เรื่องมันมีอยู่ว่า ฝ่ายค้านฯ ล็อกเป้า‘วราห์ สุจริตกุล’แกะรอยเส้นทางเงิน‘สแกมเมอร์’ , ปิดเทอมการเมืองทำตลาด‘คึกคัก’ ‘ซื้อหวย’ตรงกัน‘ยุบสภา’มาแน่ๆ

30 ต.ค. 2568 - 23:46

  • ขยายวงกว้างขึ้นสำหรับเงินเทาและสแกมเมอร์ที่ต้องถูกกำจัด

  • ฝ่ายค้านเชิญผู้บริหารฟินันเซีย เอกซ์ชี้แจงกรรมาธิการ ป.ป.ง.

  • ปิดเทอมการเมือง ตลาดนัด สส.คึกคัก รับยุบสภาก่อนกำหนด

เรื่องมันมีอยู่ว่า    ฝ่ายค้านฯ ล็อกเป้า‘วราห์ สุจริตกุล’แกะรอยเส้นทางเงิน‘สแกมเมอร์’ ,  ปิดเทอมการเมืองทำตลาด‘คึกคัก’ ‘ซื้อหวย’ตรงกัน‘ยุบสภา’มาแน่ๆ

เรื่องมันมีอยู่ว่า อาจจะกลายเป็นจุดตายของรัฐบาลอนุทิน และภูมิใจไทย ที่ไม่สามารถเคลียร์เรื่องเครือข่ายสแกมเมอร์ ฝ่ายค้านไล่ตรวจสอบบริษัท 7 บริษัทที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะบริษัทฟินันเซีย เอกซ์<>ปิดเทอมการเมือง และทุกฝ่ายเห็นตรงกันยุบสภามาก่อนเวลา ทำตลาดนัด สส.คึกคัก ไม่น้อยหน้า คนละครึ่ง <>พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า 

ฝ่ายค้านฯล็อกเป้า‘วราห์ สุจริตกุล’

แกะรอยเส้นทางเงิน‘สแกมเมอร์’

ไป ๆมา ๆ   เรื่อง‘เงินสีเทา’ จากเครือข่ายอาชญากรรม ‘สแกมเมอร์’ ที่ตั้งฐานอยู่ในกัมพูชา อาจจะกลายเป็นชนวนให้ นายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกุล  ตัดสินใจ‘ยุบสภา’ก่อนวันที่  31  มกราคมปีหน้า เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบ จากพรรคฝ่ายค้าน คือพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย

ทั้งการตรวจสอบในเรื่อง เงินสีเทามาจากไหน  และ เงินสีเทาเข้ามาอย่งไร เข้ามาแล้วไปอยู่ตรงไหน

ก่อนหน้านี้ รมช.คลัง วรภัค ธันยาวงษ์ ที่อนุทินบอกว่า  ทาบทามให้มารับตำแหน่งด้วยตัวเอง เพราะรู้จักกันมา 30  กว่าปี  อยู่ในตำแหน่งได้แค่ 1 เดือน 3  วันก็ต้อง‘ลาออก’ จากตำแหน่ง  เพราะเรื่องความสัมพันธ์กับ ‘เบนจามิน เมาท์เออร์เบอร์เกอร์’  ที่ปรึกษาฮุนเซ็น และมีความสัมพันธ์กับเครือข่ายสแกมเมอร์ในกัมพูชา   ที่ยิ่งแก้ตัวก็ยิ่งเข้าตัว  จนอยู่เป็น รมช. ต่อไปไม่ได้

เรื่องวรภัคที่เป็นแต่ ‘ยอดภูขาน้ำแข็ง’  อนุทินยังเอาไม่อยู่  ใต้ภูเขาน้ำแข็ง ‘สแกมเมอร์’ ยังมีเครือข่ายลึกลับ ที่ทรงอำนาจ ที่กำลังถูกขุดคุ้ยออกมา อนุทินจะรับมือไหวหรือ

วานนี้(30 ตุลาคม)  คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปราม การฟอกเงินและยาเสพติด ( กมธ. ป.ป.ง.) ที่ดนุพร ปุณณกันต์  สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน และ คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติ ที่ รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธาน เชิญผู้บริหาร 7   บริษัท ในตลาดหลักทรัพย์ มาให้ ข้อมูล เรื่อง เส้นทางเงินของเครือข่ายสแกมเมอร์

ไม่มีบริษัทไหนมา อ้างว่า กมธ. นัดหมายกระชั้นชิด เตรียมตัวไม่ทัน  ผู้บริหารบางคนต้องไปต่างประเทศ

