ศาลปกครอง พิพากษายกฟ้อง คดีเพิกถอนมติ กสทช.ควบรวมทรู-ดีแทค

26 ก.ย. 2568 - 09:30

  • ศาลปกครองกลางตัดสินยกฟ้องคดีเพิกถอนมติ กสทช.

  • ถือเป็นการจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ และมติของ กสทช.เป็นไปตามกฎหมาย

  • อีกทั้ง กสทช.ยังมีอำนาจในการออกมาตรการกำกับโดยเฉพาะได้

ศาลปกครอง พิพากษายกฟ้อง คดีเพิกถอนมติ กสทช.ควบรวมทรู-ดีแทค

ศาลปกครองกลางยกฟ้อง คดีเพิกถอนมติ กสทช. รับทราบการควบรวม ‘ทรู–ดีแทค’ ถือว่าเป็นการตั้งนิติบุคคลใหม่  และ กสทช.ยังสามารถออกมาตรการกำกับโดยเฉพาะได้

ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาในคดีที่สภาองค์กรของผู้บริโภคและพวกรวม 5 คน ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรณีการมีมติรับทราบการควบรวมธุรกิจระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ในการประชุมนัดพิเศษ ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565

คำฟ้องระบุว่า มติดังกล่าวเป็นการอนุญาตทางอ้อมให้เกิดการผูกขาด อีกทั้งการแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เป็นที่ปรึกษาอิสระ อาจไม่เป็นไปตามข้อกำหนดและขาดความเป็นกลาง ผู้ฟ้องจึงขอให้ศาลเพิกถอนมติและคำสั่งที่เกี่ยวข้อง

ศาลปกครองกลางพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ที่ปรึกษาอิสระไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจหรือผลประโยชน์ทับซ้อนกับทรูและดีแทค การแต่งตั้งจึงชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งมติที่ กสทช. มีผลเฉพาะราย ไม่ใช่กฎเกณฑ์ที่ต้องรับฟังความคิดเห็นสาธารณะตามกฎหมาย อีกทั้งการประชุมที่คะแนนเสียงของกรรมการ กสทช. เสมอกัน 2 ต่อ 2 (งดออกเสียง 1) และประธานใช้สิทธิชี้ขาด ถือว่าชอบด้วยระเบียบการประชุม

นอกจากนี้ ศาลยังวินิจฉัยว่า การรวมธุรกิจครั้งนี้เป็นการควบรวมกันจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ มิใช่การเข้าถือหุ้นหรือสินทรัพย์ตามลักษณะการผูกขาดในบริการประเภทเดียวกันที่ต้องห้าม จึงอยู่ในอำนาจที่ กสทช. จะรับทราบและกำหนดมาตรการกำกับเฉพาะได้

ด้วยเหตุผลทั้งหมด ศาลปกครองกลางจึงพิพากษายกฟ้อง คำร้องของสภาองค์กรของผู้บริโภคและพวก ทำให้มติ กสทช. รับทราบการควบรวมทรู–ดีแทค ยังคงมีผลตามกฎหมายต่อไป

S__38109237_0.jpg
S__38109239_0.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์