รัฐดัน ‘จ่ายบิลตรง’ เป็นเครดิต หนุนคนไร้สลิปกู้ง่ายขึ้น

13 ก.ค. 2568 - 06:21

  • รัฐเปิดทางกู้เงินยุคใหม่! หนุนใช้ ‘ค่าน้ำ-ค่าไฟ’ เป็นเครดิต ผ่านแอปฯ ‘ทางรัฐ’

  • ชี้ สะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องมีรายได้ประจำ

  • อีกก้าวของรัฐบาลดิจิทัล ที่เปลี่ยน ‘ข้อมูลรายจ่ายประจำ’ ให้เป็น ‘ใบเบิกทางทางการเงิน’ สำหรับคนไทย

รัฐดัน ‘จ่ายบิลตรง’ เป็นเครดิต หนุนคนไร้สลิปกู้ง่ายขึ้น

ในยุคเศรษฐกิจที่คนจำนวนมากยังขาดหลักฐานรายได้แบบเดิมๆ รัฐบาลเดินเกมดิจิทัลเต็มสูบ เปิดประตูใหม่ให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนง่ายขึ้น ผ่านข้อมูลที่คนมีอยู่แล้ว จาก ‘ค่าน้ำ’ และ ‘ค่าไฟ’

ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงเรื่องนี้ว่า รัฐบาล โดยความร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) และหน่วยงานด้านสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้าและประปา ได้เปิดบริการใหม่ภายใต้โครงการ ‘Your Data’ ผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ซึ่งประชาชนสามารถขอประวัติการใช้และชำระค่าน้ำ-ค่าไฟย้อนหลัง 6 เดือนได้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อนำไปใช้ประกอบการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ

บริการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการปฏิรูปการเงินภาคประชาชนในเชิงโครงสร้าง โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่มีสลิปเงินเดือน ไม่มีรายได้ประจำ หรือเป็นแรงงานอิสระ ได้ใช้ “ข้อมูลการใช้ชีวิตประจำวัน” มาเป็นหลักฐานทางการเงินรูปแบบใหม่ ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความเท่าเทียมในการเข้าถึงแหล่งทุนแล้ว ยังช่วยให้สถาบันการเงินลดต้นทุนในการพิจารณาและอนุมัติสินเชื่ออีกด้วย

ข้อมูลจากแอปฯ ‘ทางรัฐ’ ถูกออกแบบให้ปลอดภัย มีลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ป้องกันการปลอมแปลง โดยผู้ให้บริการสินเชื่อสามารถนำข้อมูลไปประมวลผลได้โดยอัตโนมัติ (machine-readable)

สำหรับผู้สนใจ เพียงลงทะเบียนและยืนยันตัวตนในแอปฯ ‘ทางรัฐ’ จากนั้นเข้าเมนู ‘การเงิน/ประกัน’ เพื่อขอเอกสารประกอบการสมัครสินเชื่อ ระบบจะจัดเก็บไฟล์ไว้ในโทรศัพท์ พร้อมยื่นขอสินเชื่อได้ทันที

รองโฆษกรัฐบาล ย้ำว่า นี่คือการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาเปิดโอกาสให้ประชาชนก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อเพียงเพราะไม่มีเอกสารรายได้แบบเดิม การมีวินัยในการจ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟกลายเป็นแต้มต่อสำคัญในยุคการเงินใหม่

บริการนี้เริ่มเปิดใช้งานตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยประชาชนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม และตรวจสอบรายชื่อสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ได้ที่เว็บไซต์ ธนาคารแห่งประเทศไทย www.bot.or.th

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์