1 ใน 7  บริษัทนั้นคือ  กลุ่มฟินันซ่า ซึ่ง กมธ. เจาะจงเชิญทั้ง ‘ช่วงชัย นะวงศ์’  ซีอีโอ บริษัท ฟินันเซีย เอกซ์ หรือ FSX  กับ ‘วราห์ สุจริตกุล’ รองประธานกรรมการ FSX

วราห์ สุจริตกุล รองประธานกรรมการ FSX ถูก กรรมาธิการ ป.ป.ง.เรียกชี้แจงเรื่องเครือข่ายสแกมเมอร์ แต่ไม่ได้ไปชี้แจงโดยให้เหตุผลว่าเชิญกระทันหัน เตรียมตัวไม่ทัน
วราห์ สุจริตกุล รองประธานกรรมการ FSX ถูก กรรมาธิการ ป.ป.ง.เรียกชี้แจงเรื่องเครือข่ายสแกมเมอร์ แต่ไม่ได้ไปชี้แจงโดยให้เหตุผลว่าเชิญกระทันหัน เตรียมตัวไม่ทัน

 ธุรกิจหลักของ FSX  คือ ที่ปรึกษาการเงินและการลงทุน หรือที่เรียกว่า ‘วาณิชธนกิจ’ มีรายได้จาก ค่าบริการ การเคลื่อนย้ายเงินทุน จากแหล่งหนึ่ง ไปอีกแหล่งหนึ่ง ตามความต้องการของเจ้าของเงิน

ในบทความชุด ‘มหากาพย์นายหน้า’  ของ ‘สฤณี อาชวานันทกุล’ ที่ถอดความจากรายงานข่าวสืบสวนสอบสวน จากบล็อก Whale Hunting ของทอม ไรท์ และแบรดลี่ย์ โฮป  สองนักข่าวเจาะ ที่เคยสร้างผลงานเปิดโปงการคอร์รัปชั่นใน ‘กองทุน 1Mdb’  ของมาเลเซียมาแล้ว 

ชื่อของ FSX  และFSSS ( บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส ซีเคียวริตีส์) ปรากฏเป็นตัวละคร ที่มีบทบาทเป็น ‘ตัวกลาง  คนประสานงาน’  ในเครือข่าย ‘ยิมเลียก /เบนจามิน’

จึงเป็นที่มาของ เทียบเชิญ ช่วงชัย -วราห์จาก กมธ. ทั้ง 2 คณะให้ไปให้ข้อมูล จะได้กระจ่างชัดว่า  ที่นักข่าวฝรั่งสองคน‘พาดพิง’ นั้น จริงเท็จอย่างไร

สำหรับ วราห์ซึ่งเป็น กรรมการตลาดหลักทรัพย์ด้วย  มีรายงานของสำนักข่าวอิศราระบุว่า เป็น 1 ใน 2   ผู้เซ็นต์รับรอง นายเบนจามิน ในการขอสัญชาติไทยที่ เสนอให้อนุทิน ตอนที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอนุมัติ แต่อนุทิน‘ไม่’ได้อนุมัติ

ก่อนจาก ขอยืมบางวรรค บางตอนในข้อเขียนเรื่อง State Capture  เมื่อทุนอาชญากรรม ซื้ออำนาจรัฐ  จากเฟซบุ๊ก Kittipong Kittiyarak อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม มาปิดท้ายว่า

 ‘หัวใจสำคัญที่สุดที่ทำให้ระบบนี้เติบโตได้อย่างยั่งยืน คือ การฟอกเงิน (Money Laundering) เพราะไม่ว่าอาชญากรรมจะทำเงินได้มากเพียงใด หากเงินเหล่านั้นไม่สามารถกลับมาใช้ได้ในระบบเศรษฐกิจปกติ เครือข่ายก็จะเติบโตต่อไม่ได้ เทคโนโลยีการเงินยุคใหม่    ตั้งแต่ e-Wallet, คริปโทเคอร์เรนซี, แพลตฟอร์มโอนเงินข้ามพรมแดน, บริษัทนอมินี จนถึงการแบ่งธุรกรรมเป็นนับพันรายการ  ทำให้การติดตามเงินสกปรกยากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เงินผิดกฎหมายสามารถ ‘หลุดจากเรดาร์’ และกลับเข้าสู่ระบบในรูปของทรัพย์สินสะอาดได้ภายในเวลาไม่นาน และเมื่อเงินเติบโตจนเกินจุดหลบซ่อน เครือข่ายจะไม่หยุดอยู่ที่การแสวงหากำไรอีกต่อไป แต่จะเริ่มลงทุนเพื่อซื้อความคุ้มกัน  ซื้ออำนาจ  และซื้อกติกาใหม่ให้ตนเอง นี่คือจุดเริ่มต้นของ State Capture หรือ ‘การซื้ออำนาจรัฐ’

