ธนาคารพาณิชย์ Q3/68 ยังแกร่ง แม้สินเชื่อหด-NPL ทรงตัว

18 พ.ย. 2568 - 08:22

  • สินเชื่อรวมยังหดตัวต่อเนื่องราว -1.0%

  • โครงการคุณสู้ เราช่วย ยังช่วยประคองภาระหนี้ของ SMEs-ครัวเรือน

  • สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP และหนี้ธุรกิจปรับลดลงต่อเนื่อง

ธนาคารพาณิชย์ Q3/68 ยังแกร่ง แม้สินเชื่อหด-NPL ทรงตัว

ธนาคารแห่งประเทศไทย สรุปภาพรวมธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 3 ปี 2568 เผยระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง

ด้านสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ (รวมเครือ) ไตรมาส 3 ปี 2568 โดยรวมยังหดตัว
ใกล้เคียงไตรมาสก่อนอยู่ที่ร้อยละ -1.0 จากระยะเดียวกันปีก่อน จากสินเชื่อธุรกิจ SMEs และสินเชื่ออุปโภคบริโภคที่ยังหดตัวต่อเนื่อง ตามความเสี่ยงด้านเครดิตที่ยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ขยายตัวเล็กน้อย

ทั้งนี้ ความต้องการสินเชื่อของธุรกิจขนาดใหญ่ลดลงในขณะที่การชำระคืนหนี้เพิ่มขึ้น ด้านคุณภาพสินเชื่อ NPL (Stage 3) ในภาพรวมค่อนข้างทรงตัว จาก New NPL ที่ชะลอลงเป็นสำคัญ ส่งผลให้ยอดคงค้างสินเชื่อ Stage 3 ไตรมาส 3 ปี 2568 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 544.0 พันล้านบาท

ทั้งนี้ สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวม ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 2.94 ส่วนหนึ่งจากผลของฐานสินเชื่อที่หดตัว สำหรับสินเชื่อ Stage 2 ปรับเพิ่มขึ้น ตามการจัดชั้นเชิงคุณภาพจากปัจจัยเฉพาะรายของลูกหนี้ธุรกิจขนาดใหญ่ และส่วนหนึ่งจากการปรับชั้นดีขึ้นของ NPL ส่งผลให้สัดส่วน stage 2 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 7.24  อย่างไรก็ดี ธนาคารพาณิชย์ยังให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบริหารจัดการคุณภาพหนี้  สำหรับผลการดำเนินงานปรับลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลง ตามการหดตัวของสินเชื่อ และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้ ทั้งจากการปรับลดโดยธนาคารและตามมาตรการคุณสู้ เราช่วย

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามภาวะการเงินที่ยังตึงตัวและความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ SMEs และครัวเรือนท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังชะลอลงจากผลกระทบของมาตรการภาษีสหรัฐฯ และรายได้ที่ฟื้นตัวช้า ทั้งนี้ ความช่วยเหลือภายใต้โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” มีส่วนช่วยบรรเทาภาระหนี้ของ SMEs และครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ไตรมาส 2 ปี 2568 ปรับลดลงจากไตรมาสก่อน จากสินเชื่อภาคครัวเรือนที่ขยายตัวชะลอลงเป็นสำคัญ  ขณะที่ภาคธุรกิจมีสัดส่วนหนี้สินต่อ GDP ลดลงตามการก่อหนี้ที่ลดลงเป็นสำคัญ ด้านความสามารถในการทำกำไรลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนเกือบทุกประเภทธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตามภาวะตลาดที่อยู่อาศัยที่ชะลอตัว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์