ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และกระแสข่าวแรงงานกัมพูชาบางส่วนถูกเรียกตัวกลับประเทศ แต่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่กลับไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ทั้งด้านตลาดแรงงานและความสัมพันธ์ระหว่างแรงงานต่างด้าวกับนายจ้าง
แรงงานกัมพูชามีน้อย-เหนือพึ่งแรงงานเมียนมา
ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานจัดหางานจังหวัดเชียงใหม่ (6 ส.ค. 2568) ระบุว่า ปัจจุบันเชียงใหม่มีแรงงานต่างด้าว 4 สัญชาติที่ขึ้นทะเบียนถูกกฎหมายรวม 43,574 ราย แบ่งเป็นกัมพูชา 188 ราย, ลาว 360 ราย, เมียนมา 43,011 ราย และเวียดนาม 15 ราย หากนับแรงงานเมียนมาที่อยู่ระหว่างรอใบอนุญาตและได้รับผ่อนผันอีกกว่า 93,000 ราย จะทำให้เชียงใหม่มีแรงงานเมียนมามากถึงกว่า 136,000 คน ซึ่งสะท้อนชัดว่าตลาดแรงงานในภาคเหนือโดยเฉพาะเชียงใหม่ พึ่งพาแรงงานเมียนมาเป็นหลัก ไม่ใช่กัมพูชา

ผู้ประกอบการ ยัน แรงงานกัมพูชาทำงานปกติ มีเครียดบ้าง
ผู้ประกอบการด้านแรงงานต่างด้าวในเชียงใหม่ ซึ่งทำงานด้านนี้มากว่า 16 ปี ยืนยันว่า สถานการณ์การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของแรงงานกัมพูชาในเชียงใหม่ เพราะมีจำนวนน้อยมาก และส่วนใหญ่ยังคงทำงานตามปกติ เพียงแต่บางคนอาจได้รับผลกระทบทางจิตใจ เนื่องจากครอบครัวในกัมพูชาถูกกระแสชาตินิยมกดดันให้กลับบ้านเกิด
เกษตรกรรมใช้แรงงานกัมพูชา-ทดแทนได้หากจำเป็น
แรงงานกัมพูชาในเชียงใหม่ ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเกษตรกรรม หากสถานการณ์ตึงเครียดและมีการกลับประเทศ ก็สามารถทดแทนได้ด้วยแรงงานเมียนมาที่มีจำนวนมากอยู่แล้ว จึงไม่กระทบต่อระบบการจ้างงานในพื้นที่

มุมมองภาพรวมแรงงานไทย
ผู้ประกอบการย้ำว่า ไทยยังจำเป็นต้องพึ่งแรงงานต่างด้าวในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเมียนมา ลาว หรือกัมพูชา หากแรงงานทำงานดี มีวินัย และปฏิบัติตามกฎหมาย ก็ถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่หากใครละเมิดกฎหมายก็ต้องจัดการอย่างตรงไปตรงมา พร้อมชี้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างแรงงานกัมพูชากับคนเชียงใหม่ยังคงเป็นปกติ ไม่พบความขัดแย้งหรือการทำร้ายร่างกายเหมือนที่กังวลกัน
