ธ.กรุงเทพแก้บัญชีม้า ห้ามวีซ่านักท่องเที่ยวเปิดบัญชีใหม่ ระงับธุรกรรมของเดิม กระทบลูกค้ายุโรป

26 ส.ค. 2568 - 13:54

  • ธนาคารกรุงเทพ หยุดเปิดบัญชีใหม่ให้นักท่องเที่ยวตั้งแต่มกราคม 2025 และแช่แข็งบัญชีเดิมในเดือนพฤษภาคม

  • คดีฉ้อโกงจีนในพัทยาส่งผลเสียหาย 2,200 ล้านบาท จากบัญชีม้ากว่า 462 บัญชี

  • นักท่องเที่ยวรัสเซียและชาติอื่นๆ หลายหมื่นคนไม่สามารถเข้าถึงเงินในบัญชีได้

ธ.กรุงเทพแก้บัญชีม้า ห้ามวีซ่านักท่องเที่ยวเปิดบัญชีใหม่ ระงับธุรกรรมของเดิม กระทบลูกค้ายุโรป

การเปลี่ยนแปลงนโยบายของธนาคารกรุงเทพ ในการจำกัดบัญชีสำหรับผู้ถือวีซ่าท่องเที่ยวต่างชาติ กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการป้องกันอาชญากรรมทางการเงินของประเทศไทย หลังจากคดีฉ้อโกงครั้งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนใช้บัญชีม้าก่อความเสียหาย 2,200 ล้านบาท ทำให้ธนาคารต้องปรับมาตรการเข้มงวดอย่างฉับพลัน

นโยบายใหม่ส่งผลกระทบวงกว้าง

เมื่อเดือนมกราคม 2025 ธนาคารกรุงเทพ เริ่มหยุดเปิดบัญชีใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก่อนจะบังคับใช้มาตรการเข้มงวดกับบัญชีเดิมในเดือนพฤษภาคม การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวหลายชาติ โดยเฉพาะชาวรัสเซียที่มีบัญชีจำนวนมากถูกระงับทำธุรกรรม

การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากคดีฉ้อโกงครั้งใหญ่ในพัทยา เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2025 ตำรวจจับกุมบุคคลทั้งหมด 11 คน รวมถึงพนักงานธนาคารกรุงเทพ สาขาพัทยา 4 คน ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับแก๊งอาชญากรจีนในการเปิดบัญชีเพื่อใช้ในกิจกรรมฉ้อโกง

คดีพัทยา เปิดโปงเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ

เหตุการณ์ในพัทยากลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อคนจีน 15 คนเดินทางเข้าไทยด้วยวีซ่าท่องเที่ยวในเดือนมีนาคม 2025 และเปิดบัญชีที่สาขาพัทยาเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ก่อนจะออกจากประเทศในวันที่ 15 มีนาคม ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ บัญชีดังกล่าวถูกใช้ทำธุรกรรมเงินกว่า 118 ล้านบาท และถอนเงินออกไป 91 ล้านบาท

การสืบสวนเผยให้เห็นว่าพนักงานธนาคารได้รับเงินตอบแทนในการเปิดบัญชีแต่ละบัญชี สร้างแรงจูงใจให้พวกเขาข้ามขั้นตอนการตรวจสอบปกติ การกระทำนี้เป็นการประสานกันอย่างเป็นระบบที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารและเร่งกระบวนการเปิดบัญชี

ผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวรัสเซียและชาติอื่น

ชาวรัสเซียได้รับผลกระทบมากที่สุดจากนโยบายใหม่ มีบัญชีหลายพันบัญชีถูกระงับ สถานทูตรัสเซียในไทยรับทราบปัญหานี้ โดยระบุว่ามีชาวรัสเซีย 40,000-50,000 คนที่พำนักอยู่ในไทยอย่างถาวรหรือระยะยาว หลายคนใช้ธนาคารกรุงเทพเป็นสถาบันการเงินหลัก

นอกจากชาวรัสเซียแล้ว นักท่องเที่ยวชาวยุโรป รวมทั้งเยอรมัน อิตาลี และสวิตเซอร์แลนด์ ก็ประสบปัญหาการระงับบัญชีเช่นกัน การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ทำให้นักท่องเที่ยวที่ถูกต้องตามกฎหมายไม่สามารถเข้าถึงเงินของตัวเองได้

เกณฑ์วีซ่าใหม่และข้อกำหนดเอกสาร

ภายใต้นโยบายใหม่ วีซ่าท่องเที่ยวทุกประเภท รวมถึง Destination Thailand Visa (DTV) ที่อนุญาตให้พำนักได้ถึง 180 วัน ไม่สามารถเปิดหรือรักษาบัญชีธนาคาร เกณฑ์การมีสิทธิ์จำกัดให้เฉพาะผู้ถือวีซ่าประเภทนอน-อิมมิแกรนต์ วีซ่าเกษียณ หรือการแต่งงานกับคนไทย

ผู้ถือบัญชีเดิมจะต้องแสดงเอกสารวีซ่าที่ปัจจุบัน หลักฐานสถานะทางกฎหมายในไทย และเอกสารตรวจสอบตัวตนเพิ่มเติม การไม่สามารถแสดงเอกสารสถานะวีซ่าในปัจจุบันจะส่งผลให้บัญชีถูกระงับจนกว่าจะสามารถจัดหาเอกสารที่เหมาะสมได้

มาตรการป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน

การดำเนินการของธนาคารกรุงเทพสะท้อนถึงความพยายามของไทยในการปรับปรุงมาตรฐานการป้องกันการฟอกเงินให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล คดีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนแสดงให้เห็นถึงช่องโหว่ในระบบการเงินที่อาชญากรข้ามชาติใช้ประโยชน์

แก๊งอาชญากรใช้ความง่ายในการขอวีซ่าท่องเที่ยว และการเปิดบัญชีธนาคารเป็นจุดแข็งในการดำเนินงาน พวกเขาสามารถสร้างบัญชีหลายบัญชีอย่างรวดเร็ว ทำธุรกรรมการเงินที่ได้จากการฉ้อโกง ถอนเงิน และออกจากประเทศก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในยุคที่ความปลอดภัยทางการเงินกลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ความสมดุลระหว่างการป้องกันอาชญากรรมกับการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่ถูกต้องจะอยู่ที่จุดใด และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลกอย่างไรในระยะยาว?

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์