ตลาด Bitcoin ในปัจจุบันยังคงแสดงสัญญาณเป็นบวก โดยนายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ชี้ให้เห็นว่า มีปัจจัยหลายประการที่ช่วยหนุนราคาในระยะยาว อย่างไรก็ตามเตือนให้นักลงทุนเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด
ปัจจัยเชิงบวกที่หนุนราคา Bitcoin
นเรศ เหล่าพรรณราย นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกา มีคำสั่งระงับแผนบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า ผู้นำประเทศใช้อำนาจฉุกเฉินเกินขอบเขต ถือหนึ่งในปัจจัยที่อาจช่วยหนุน ราคา Bitcoin ได้แต่ไม่มากนัก
"หากนโยบายภาษีมีการปรับเปลี่ยนในทิศทางที่ดีขึ้น เงินลงทุนจะไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง รวมถึง Bitcoin และตลาดหุ้น" นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย กล่าว
การที่ตลาดหุ้นฟื้นตัวจะส่งผลเชิงบวกต่อ Bitcoin เช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนมักมองทั้งสองสินทรัพย์นี้เป็นการลงทุนทางเลือกในยุคที่ระบบการเงินแบบดั้งเดิมมีความไม่แน่นอน
การยอมรับจากภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้น
นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ Bitcoin กำลังได้รับการยอมรับมากขึ้นจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะ ผู้ประกอบการหลายรายรายงานว่าการใช้ Bitcoin ในการชำระเงินช่วยลดต้นทุนได้ถึง 50% รัฐบาลระดับมลรัฐในสหรัฐฯ เริ่มออกกฎหมายสนับสนุนการลงทุนใน Bitcoin ประเทศต่างๆ เริ่มพิจารณานำ Bitcoin เข้ามาใช้ในระบบการชำระเงินมากขึ้น
แผนทุนสำรองเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ
นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย กล่าวว่า แม้ว่ายังไม่เห็นการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม แต่การประกาศให้ Bitcoin เป็นทุนสำรองเชิงยุทธศาสตร์ ของสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยบวกสำคัญ
"หากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เข้าซื้อ Bitcoin จริง นี่จะเป็นไพ่ใบสุดท้ายที่สามารถผลักดันราคาไปยังระดับสูงใหม่ได้"

เป้าหมายราคาและการวิเคราะห์เทคนิค
จากการวิเคราะห์กราฟเทคนิค นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย คาดการณ์ว่า Bitcoin มีเป้าหมายระยะสั้นที่ระดับ 120,000-130,000 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับระยะสั้น ราคาอาจยังมีโอกาสปรับฐานเล็กน้อย แต่ในระยะยาวยังคงมีแนวโน้มเป็นบวก
ความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องระวัง
เหตุการณ์ Black Swan ที่คาดไม่ถึง นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เตือนว่า ตลาด คริปโตเคอร์เรนซี อาจเผชิญกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงซึ่งสามารถทำให้ราคาปรับฐานแรงได้ 20-30% นั่นคือ Black Swan Event ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้แน่นอน แต่มักจะมีสัญญาณเตือนก่อนเกิดเหตุ
อย่างไรก็ตามมองว่าปัจจุบันมีความเสี่ยงหลักที่มาจาก ความผันผวนในตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ และญี่ปุ่น รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ และสำหรับผลกระทบจาก Bitcoin Conference ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่า หลังจากปี 2024 ราคา Bitcoin ปรับฐานลงประมาณ 20% แต่งาน Bitcoin Conference ปีนี้อาจเป็น ‘Event to Sell’ เนื่องจากราคาได้ปรับตัวขึ้นมาอย่างมากแล้ว
คำแนะนำสำหรับนักลงทุน
นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย แนะนำกลยุทธ์ลงทุนในระยะสั้นให้รอจังหวะที่เหมาะสมก่อนเพราะตอนนี้ราคาปัจจุบันอาจยังไม่เหมาะสำหรับการเข้าลงทุนใหม่ และควรรอการปรับฐาน 5-10% อาจเป็นโอกาสในการสะสม Bitcoin นักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรระยะสั้นควรระวังความผันผวนสูง
“ผมเชื่อมั่นว่า Cycle การเติบโตของ Bitcoin ในรอบนี้ยังไม่สิ้นสุด สตอรี่ใหญ่อย่างการที่รัฐบาลสหรัฐฯ เข้าซื้อ Bitcoin ยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้นยังมีพื้นที่สำหรับการเติบโตในอนาคต นักลงทุนระยะยาวยังคงมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี หากสามารถรับมือกับความผันผวนได้”
ข้อควรพิจารณาสำคัญ
1. อย่าประมาทความเสี่ยง: วิศวกรรมการเงินเป็นปัจจัยทั้งที่ช่วยขับเคลื่อนราคาขึ้นและลง
2. เตรียมพร้อมรับ Flash Sale: การขายทิ้งแบบกะทันหันอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
3. ติดตามข่าวสารจากตลาดพันธบัตร: เป็นแหล่งของความเสี่ยงระบบที่สำคัญ
4. กระจายความเสี่ยง: ไม่ควรลงทุนใน Bitcoin เพียงอย่างเดียว