โดนใจประชาชนทั่วประเทศ หลังรัฐบาลเดินหน้าโครงการ ‘คนละครึ่ง พลัส’ กระตุ้นกำลังซื้อช่วงปลายปี ล่าสุดมียอดใช้จ่ายรวมกว่า 3,181 ล้านบาท ภายในเวลาไม่ถึงเดือน คาดช่วยหนุนเศรษฐกิจไตรมาส 4 ปี 2568 ขยายตัวได้ดี พร้อมเตือนผู้ประกอบการอย่าฉวยโอกาสปรับราคาสินค้าเกินควร
สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการ ‘คนละครึ่ง พลัส’ ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ประชาชนออกมาจับจ่ายอย่างคึกคักตั้งแต่วันแรก โดย ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2568 (เวลา 17.00 น.) มียอดใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 3,181,265,353 บาท แบ่งเป็นเงินจากประชาชน 1,575,868,956 บาท จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกว่า 728,000 รายทั่วประเทศ
โฆษกรัฐบาลระบุว่า โครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในชุดนโยบาย ‘Quick Big Win’ ที่มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี เพื่อสร้างแรงส่งต่อการบริโภคภายในประเทศ โดยกระทรวงการคลังได้ปรับประมาณการ GDP ปี 2568 ขึ้นเป็น 2.4% ต่อปี (จาก 2.2%) โดยได้รับแรงหนุนจากโครงการ ‘คนละครึ่ง พลัส’ และ “เพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” รวมถึงความร่วมมือจาก Food Delivery Platform รายใหญ่ที่เข้าร่วมเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกันยายน 2568 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 50.7 จาก 50.1 ในเดือนก่อนหน้า สะท้อนความเชื่อมั่นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง
นายสิริพงศ์ ยังย้ำเตือนผู้ประกอบการ อย่าฉวยโอกาสปรับราคาสินค้าเกินสมควร โดยรัฐบาลติดตามธุรกรรมผ่านระบบ Data Analytics เพื่อป้องกันการเอาเปรียบผู้บริโภคและพฤติกรรมทุจริต พร้อมยืนยันว่า หากพบความผิด จะดำเนินคดีถึงที่สุด
“มาตรการคนละครึ่ง พลัส สะท้อนแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ ‘กระตุ้นสั้น ได้ผลยาว กระจายตัวถึงฐานราก’ ซึ่งจะเป็นแรงขับสำคัญให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ขยายตัวได้อย่างมั่นคง”
— สิริพงศ์ กล่าว


