Nvidia ผู้ผลิตชิปกราฟิกและชิป AI ชั้นนำของโลก รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ที่สูงกว่าคาดการณ์อย่างมาก โดยกำไรแตะ 31.9 พันล้านดอลลาร์ จากรายได้ 57 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับขึ้นกว่า 5% หลังการประกาศผลประกอบการ
Jensen Huang ปฏิเสธกระแส “ฟองสบู่ AI” ชี้ตลาดกำลังเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่
เจนเซน หวง (Jensen Huang) ซีอีโอของ Nvidia ตอบโต้ความกังวลจากนักวิเคราะห์วอลสตรีทเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของฟองสบู่ AI โดยย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่สัญญาณฟองสบู่ แต่เป็น “ดีมานด์จริง” จากการเปลี่ยนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลก
เขาอธิบายว่าองค์กรขนาดใหญ่กำลังย้ายจากโครงสร้างระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ CPU แบบเดิม ไปสู่ระบบประมวลผล AI ที่ต้องใช้ GPU ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลักของ Nvidia ทำให้ความต้องการชิป AI เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รายได้ศูนย์ข้อมูลโตพุ่ง 60% หนุนยอดขาย GPU Blackwell ทะลุเพดาน
รายได้ของ Nvidia ในไตรมาสที่ผ่านมาเติบโต 60% YoY โดยมีแรงสนับสนุนหลักจากธุรกิจ GPU สำหรับศูนย์ข้อมูล (Data Center) ซึ่งเติบโตอย่างร้อนแรงตามการขยายตัวของบริการ AI และคลาวด์
หวงเปิดเผยว่า GPU รุ่นเรือธงอย่าง Blackwell มียอดสั่งซื้อ “เกินขีดจำกัด” และสินค้าสำหรับตลาดคลาวด์ “ขายหมดแล้ว” สะท้อนความต้องการโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ยังคงเร่งตัวต่อเนื่อง
คาดรายได้ไตรมาสหน้าแตะ 65 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าวอลสตรีทคาด 3 พันล้าน
สำหรับไตรมาสปัจจุบัน Nvidia ประเมินรายได้ที่ 65 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าประมาณการนักวิเคราะห์กว่า 3 พันล้านดอลลาร์ ดันมูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นแตะ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
แดน ไอฟส์ (Dan Ives) นักวิเคราะห์จาก Wedbush ระบุว่าผลประกอบการครั้งนี้คือช่วงเวลา “เปิดแชมเปญฉลอง” ของภาคเทคโนโลยี เนื่องจาก Nvidia ยังคงเป็นหัวรถจักรสำคัญของอุตสาหกรรม AI
ยอดขายในจีนร่วง! จากข้อจำกัดส่งออกชิป AI และการแข่งขันที่สูงขึ้น
แม้ภาพรวมธุรกิจอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ Nvidia ยังคงเผชิญความท้าทายจากตลาดจีน เนื่องจากข้อจำกัดการส่งออกชิป AI ของสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้ยอดขาย GPU รุ่น H-20 ซึ่งออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดจีน ทำได้เพียง 50 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสล่าสุด
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการแข่งขันจากผู้ผลิตชิปจีนที่เพิ่มขึ้นยังคงเป็นแรงกดดันสำคัญต่อรายได้ในภูมิภาคนี้



