าสู่สังคมไร้เงินสด นักเดินทางต้องการระบบจ่ายเงินที่รวดเร็ว สะดวก ปลอดภัย ไร้รอยต่อ การพัฒนา Payment Experience คือ “มาตรฐานใหม่” ที่จะยกระดับภาพลักษณ์ประเทศในฐานะ Digital-friendly Destination
ทั้งหมดนี้ทำให้ “Amazing 5-Economy” ไม่ได้เป็นเพียงโมเดลเศรษฐกิจ แต่คือแนวคิดใหม่ที่พลิกโฉมไทยจากดินแดนแห่งรอยยิ้ม สู่ดินแดนแห่งความหมาย ยกระดับไทยจากประเทศที่ ‘ถูกเลือกเพราะความคุ้มค่า’ สู่ประเทศที่ ‘ถูกเลือกเพราะคุณค่าที่มองเห็นได้จริง’ ในสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก


