BYD กำไรไตรมาส 3 ดิ่ง 33% ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดจีน

31 ต.ค. 2568 - 01:00

  • กำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2024 ลดลง 32.6% เป็น 7.8 พันล้านหยวน

  • รายได้รวม 195 พันล้านหยวน ลดลง 3% เมื่อเทียบปีก่อน

  • ยอดขายในสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น 272.1% ในเดือนกันยายน 2024

BYD กำไรไตรมาส 3 ดิ่ง 33% ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดจีน

บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน BYD รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2024 โดยกำไรสุทธิลดลง 32.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เหลือ 7.8 พันล้านหยวน (1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สอง ท่ามกลางความท้าทายจากการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัวและการแข่งขันสูงในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีน

ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2024

บริษัท รายงานรายได้รวมในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 195 พันล้านหยวน ลดลงเล็กน้อย 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน BYD ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเซินเจิ้น ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่มีการแข่งขันสูงและเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก

แรงกดดันจากตลาดภายในประเทศ

อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของจีนแม้จะเป็นผู้นำระดับโลก แต่การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดภายในประเทศส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทต่าง ๆ รวมถึง BYD องค์กรชั้นนำของอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2024 ได้วิพากษ์วิจารณ์ผู้ผลิตรถยนต์จีนที่เป็นตัวการสำคัญในการสร้างสงครามราคา หลังจาก BYD ประกาศมาตรการลดราคาแลกเปลี่ยนครั้งใหญ่เพียงสัปดาห์เดียว

การขยายตลาดสู่ต่างประเทศ

การขยายตลาดต่างประเทศของ BYD กำลังเริ่มให้ผลในทิศทางที่น่าพอใจ ในเดือนกันยายน 2024 บริษัทสามารถขายรถยนต์ได้มากกว่า 13,000 คัน ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ซึ่งเพิ่มขึ้น 272.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามรายงานของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (ACEA)

ผลงานโดยรวมและแนวโน้มอนาคต

การชะลอตัวในไตรมาสล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากช่วงการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยกำไรในไตรมาสแรกของปี 2024 เป็นสถิติสูงสุดใหม่ของบริษัทในรอบการรายงานนั้น ในปี 2024 รายได้ประจำปีของ BYD เกินกว่าคู่แข่งชาวอเมริกันอย่าง Tesla และทำรายได้ทะลุสำ 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์