คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการผลิตสุรา (ฉบับใหม่) ที่เสนอโดยกระทรวงการคลัง เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดในการประกอบธุรกิจสุราของผู้ผลิตรายย่อย สนับสนุนสุราชุมชน และต่อยอดเศรษฐกิจ Soft Power ผ่านภูมิปัญญาพื้นบ้านไทย
เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เผย ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ถือเป็นการ ‘เปิดทางใหม่’ ให้ผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะคราฟต์เบียร์และสุราชุมชน ได้เข้าถึงตลาดได้มากขึ้น และมีโอกาสแข่งขันอย่างเป็นธรรม
3 จุดเปลี่ยนสำคัญในร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ ได้แก่
1. ขายเบียร์สด-คราฟต์เบียร์นอกโรงได้
ถือเป็นการ “ขยายโอกาสให้โรงเบียร์ Brew Pub เบียร์สดและคราฟต์เบียร์ สามารถบรรจุถัง Keg ออกขายนอกสถานที่ได้” ช่วยสร้างรายได้และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสุรารายย่อยสามารถขยายตลาดทางการค้า และมีการเติบโตทางธุรกิจได้ทั่วประเทศ
2. การคลายข้อจำกัด เรื่อง ‘สถานที่ผลิตสุราชุมชน’
มีการแก้ไขหลักเกณฑ์เดิม ด้าน “ปัญหาสุราชุมชนไกลแหล่งน้ำ” โดยปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับสถานที่ตั้งโรงงานขนาดเล็กและขนาดกลาง สามารถตั้งอยู่ห่างจากแหล่งน้ำสาธารณะน้อยกว่า 100 ม. แต่ต้องให้มีระบบบำบัดน้ำเสียที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม
3. เปิดทางรายย่อยตั้งโรงงานขนาดกลางทันที
ขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพสามารถตั้งโรงอุตสาหกรรมขนาดกลางได้ทันที โดยไม่ต้องรอเป็นโรงอุตสาหกรรมขนาดเล็ก 1 ปี (ยกเลิกจากเงื่อนไขเดิมที่ต้องเริ่มจากโรงงานขนาดเล็กก่อน 1 ปี) เพื่อเป็นการยกระดับความสามารถในการแข่งขันทางการค้าให้กับผู้ประกอบการสุรารายย่อย
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิต ยังเตรียมเดินหน้าแก้ไขข้อจำกัดอื่นๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อ ‘สุราชุมชน’ อีกหลายประเด็นในเร็วๆ นี้ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจฐานรากและการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ต่อยอดเศรษฐกิจใหม่ผ่าน Soft Power ไทยอย่างยั่งยืน
“นี่คือการสนับสนุนภูมิปัญญาชาวบ้านให้เป็นพลังเศรษฐกิจใหม่ของชาติ” เผ่าภูมิ กล่าว