Meta เปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่ในงานประชุมนักพัฒนาประจำปี โดยเน้นการลงทุนในอนาคตของเทคโนโลยีเมตาเวิร์สแม้จะเผชิญกับการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
บริษัทเปิดตัวแว่นตา Meta Ray-Ban Display ที่มาพร้อมหน้าจอในตัว ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถดูข้อความ รูปภาพ และข้อมูลต่างๆ ได้เหมือนกับการมองหน้าจอสมาร์ทโฟน สินค้าใหม่นี้ยังมาพร้อมสายรัดเซ็นเซอร์ที่เรียกว่า ‘neural bands’ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมแว่นตาด้วยการเคลื่อนไหวเล็กน้อยของนิ้ว ในราคา 799 ดอลลาร์
วิสัยทัศน์ของซัคเกอร์เบิร์ก
มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Meta กล่าวในงานประชุมว่า เป้าหมายของเราคือสร้างแว่นตาที่ดูดี และนำเสนอปัญญาประดิษฐ์ระดับสูง พร้อมกับความรู้สึกของการปรากฏตัวผ่านโฮโลแกรมที่มีความสมจริง เขายังเสริมว่าแนวคิดเหล่านี้รวมกันคือสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า เมตาเวิร์ส
การเดิมพันระยะยาว
ซัคเกอร์เบิร์ก คาดการณ์ว่าแว่นตาอัจฉริยะที่ผสานปัญญาประดิษฐ์จะเป็นแพลตฟอร์มหลักของอนาคต และจะทดแทนสมาร์ทโฟนในที่สุด บริษัทเริ่มลงทุนอย่างหนักในเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือนและเมตาเวิร์สเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว โดยเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก Facebook เป็น Meta ในปลายปี 2021
ความท้าทายทางธุรกิจ
แม้จะมีนวัตกรรมใหม่ แต่หน่วยงาน Reality Labs ซึ่งเป็นแผนกพัฒนาของ Meta ยังคงประสบการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ หน่วยงานดังกล่าวขาดทุน 4.5 พันล้านดอลลาร์ จากรายได้เพียง 370 ล้านดอลลาร์
ลีโอ เกบบี้ นักวิเคราะห์หลักจาก CCS Insight กล่าวว่า ไม่มีโอกาสจริงที่แว่นตาอัจฉริยะจะทำให้แผนกนี้มีกำไรในระยะสั้น แต่นี่คือการเล่นในระยะยาว เพื่อหลุดพ้นจากการพึ่พิงสมาร์ทโฟนที่ Meta ถูกจำกัดโดย Apple และ Google และเพื่อควบคุมอนาคตของตัวเองในอุปกรณ์สวมใส่
แนวโน้มตลาดแว่นตาอัจฉริยะ
ตลาดแว่นตาอัจฉริยะทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว และคาดว่าจะเติบโตเป็น 8.26 พันล้านดอลลาร์ต่อปีภายในสิ้นทศวรรษนี้ ตามรายงานของบริษัทวิเคราะห์ Grand View Research แม้ว่าแว่นตาอัจฉริยะจะถูกพูดถึงมานานกว่าทศวรรษ ตั้งแต่ Google เปิดตัว Glass ในปี 2013 ซึ่งต่อมาได้หยุดผลิต แต่ Meta ประสบความสำเร็จมากขึ้นกับแว่นตาที่พัฒนาร่วมกับ Ray-Ban ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ เช่น กล้องในตัว การเล่นเพลง และการโต้ตอบด้วยเสียงผ่านปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท