สร้างรายได้จากโซลาร์รูฟท็อป แพลตฟอร์ม GreenPass

4 ก.ย. 2568 - 03:34

  • สร้างรายได้จากโซลาร์ผ่านแพลตฟอร์ม GreenPass

  • ขึ้นทะเบียนและขายใบรับรองพลังงานหมุนเวียน

  • คาดช่วยลดค่าไฟรวมกว่า 14.5 ล้านบาทต่อปี

สร้างรายได้จากโซลาร์รูฟท็อป แพลตฟอร์ม GreenPass

กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ตลาดโซลาร์รูฟท็อปโดยเฉพาะในภาคครัวเรือนและธุรกิจ SME มีแนวโน้มตื่นตัวและให้ความสนใจในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคามากขึ้น สาเหตุจากต้นทุนการติดตั้งปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับนโยบายส่งเสริมจากภาครัฐ โดยคาดว่าปี พ.ศ. 2568-2578 จะมีจำนวนหลังคาเรือนที่ติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มขึ้นมากกว่า 100,000 หลังคาเรือนทั่วประเทศ โดยธนาคารกสิกรไทยได้มีการพัฒนาแพลตฟอร์ม GreenPass สำหรับการขึ้นทะเบียนและซื้อขายใบรับรองการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) เพื่อสนับสนุนให้ภาคประชาชนและผู้ประกอบการ SME สร้างรายได้เพิ่ม จากการใช้ประโยชน์จากการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปได้อย่างเต็มที่ และคืนทุนจากการติดตั้งได้เร็วขึ้น 

สำหรับความร่วมมือระหว่างธนาคารกสิกรไทย และบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ครั้งนี้ นับเป็นการยกระดับการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายแรกในไทย ด้วยการสนับสนุนให้อาคารสำนักงาน พื้นที่โครงการ ตลอดจนที่อยู่อาศัยของลูกบ้านที่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป สามารถขึ้นทะเบียน REC ผ่านแพลตฟอร์ม GreenPass ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และไม่มีค่าใช้จ่าย ถือเป็นการเปิดโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มเติมอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทั้งสององค์กรในการผลักดันแนวคิด Sustainable Living ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง

economic-business-thai-household-rooftop-solar-SPACEBAR-Photo01.jpg

สุดารัตน์ เจริญเกตุมงคล รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมมือกันระหว่าง SC Asset และ ธนาคารกสิกรไทยในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของเราในการยกระดับการใช้พลังงานสะอาดในโครงการที่อยู่อาศัย ควบคู่กับการสร้างคุณค่าเพิ่มให้ลูกค้า และสนับสนุนการสร้างสังคมพลังงานยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจ SCero Mission ที่ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 100,000 ตัน ภายในปี 2573 และมุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2608

SC Asset ถือเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกในประเทศไทยที่ชวนลูกบ้านขึ้นทะเบียนซื้อ–ขาย REC โดยเริ่มจากกลุ่มลูกบ้านที่ติดโซลาร์แล้วกว่า 600 ยูนิต ครอบคลุมทั้งบ้านและคลับเฮ้าส์ในโครงการเก่าและโครงการใหม่ และจะขยายเพิ่มต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 2 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และลดค่าไฟรวมเกือบ 14.5 ล้านบาทต่อปี นอกจากกลุ่มบ้านพักอาศัยแล้ว กลุ่มธุรกิจอาคารเพื่อเช่า ได้แก่ อาคาร SCT, อาคารชินวัตร 3 (สำนักงานใหญ่ของ SC Asset) และ The Junction ยังได้เข้าร่วมการขึ้นทะเบียนในครั้งนี้ด้วย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์