กรมการค้าภายใน เดินหน้ากำกับดูแลการค้าชายแดนอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดบึงกาฬ เพื่อควบคุมราคาสินค้าเกษตรและป้องกันการลักลอบขนย้ายสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต หวังสร้างความเป็นธรรมแก่เกษตรกรไทย พร้อมเตรียมเพิ่มพื้นที่ควบคุมอีก 4 อำเภอ หวังสกัดปัญหาต้นทาง
อุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เผย ตามนโยบายของ พิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้ตรวจเข้มการค้าสินค้าเกษตรบริเวณแนวชายแดน โดยเฉพาะ การรับซื้อ การลักลอบขนย้าย และราคาสินค้าทางการเกษตรที่มีผลต่อเสถียรภาพตลาด ล่าสุด เจ้าหน้าที่กรมฯ ลงพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ เพื่อร่วมประชุมซักซ้อมการปฏิบัติตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ ‘ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์’ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสินค้าควบคุมสำคัญ
ในการประชุม มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ศุลกากร นายตรวจชั่งตวงวัด และผู้ประกอบการในพื้นที่ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีการชี้แจง หลักเกณฑ์และวิธีการขออนุญาตขนย้ายสินค้า ให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมรับฟังปัญหาและให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการเพื่อป้องกันความผิดพลาดในการปฏิบัติงาน
รองอธิบดียังระบุว่า ขณะนี้กรมฯ ได้ออกมาตรการ ห้ามขนย้ายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่ 10,000 กิโลกรัมขึ้นไป เข้า-ออกเขตควบคุม 1 เขต 57 อำเภอ 17 จังหวัด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะมีการเพิ่มพื้นที่ควบคุม ได้แก่
• อ.จะนะ จ.สงขลา
• อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี
• อ.เมือง จ.บึงกาฬ
• อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย
ทั้งนี้ ผู้ฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับสินค้าเกษตรอื่นที่อยู่ในความสนใจของกรม ได้แก่ ข้าวเปลือก มันสำปะหลัง น้ำมันปาล์ม กระเทียม และหอมหัวใหญ่ ซึ่งอยู่ระหว่างการเฝ้าระวังด้านราคาและปริมาณอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการผูกขาดและบิดเบือนกลไกตลาด
