เมื่อ SMEs คือกระดูกสันหลังเศรษฐกิจไทย แต่เวลานี้ผู้ประกอบการรายเล็กกำลังเผชิญวิกฤตหนัก ทั้งรายได้ที่หดตัว ต้นทุนที่พุ่งสูง และการขาดแคลนแรงงาน หากไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที อาจทำให้ธุรกิจนับแสนรายเสี่ยงล้มหาย และกระทบต่อการจ้างงานอีกนับล้านตำแหน่ง
ด้วยเหตุนี้ สภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สภาเอสเอ็มอี) จึงออกโรงเสนอ ชุดมาตรการเร่งด่วน 4 เดือน มูลค่ารวม 80,000 ล้านบาท เพื่อพยุงผู้ประกอบการให้ผ่านพ้นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ โดยนำแนวทางที่เคยประสบความสำเร็จจากสิงคโปร์ เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา มาปรับใช้กับบริบทไทย
วิกฤตต้นทุนบีบ SMEs
ข้อมูล ณ ไตรมาส 2/2568 ชี้ชัดว่า เอสเอ็มอีกำลังเจอ ‘ต้นทุนบีบรายได้’ รายได้เฉลี่ยลดลง 1.11% แต่ต้นทุนเพิ่มขึ้นถึง 4.16% ทั้งค่าวัตถุดิบ ค่าแรง และสาธารณูปโภค ส่งผลให้สภาพคล่องตึงตัว ธุรกิจจำนวนมากอยู่ในจุดเสี่ยงต่อการปิดกิจการ
สุปรีย์ ทองเพชร ประธานสภาเอสเอ็มอี ระบุว่า สถานการณ์นี้ไม่เพียงแต่กระทบรายได้ แต่ยังมีแรงกดดันเรื่องแรงงานต่างด้าวที่ลดจำนวนลง ทำให้ต้นทุนแรงงานสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและตรงจุด
3 เสาหลักฟื้น SMEs
1. ลดภาระทางการเงิน (55,000 ล้านบาท)
• สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำฉุกเฉิน อนุมัติเร็วภายใน 5 วัน
• ลดหย่อนภาษีนิติบุคคล 50%
• เงินอุดหนุนค่าสาธารณูปโภคสูงสุด 5,000 บาท/เดือน
• ยืดเวลาชำระหนี้สูงสุด 5 ปี
• ปรับระบบจ่ายเงินของภาครัฐให้ SMEs ได้รับเงินเร็วขึ้น
2. ส่งเสริมการตลาด (15,000 ล้านบาท)
• จัดตั้งคณะกรรมการอีคอมเมิร์ซระดับชาติ
• เปิดแพลตฟอร์ม “ไทยช่วยไทย ช้อป SMEs” ยกเว้นค่าคอมมิชชั่น 4 เดือน
• แจกคูปองส่วนลด “SMEs Boost Up” กระตุ้นยอดขาย
• สนับสนุนค่าส่งออกครั้งแรก 50%
3. ยกระดับทักษะและแรงงาน (10,000 ล้านบาท)
• คูปอง “ดิจิทัลทูลคิท พลัส” สนับสนุนการใช้ AI
• อบรมฟรี “SMEs AI โตไว”
• โครงการ Smart SMEs สนับสนุนเครื่องจักร–ระบบอัตโนมัติ
• กองทุน Innovation ช่วยผู้ประกอบการพัฒนาโครงการนวัตกรรม
• Upskill แรงงานไทยพร้อมเงินสนับสนุน 15,000 บาท/คน
ผลักดันเชิงระบบ-สร้างผลลัพธ์จริง
มาตรการนี้ตั้งเป้าช่วย 100,000 ราย เพิ่มอัตราการอยู่รอดธุรกิจ 15% และอบรมแรงงานไทยกว่า 50,000 คน เพื่อลดการพึ่งแรงงานต่างด้าว ทั้งหมดจะมีการติดตามแบบเรียลไทม์ผ่าน SMEs Support Dashboard
สุปรีย์เสนอให้จัดตั้ง “ศูนย์บัญชาการ SMEs Support Center” โดยมีหลายกระทรวงร่วมบูรณาการ และพัฒนา Digital ID สำหรับ SMEs เพื่อให้การเข้าถึงความช่วยเหลือทำได้รวดเร็วและโปร่งใส รวมถึงสร้าง SMEs Resilience Index วัดความแข็งแรงผู้ประกอบการไทยเทียบระดับโลก
ผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ
หากมาตรการนี้ถูกผลักดัน คาดว่าจะช่วยรักษาการจ้างงานกว่า 2 ล้านตำแหน่ง เพิ่ม GDP ภาค SMEs อย่างน้อย 3% ลดการพึ่งพาแรงงานต่างด้าวลง 30% และสร้างรากฐานการแข่งขันใหม่ที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI เปลี่ยนโฉมธุรกิจอย่างรวดเร็ว
“มาตรการนี้ไม่ใช่เพียงการเยียวยาระยะสั้น แต่คือการลงทุนเพื่ออนาคต”
— สุปรีย์ ย้ำ
สุปรีย์ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งอนุมัติ เพื่อให้ SMEs ไทยไม่เพียงแค่รอดพ้นวิกฤต แต่ยังยืนหยัดได้อย่างแข็งแรงในเวทีโลก