ปอร์เช่ชะลอแผนรถไฟฟ้า โฟล์กสวาเก้นเตือนกำไรลดหลายพันล้านยูโร

ผู้ผลิตรถยนต์สปอร์ตเยอรมัน ปอร์เช่ ประกาศว่าจะชะลอการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้าเนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนลง ส่งผลให้บริษัทแม่โฟล์กสวาเก้นต้องเตือนถึงผลกระทบหลายพันล้านยูโร

การตัดสินใจครั้งนี้เป็นความปั่นป่วนล่าสุดสำหรับโฟล์กสวาเก้น ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของยุโรปที่มี 10 แบรนด์ ซึ่งกำลังต่อสู้ไม่เพียงกับการเปลี่ยนผ่านสู่รถไฟฟ้าที่ไม่ราบรื่น แต่ยังรวมถึงการแข่งขันที่รุนแรงในจีนและการโจมตีด้วยภาษีศุลกากรจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกา

การปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจครั้งใหญ่

โอลิเวอร์ บลูเมอ ซีอีโอปอร์เช่ กล่าวว่า เรากำลังปรับเปลี่ยนทิศทางปอร์เช่ทุกด้าน ขณะประกาศแผนการที่เท่ากับการถอยกลับ และย้ำว่าในการดำเนินการดังกล่าว ต้องการตอบสนองความเป็นจริงของตลาดใหม่ และความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป

มาตรการที่ปอร์เช่ประกาศ ได้แก่ การเลื่อนการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่น และการขยายอายุการใช้งานของรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายในและไฮบริด รถเอสยูวีซีรีส์ใหม่ซึ่งเดิมวางแผนจะเปิดตัวแบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ จะเสนอขายเฉพาะแบบเครื่องยนต์สันดาปภายในและไฮบริดเมื่อเปิดตัว

ผลกระทบต่อกลุ่มโฟล์กสวาเก้น

โฟล์กสวาเก้นระบุว่าการเปลี่ยนแปลงแผนรถไฟฟ้าของปอร์เช่และค่าใช้จ่ายอื่นๆ จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อผลการดำเนินงานของกลุ่มโดยรวมสูงถึง 5.1 พันล้านยูโร หรือประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์ ในปีการเงิน 2025

ผู้ผลิตรถยนต์สปอร์ต 911 อ้างถึง การเติบโตที่ช้าลงอย่างมากของอุปสงค์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม เป็นเหตุผลในการเปลี่ยนแปลง บริษัทได้ประกาศเมื่อเดือนที่แล้วแล้วว่ายกเลิกแผนการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเป็นของตัวเอง

การปรับลดคาดการณ์กำไร

จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้โฟล์กสวาเก้นปรับลดการคาดการณ์อัตรากำไรจากการดำเนินงานสำหรับปี 2025 ลงเหลือช่วง 2-3% จากการคาดการณ์เดิมที่ 4-5% ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่นักลงทุนติดตามอย่างใกล้ชิด

ปอร์เช่ต่อสู้มานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลงสำหรับรุ่นหรูในตลาดจีน ในเดือนกุมภาพันธ์ บริษัทประกาศเลิกจ้าง 1,900 ตำแหน่ง และเตือนถึงการลดต้นทุนเพิ่มเติม เป็นสัญญาณที่แสดงถึงสถานการณ์ที่เลวร้าย ปอร์เช่จะถูกตัดออกจากดัชนี DAX ของเยอรมนีในวันจันทร์หลังจากราคาหุ้นร่วงลง

ความท้าทายของกลุ่มโฟล์กสวาเก้น

กลุ่มโฟล์กสวาเก้นโดยรวมเผชิญความยากลำบาก บริษัททำข้อตกลงกับสหภาพแรงงานเพื่อลดงาน 35,000 ตำแหน่งภายในปี 2030 ที่แบรนด์โฟล์กสวาเก้นในเยอรมนี เพื่อลดต้นทุน ภาษีศุลกากรของทรัมป์เพิ่มปัญหาให้โฟล์กสวาเก้น โดยกลุ่มรายงานผลกระทบ 3.1 พันล้านยูโรจากภาษีดังกล่าวในครึ่งปีแรก

จีนซึ่งเป็นแหล่งขายหลักมานาน กลายเป็นสนามรบที่ดุเดือดสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ เนื่องจากต้องต่อสู้กับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากคู่แข่งในประเทศอย่างบีวายดี BMW และเมอร์เซเดส-เบนซ์ รวมถึงซัพพลายเออร์รถยนต์เยอรมันหลายราย ก็ลดต้นทุนในขณะที่ต่อสู้เพื่อให้ทันคู่แข่งใหม่ที่เกิดขึ้นจำนวนมาก