<<<<<>>>>>>

ปิดเทอมการเมืองทำตลาด‘คึกคัก’

‘ซื้อหวย’ตรงกัน‘ยุบสภา’มาแน่ๆ

สภาสมัยสามัญครั้งที่ 1 ‘ปิดเทอม’ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา และจะ ‘เปิดเทอม’ อีกครั้งสมัยสามัญครั้งที่ 2 ในวันที่ 12 ธันวาคม และยาวไปถึงวันที่ 10 เมษายน 2569

สมัยประชุมที่จะเปิดวันที่ 12 ธันวาคมนี้ ‘ทุกฝ่าย’ คาดหมายตรงกันว่า ไม่ครบเทอมประชุมแน่ๆและไม่เชื่อด้วยว่าการ ‘ยุบสภา’ จะเกิดขึ้นในวันที่ 31 มกราคม 2569 ตามที่ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประกาศไว้

สมัยสามัญครั้งที่ 2 นี้มีความสำคัญ 2 ประการ ประการแรกสามารถยื่นญัตติ ‘ไม่ไววางใจ’ได้ และจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการการแก้ไขรธน.มาตรา 256 เพื่อใช้ทำประชามติ 2 คำถามเกี่ยวกับการให้มี รธน.ฉบับใหม่

เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ เลยไม่แปลกที่แต่ละพรรคการเมือง แต่ละกลุ่มการเมืองจะเคลื่อนไหวกัน ‘คึกคัก’ เพื่อรองรับการเลือกตั้ง

เรื่องที่พรรคเพื่อไทยที่ประกาศ ‘ยกเครื่อง’ และตามมาด้วยการลาออกของ ‘อุ๊งอิ๊งค์’ บนเก้าอี้หัวหน้าพรรค การยื่นใบลาออกของ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เกิด 3 แคนดิเดทหัวหน้าคนใหม่ที่มีคุณสมบัติสำคัญคือ ‘ไม่ใช่คนตระกูลชิน’

ล่าสุดหลังทุบโต๊ะกันอยู่หลายวัน หัวหน้าคนใหม่จะชื่อ ‘หนิม’ หรือ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ 5 สมัย อดีต รมช.คลัง ที่ปาดหน้า ‘อ๋อย’ จาตุรนต์ ฉายแสง แบบไม่กลัว ‘แตกหัก’

พูดกันจริงๆ ข่าว จุลพันธ์ จะมายังน่าสนใจน้อยกว่าข่าว ‘สุทิน คลังแสง’ จะไปซะอีก แม้เจ้าตัวจะยืนยันว่าเป็นข่าวลือ และวันนี้ยังอยู่กับพรรค แต่ ‘วันข้างหน้า’ไม่มีใครยืนยันได้

ขณะที่ จาตุรนต์ ฉายแสง ที่หลายคนเชียร์ สุดท้ายก็เป็นได้แค่ ‘พระรองปกป้องพรรค’

มาดูที่พรรคพลังประชาลุง เฮ้ย!! พลังประชารัฐ ที่ว่ากันว่า นาทีนี้ ‘ลุงยอมแล้ว’ เพราะบรรดา คีย์แมน ประเภทนักเลือกตั้งเดินออกจากป่ากันชุดใหญ่ ล่าสุดก็ตระกูล ‘เทียนทอง’

ส่วนค่ายสีฟ้า ที่อภิสิทธิ์ แอนด์เดอะแก๊งค์ กลับพรรคเดิมที่คิดว่ายาก แต่ล่าสุดดัน ‘ยากกว่า’ ที่คิดมากนัก เพราะต้องใหม่เกือบหมด ทั้งตัวคน ทั้งนโยบายหาเสียง ที่สำคัญอุดมการณ์การเมืองจะขายได้หรือไม่ ในยุคที่ เอไอ กำลังจะครองโลก

สำหรับพรรครวมไทยไปต่อ เฮ้ย!! รวมไทยสร้างชาติ ของพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ก็ยัง ‘นอนยัน’ ว่ามี ดีเอ็นเอของ ‘ลุงตู่’ อยู่เต็มร้อย

หันมาดู พรรคกล้าธรรม ที่กำลังโดน ‘รับน้อง’ อย่างหนัก โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็น ‘เป้าใหญ่’ เอาจริงๆ หน้าตาพรรคกล้าธรรมอาจจะดูไม่เรียกความนิยมจากสังคมมากนัก แต่สำหรับนักการเมือง พรรคนี้ดูจะมี ‘สิ่งอำนวยความสะดวก’ไม่เป็นสองรองใคร

ดังนั้น 42 วันระหว่างปิดเทอมจึงเต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองที่‘ข้นคลั่ก’ น้องๆตลาดนัด ‘โค-กระบือ’ ยังไงยังงั้น

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์