ภาคเอกชนใต้ห่วง ‘รัฐบาล 4 เดือน’ ไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหาเศรษฐกิจ กระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศ

4 ก.ย. 2568 - 07:27

  • เอกชนภาคใต้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองที่กำลังเปลี่ยนแปลง

  • หวั่นดีลจัดตั้งรัฐบาลอายุเพียง 4 เดือน ขาดเสถียรภาพ กระทบความเชื่อมั่นของประเทศ

  • วอนทุกฝ่ายช่วยประคองให้ผ่านพ้นถึงปีหน้า หวังรัฐบาลใหม่เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

ภาคเอกชนใต้ห่วง ‘รัฐบาล 4 เดือน’ ไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหาเศรษฐกิจ กระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศ

สลิล โตทับเที่ยงประธานหอการค้าภาคใต้ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ว่าภาคเอกชนมีความกังวล เพราะการมีรัฐบาลใหม่มีผลต่อการทำงาน และการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ ตลอดทั้งการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการและนักลงทุนต่างประเทศ “ตอนนี้ภาคเอกชนต้องการให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และขอให้รัฐบาลที่จัดตั้งได้มีเสถียรภาพ สามารถนำพาคณะรัฐมนตรีและประเทศไทยการฟันฝ่าอุปสรรคที่จะเข้ามาอีกมากมาย ที่สำคัญต้องจัดบุคลากรที่มีความเหมาะสมไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน มีความซื่อสัตย์ ได้รับความเชื่อมั่น ที่จะทำงานขับเคลื่อนประเทศของเรา”

The-private-sector-in-the-South-is-concerned-about-the-establishment-SPACEBAR-Photo06.jpg

ประธานหอการค้าภาคใต้ กล่าวต่อว่า เรื่องสำคัญที่อยากให้รัฐบาลชุดใหม่นี้แก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน คือ การสานต่อแก้ไขปัญหาเรื่องภาษีสหรัฐอเมริกา การสร้างความสมดุลและสร้างความสัมพันธ์กับประเทศยิ่งใหญ่และประเทศคู่ค้าของเรา เพราะหากเดินไม่ถูกทางจะเกิดผลลบกับการทำงานของประเทศไทยได้ เรื่องปัญหาชายแดนก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน เพราะเกี่ยวข้องกับความมั่นคง

“แต่อย่างไรก็ตามภาคเอกชนเองก็มองว่ามีทางออกอีกหลายทาง หากชายแดนไม่มีปัญหา ซึ่งสามารถสร้างการค้าการส่งออกชายแดนเหล่านั้นได้ เช่น ลาว พม่า และมาเลเซีย ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้น การหาตลาดใหม่ๆสำหรับประเทศไทยเป็นเรื่องสำคัญ อยากจะให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งดำเนินการ เราคงไม่สามารถที่จะมีคู่ค้าเฉพาะคู่ค้าใหญ่ๆ อยู่ไม่กี่ประเทศ เพราะปัจจุบันนี้มีหลายภูมิภาคที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาใต้ อินเดีย แอฟริกา ทั้งหมดนี้ในอนาคตจะเป็นตลาดที่ใหญ่มากสำหรับประเทศไทย”

ประธานหอการค้าภาคใต้ กล่าวด้วยว่า ในฐานะภาคเอกชนมองว่า การที่รัฐบาลใหม่กำหนดเงื่อนไขระยะเวลา 4 เดือนแล้วยุบสภา นั้น ไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ในส่วนของข้าราชการประจำเองก็ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่เพราะว่าไม่ทราบว่าในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ความเชื่อถือกับต่างประเทศที่จะคุยกับรัฐบาลไทยที่รู้ว่ามีอายุแค่ 4 เดือน เขาก็อาจไม่มาเจรจา เพราะถือว่าเดี๋ยวก็มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ซึ่งการส่งสัญญาณอย่างนี้ไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย

“ส่วนตัวคิดว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ ทุกวันนี้เราไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศทั้งระดับในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงไม่สามารถสร้าง SME ใหม่ๆ ให้เกิดการเติบโตได้ ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปีหน้าไม่ดีอย่างที่คาดไว้ และอาจจะแย่กว่าที่เราตั้งเป้าไว้”

