เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาชา จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2568 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ได้มีมติให้บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น 100% และมีทุนจดทะเบียน 620 ล้านบาท ลงทุนในบริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด (IMP) ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหารประเภทสุกี้ และ บาร์บีคิว ภายได้แบรนด์ลัคกี้สุกี้ (Lucky Suki) และ ลัคกี้บาร์บีคิว (Lucky BBQ) โดยมีรายละเอียดดังนี้
ลักษณะธุรกิจ MB เป็นบริษัทที่จัดตั้งเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 เพื่อประกอบธุรกิจ ร้านอาหารประเภทสุกี้ และ บาร์บีคิวภายใต้แบรนด์ ‘ลัคกี้สุกี้’ และ ‘ลัคกี้บาร์บีคิว’ ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ในรูปแบบบุฟเฟต์ปัจจุบัน ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2568 มีสาขาที่เปิดดำเนินกิจการทั้งหมด 38 สาขา ซึ่งประกอบไปด้วยร้านลัคกี้สุกี้ จำนวน 27 สาขา และลัคกี้บาร์บีคิว จำนวน 11 สาขา
วัน เดือน ปี ที่ทำรายการ CRG มีแผนจะเข้าทำสัญญาในการเข้าลงทุนและ สัญญาผู้ถือหุ้น และดำเนินธุรกรรมการลงทุนและ โอนหุ้นให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2568
ลักษณะธุรกรรมCRG มีการลงทุนซื้อหุ้นสามัญของ MP จากผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 35,000 หุ้น และซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ MP จำนวน105,000 หุ้น โดยใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 940 ล้านบาท โดยภายหลังการเข้าทำรายการในครั้งนี้ CRG จะถือหุ้นใน MP จำนวนรวมทั้งสิ้น 140,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 40 ของจำนวนหุ้นจดทะเบียนทั้งหมดภายหลังการเพิ่มทุนของ MP
สำหรับบริษัท มิเคิล แพลนเน็ต จำกัด ผู้พัฒนาแบรนด์บุฟเฟต์ชื่อดัง Lucky Suki และ Lucky BBQเดินหน้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 โดยมีทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ 4 รายเป็นผู้วางรากฐานธุรกิจ พร้อมเป้าหมายยกระดับประสบการณ์ร้านอาหารบุฟเฟต์ให้เข้าถึงง่าย คุ้มค่า และมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล
บริษัทเริ่มเปิดร้านภายใต้แบรนด์ Lucky Suki สาขาแรกเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 ณ People Park Community Mall โดยชูจุดขายร้านสุกี้สไตล์จีนโมเดิร์น ใช้วัตถุดิบคุณภาพ คัดสรรวัตถุดิบสดใหม่ และออกแบบประสบการณ์ลูกค้าแบบครบวงจร ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีและเติบโตอย่างรวดเร็ว กระทั่งต่อยอดสู่แบรนด์ Lucky BBQ เพื่อขยายฐานลูกค้าครอบคลุมกลุ่มปิ้งย่างบุฟเฟต์อีกด้วย
ปัจจุบัน MP มีสาขาในเครือรวม 38 สาขา แบ่งเป็น Lucky Suki จำนวน 27 สาขา และ Lucky BBQ จำนวน 11 สาขา โดยเน้นทำเลคอมมิวนิตี้มอลล์และศูนย์การค้าหลักทั่วประเทศ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าครอบครัว คนทำงาน และวัยรุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านผลการดำเนินงาน บริษัทมีการเติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยมีรายได้ดังนี้
· ปี 2565 รายได้ประมาณ 80 ล้านบาท
· ปี 2566 รายได้ประมาณ 409 ล้านบาท
· ปี 2567 รายได้ทะลุ 1,015 ล้านบาท พร้อมกำไรสุทธิ 108 ล้านบาท
บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มในปี 2568 สู่ระดับ 36–40 สาขา และเดินหน้าต่อยอดแบรนด์ให้เป็นผู้นำในตลาดบุฟเฟต์สุกี้–ปิ้งย่างของไทย โดยยังคงรักษาหลักการด้านคุณภาพ วัตถุดิบมาตรฐาน และการให้บริการระดับมืออาชีพเป็นหัวใจของการเติบโต
Miracle Planet ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นหน้าใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมร้านอาหารไทย และยังเป็นแบรนด์ที่ถูกจับตาว่าจะก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดบุฟเฟต์ในอนาคตอันใกล้
