กลุ่มบริษัท Prince Holding Group แห่งกัมพูชา ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดที่อ้างว่าผู้ก่อตั้งบริษัท เฉิน จื้อ ดำเนินธุรกิจหลอกลวงออนไลน์ข้ามชาติ หลังจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหลายประเทศยึดทรัพย์สินของบริษัทมูลค่ารวมกว่า 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
การยึดทรัพย์สินครั้งใหญ่สุดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เปิดเผยคำฟ้องต่อ เฉิน จื้อ โดยกล่าวหาว่าเขาควบคุมค่ายแรงงานบังคับในกัมพูชา ซึ่งใช้คนงานที่ถูกค้ามนุษย์ดำเนินการหลอกลวงออนไลน์ นักสืบสหรัฐยึดเหรียญ Bitcoin มูลค่าประมาณ 1.5 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งถือเป็นการดำเนินคดียึดทรัพย์สินครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรม
อังกฤษได้อายัดทรัพย์สินทางธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์มูลค่ากว่า 130 ล้านเหรียญ ขณะที่ไต้หวัน สิงคโปร์ และฮ่องกงต่างก็ดำเนินการยึดทรัพย์สินภายในประเทศแต่ละแห่งมูลค่าสูงถึง 350 ล้านเหรียญ
Prince Group ยืนยันความบริสุทธิ์
"กลุ่มบริษัท Prince Group ปฏิเสธอย่างเด็ดขาดต่อแนวคิดที่ว่าบริษัทหรือประธานกรรมการ เฉิน จื้อ มีส่วนร่วมในกิจกรรมผิดกฎหมายใดๆ" บริษัทระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บริษัทออกแถลงการณ์นับตั้งแต่การปราบปรามเริ่มต้น
บริษัทเสริมว่า "ข้อกล่าวหาล่าสุดเหล่านี้ไม่มีมูลความจริงและดูเหมือนจะมุ่งหมายเพื่อสร้างเหตุผลในการยึดทรัพย์สินอย่างผิดกฎหมายมูลค่าหลายพันล้านเหรียญ เราเชื่อมั่นว่าเมื่อข้อเท็จจริงเปิดเผยออกมา กลุ่มบริษัท Prince และประธานกรรมการจะได้รับการพิสูจน์ความบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์"
จักรวรรดิธุรกิจข้ามทวีป
Prince Holding Group เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ดำเนินธุรกิจในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์ บริการทางการเงิน และธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคตั้งแต่ปี 2015 จักรวรรดิธุรกิจนี้มีความโดดเด่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 2 พันล้านเหรียญ รวมถึงศูนย์การค้าขนาดใหญ่ Prince International Plaza ในกรุงพนมเปญ
ผลกระทบต่อพนักงานและชุมชน
บริษัทระบุว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้ "ได้สร้างความเสียหายอย่างไม่ยุติธรรมต่อพนักงาน พันธมิตร และชุมชนผู้บริสุทธิ์หลายพันคนที่กลุ่มบริษัทให้บริการ" อย่างไรก็ตาม อัยการกล่าวหาว่าบริษัทเป็นอิทธิพลที่ก่อให้เกิดการเสื่อมเสีย ด้วยการดำเนินเครือข่ายออนไลน์ที่ซับซ้อนเพื่อหลอกลวงผู้คนด้วยการต้มตุ่นทางความรักหรือธุรกิจ และฟอกเงินดำเนินการผ่านสกุลเงินดิจิทัล
การดำเนินงานหลอกลวงไซเบอร์ขยายตัวอย่างรวดเร็วทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมักดำเนินการจากอาคารสำนักงานหรือโรงงานที่ดูไม่น่าสงสัย ซึ่งนักต้มตุ่นเล็งเหยื่อที่อาศัยอยู่ในซีกโลกอีกฟาก กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเรียก Prince Group ว่าเป็น "หนึ่งในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย" และระบุว่า เฉิน จื้อ ซึ่งมีสัญชาติอังกฤษ-กัมพูชายังคง "หลบหนีอยู่"