“ผลของตลาดหุ้นมันเป็นเรื่องตื่นตระหนกในช่วงเวลาสั้นๆ จะไม่เห็นชัดในเรื่องผลกระทบของ GDP แต่ในระยะยาวความไม่มั่นใจไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย ประชาชนเก็บเงินไว้ เพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น นั่นจะเป็นปัญหาใหญ่ ที่ส่งผลกระทบต่อการบริโภคในประเทศ รายได้ของประเทศลดลง”

ประธานหอการค้าภาคใต้ กล่าวว่า “ในส่วนของรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไปนั้น ส่วนตัวคิดว่าท่านก็รู้โจทย์แล้วว่าเสถียรภาพของรัฐบาลมีความสำคัญ ฉะนั้นบุคลากรที่มีความสามารถและมีความเชื่อมั่นเป็นคนที่ต้องจัดหามาให้ถูกต้อง หากท่านได้โอกาสแล้วแต่ไม่ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ ก็ถือว่าเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่”

The-private-sector-in-the-South-is-concerned-about-the-establishment-SPACEBAR-Photo02.jpg

ประธานหอการค้าภาคใต้ กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ภาคใต้ขณะนี้เรื่องของการท่องเที่ยวซบเซา โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นเมืองรอง เป็นตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ ได้รับผลกระทบพอสมควร เพราะเกิดจากความไม่เชื่อมั่น และรายได้ที่น้อยลง ในส่วนนี้ภาคเอกชนในภาคใต้เคยจัดประชุมเสวนา และนำข้อเสนอผ่านหอการค้าไทยเพื่อใช้มาตรการ MICE ปัจจุบันนี้มีบริษัทใหญ่ในประเทศมากมายที่จะจัดกิจกรรมอบรมสัมมนา หรือให้ Incentive ให้กับพนักงานและลูกค้า อาจจะจัดไปต่างประเทศ ในทางกลับกันถ้าเราจัดในประเทศ โดยเฉพาะในจังหวัดเมืองรองแล้วให้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษี คิดว่าตรงนี้จะทำให้เกิดกำลังซื้อในประเทศเพิ่มมากขึ้น

รวมไปถึงการจัดอบรมสัมมนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ การไปประชุมนอกสถานที่ยังจังหวัดต่างๆ หรือการประชุมข้ามภาค ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยทำให้เกิดเงินสะพัด ซึ่งถือเป็นนโยบายเร่งด่วน ถ้าจำได้ก็อยากให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งดำเนินการ เพราะหากเรารอการท่องเที่ยวจากต่างประเทศอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขได้ทัน และนอกจากการท่องเที่ยวแบบไทยเที่ยวไทยแล้ว ให้เที่ยวแบบองค์กรด้วย

The-private-sector-in-the-South-is-concerned-about-the-establishment-SPACEBAR-Photo05.jpg

ขณะที่ บุญชู ศัยศักดิ์พงษ์รองประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ กล่าวถึงข้อห่วงใยและข้อเสนอแนะของภาคเอกชนต่อการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ขับเคลื่อนแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ว่า ได้ติดตามข่าวมาตลอดพบว่ากำลังมีการต่อรองกันในหลายกรณีในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งข้อต่อรองส่วนใหญ่มีแต่เรื่องแบ่งปันผลประโยชน์ซึ่งกันและกันเท่านั้น ไม่พบเลยว่ามีข้อใดที่บอกถึงการแก้ปัญหาในปัจจุบันซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่เกี่ยวกับปัญหาปากท้องของประชาชนทั่วไป ส่วนใหญ่การต่อรองจะมีแต่เรื่องแบ่งสันปันส่วนตำแหน่ง แต่ก็เข้าใจบริบทของนักการเมืองว่าเวลานี้ต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ค่อยว่ากันทีหลัง

“แต่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือตำแหน่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คณะรัฐมนตรีที่ได้มาจะมีความเหมาะสมกับกระทรวงนั้นๆ หรือไม่ เพราะเหมือนเป็นการนำผู้โดยสารมาจับฉลากให้ขับเครื่องบิน จะมีความสามารถพอหรือไม่ หรือเพียงเพื่อได้มีตำแหน่งเท่านั้น ตรงนี้น่าเป็นห่วงเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาก็เป็นแบบนั้น ได้คนที่ไม่เหมาะสมมามีอำนาจในตำแหน่งสำคัญ หวังว่ารัฐบาลใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะได้คำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย เข้าใจว่าทุกคนอยากแก้ปัญหาให้ประเทศชาติ แต่ก็ขอให้ลดราวาศอกให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลขึ้นได้ก่อน”

“ส่วนเงื่อนไขสำคัญที่บอกว่ารัฐบาลใหม่จะอยู่แค่ 4 เดือน ก็ต้องรอดูว่าเมื่อครบ 4 เดือนแล้ว จะยังยึดตามข้อตกลงหรือไม่ ซึ่งการกำหนดอายุรัฐบาลใหม่ 4 เดือน หากมีความตั้งใจและจับจุดถูกก็สามารถแก้ปัญหาได้ บางทีอยู่นานไปอาจเสียเวลาเปล่า จึงอยากฝากไปทั้งสีส้ม สีแดง สีน้ำเงิน ว่าเวลารับปากไว้แล้วให้ทำตามด้วย ประชาชนที่เลือกท่านเข้ามารอดูผลงานอยู่ ดังนั้น 4 เดือนหลังจากนี้ รัฐบาลใหม่ที่ได้อำนาจมาต้องใช้เวลาให้เป็นประโยชน์จริงๆ และต้องทำให้ทัน ส่วนปัญหาชายแดนคิดว่าจบแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหามากกว่านี้ เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดสงครามที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า”

บุญชู กล่าวต่อว่า ส่วนข้อเสนอให้ยุบสภาเลยทันทีในเวลานี้ ส่วนตัวไม่เห็นด้วย ควรเดินหน้าต่อไปอีก 4-6 เดือนดีกว่า อย่างน้อยก็ต้นปี 2569 ค่อยมาว่ากันอีกที เวลานี้ควรช่วยกันแก้ปัญหาประคับประคองรัฐไทยให้รอดปลอดภัยกันไปก่อน หากยุบสภาตอนนี้ จะเสียเวลาไปอีกหลายเดือน และเราเสียเวลามามากแล้ว ปีนี้เราลอยอังคารกันแล้วก็ลอยให้มันหมดๆ ไป ปีหน้าค่อยว่ากันถ้าจะยุบสภา และน่าจะเป็นปีที่หลายๆ อย่างดีขึ้น เพราะเราผ่านอะไรที่ไม่ดีมาเยอะแล้ว 

“สิ่งที่รัฐบาลใหม่จะต้องเร่งแก้ปัญหาในตอนนี้มีเกือบทุกเรื่อง โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ภาคส่งออกมีปัญหา ส่งออกได้ลดลง ปัญหาการลงทุนที่ชะลอตัวทำให้กระทบแหล่งรายได้ การใช้จ่ายในประเทศก็มีปัญหา การท่องเที่ยวอ่อนแอลง ประเทศคู่แข่งแย่งเราไปเยอะ โดยเฉพาะภาคใต้เศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดคือการท่องเที่ยว ส่วนยางพารา ปาล์มน้ำมัน เป็นพืชเศรษฐกิจที่รุ่นลูกรุ่นหลานอาจสนใจน้อยลง และหันไปสนใจธุรกิจที่ต่อยอดนวัตกรรมมากขึ้น ดังนั้นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลใหม่ต้องเข้ามาส่งเสริมภาคใต้คือการท่องเที่ยวและภาคบริการ”

The-private-sector-in-the-South-is-concerned-about-the-establishment-SPACEBAR-Photo01.jpg
The-private-sector-in-the-South-is-concerned-about-the-establishment-SPACEBAR-Photo03.jpg
The-private-sector-in-the-South-is-concerned-about-the-establishment-SPACEBAR-Photo04.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์