บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG ประกาศต่อยอดความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร เปิดโครงการ “จุดไฟปรุงฝัน ปีที่ 2 (รุ่น 2)” เดินหน้าช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ด้านร้านอาหารและเบเกอรี่ในกรุงเทพฯ ต่อเนื่อง เพื่อพลิกสถานการณ์ความเปราะบางในอุตสาหกรรมอาหาร ยกระดับจากครัวขนาดเล็กสู่แบรนด์ที่ยั่งยืน พร้อมต่อยอดเป็น Soft Power สร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ให้เศรษฐกิจไทย
โครงการนี้เกิดจากความตระหนักถึงสถานการณ์ SME ด้านร้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่แม้จะเป็นหัวใจของเศรษฐกิจไทย แต่ยังต้องเผชิญความเสี่ยงสูง โดยข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ระบุว่า SME ไทยมีมากถึง 3.27 ล้านราย หรือคิดเป็น 99.5% ของกิจการทั้งหมดในประเทศ เฉพาะในกรุงเทพฯ มีมากกว่า 548,000 ราย ทว่าร้านอาหารกว่า 50% ปิดตัวในปีแรก และมากกว่า 65% ไม่รอดใน 3 ปี แม้กรุงเทพฯ จะได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองแห่งอาหารอันดับ 2 ของโลกจาก Time Out ก็ตาม
ดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ซีอีโอ KCG เผยถึงที่มาของโครงการว่า เรากำลังเผชิญโจทย์ใหญ่ด้านเศรษฐกิจและการแข่งขันในธุรกิจอาหาร โครงการนี้ไม่เพียงแค่ให้ความรู้ แต่เป็นการออกแบบเครื่องมือให้ SME ‘รอดและโตได้จริง’ เพื่อให้ครัวเล็กๆ กลายเป็นพลังสำคัญในโครงสร้างเศรษฐกิจเมือง

หลักสูตรเข้มข้น ‘ครบวงจร’ 7 ครั้ง ติดอาวุธทั้งธุรกิจและอาหาร
โครงการ ‘จุดไฟปรุงฝัน’ เปิดรับสมัครตั้งแต่ 18 กันยายน - 3 ตุลาคม 2568 โดยคัดเลือกผู้ประกอบการที่พร้อมพัฒนาเข้าร่วมเรียนรู้ตลอด 7 ครั้ง ระหว่าง 4 พฤศจิกายน - 9 ธันวาคม 2568 เน้นการพัฒนา 2 ด้านหลัก ได้แก่
- ธุรกิจ การสร้างแบรนด์ การตลาดออนไลน์ด้วย AI การบริหารบัญชีและการเงิน
- อาหาร การบริหารจัดการครัวแบบมืออาชีพ พร้อมสร้างเมนูซิกเนเจอร์
ผู้เข้าร่วมยังจะได้เครือข่ายเชื่อมโยงกับเชฟชื่อดัง เช่น เชฟบิ๊บ-ชัชชญา, เชฟพลอย-ฐาติกานต์ และเชฟเมย์-พัทธนันท์ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากแวดวงการเงินและการตลาดของ SME
ผลักดัน Soft Power ไทยในระดับโลก
ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง KCG และ กทม. มุ่งหมายให้ “ผู้ประกอบการตัวเล็ก” ได้ก้าวสู่ระดับสากล ผ่านการผลักดันเชิงรุกทั้งด้านองค์ความรู้ การสร้างรสชาติเฉพาะตัว และการเสริมศักยภาพธุรกิจ
“เมื่อ SME แข็งแรง เมืองก็แข็งแรง อาหารที่ดีนำไปสู่ชีวิตที่ดี และ Soft Power ด้านอาหารคือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่มีชีวิต”
— ดำรงชัย กล่าว


